‘อนุทิน’นำครม.เข้าเฝ้าฯ‘ในหลวง ถวายสัตย์ปฏิญาณ เรียกประชุมครม.นัดแรกทันที

‘อนุทิน’นำครม.เข้าเฝ้าฯ‘ในหลวง ถวายสัตย์ปฏิญาณ เรียกประชุมครม.นัดแรกทันที

วันพฤหัสบดี ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.


‘อนุทิน’นำครม.เข้าเฝ้าฯ‘ในหลวง
ถวายสัตย์ปฏิญาณ
เรียกประชุมครม.นัดแรกทันที
ก่อนแบ่งงานให้รองนายกฯ
‘วันนอร์’ถกวิป3ฝ่าย25ก.ย.
เคาะวัน‘รบ.’แถลงนโยบาย

ทำเนียบฯ รับครม.ชุดใหม่ หลังเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ ประชุมครม.นัดแรก แบ่งงานรองนายกฯ- รมต.ประจำสำนักนายกฯ แต่งตั้ง“ไตรศุลี”นั่งเลขานายกฯ กำชับพรรคร่วมรบ.เร่งเสนอ ชื่อขรก.การเมือง หลังต้องใช้เวลาตรวจสอบ คุณสมบัติ ด้าน“โกหนอ”เผย“เสี่ยต่อ” ทิ้ง“ปชป.”แน่ หลังส่ง“มาร์ค”รีเทิร์นหัวหน้าพรรค 18 ตุลาคม เตรียมคุย“อภิสิทธิ์” เชื่อ“เฉลิมชัย”ซบ’ภท.’มากกว่า’กล้าธรรม’เหตุ’เดชอิศม์’ไปแล้ว ลั่นพร้อมอยู่กับ’ปชป.’แต่ต้องไม่มี’สาทิตย์’ไม่งั้นไป’ภท.’

เมื่อวันที่ 24กันยายน2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล เริ่มมีเจ้าหน้าที่เข้ามาจัดเตรียมสถานที่โดยรอบทำเนียบรัฐบาล โดยช่วงเช้าคนสวนประจำทำเนียบรัฐบาลเข้ามาตัดหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมสถานที่สำหรับ ถ่ายภาพหมู่ของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ โดยกำหนดการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จะนำ ครม.เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณที่พระที่นั่งอัมพรสถาน ในเวลา 18.00น.ขณะที่ เวลา 14.00น.ครม.ทั้งหมดจะถ่ายรูปเดี่ยวติดบัตร ที่ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี และตรวจ ATK ที่ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี


รมต.ป้ายแดงเข้าทำเนียบฯถ่ายรูป

จากนั้นเวลา 15.30น.มีการถ่ายภาพหมู่ที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้าและเวลา 16.00น.ครม.เดินทางออกจากตึกสันติไมตรี ไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน ภายหลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ จะมีการประชุม ครม.นัดแรก ที่ห้อง501 ตึกบัญชาการ1 ซึ่งมีวาระสำคัญที่จะมีการเสนอให้ครม.เห็นชอบ คือ ร่างนโยบายของครม.แถลงต่อรัฐสภา การแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีและรมต. ประจำสำนักนายกฯ และการเสนอแต่งตั้ง น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส่วนการแต่งตั้งข้าราชการทางการเมืองจะมีการแต่งตั้งในการประชุมครม.ครั้งถัดไป ทั้งนี้ การประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่พรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้กำชับให้พรรคร่วมรัฐบาลเร่งเสนอรายชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งข้าราชการทางการเมือง เนื่องจากต้องใช้เวลาในการตรวจสอบคุณสมบัติ พร้อมกันนี้ในที่ประชุมแกนนำพรรคภูมิใจไทยยังได้เน้นย้ำว่า จะยุบสภาภายใน 4เดือนแน่นอน

เวลา 13.05น.นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทางมาถึง ตามด้วย พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมว.กลาโหม นายองอาจ วงษ์ประยูร รมช.ศึกษาธิการ เวลา 13.20น.พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม เดินทางมาถึง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงความหนักใจในการทำหน้าที่หรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องคดีเขากระโดง พล.ต.ต.รุทธพลไม่ได้ตอบคำถาม แต่ยิ้มเพื่อให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพ ก่อนจะเข้าตึกสันติไมตรีไปทันที จากนั้น บรรดารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ทยอยเดินทางมาถึง อาทิ นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รมช.สาธารณสุข นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

‘อนุทิน’ช่วยติดปกเสื้อให้’ไชยชนก’

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เดินทางด้วยรถยนต์ Lexus Lm 350h Executive 7-Seater สีขาว ทะเบียน พม28กรุงเทพมหานคร เข้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อมาถึงได้ทักทาย นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและน.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วานิช รมช.คมนาคม ที่มารอต้อนรับ โดย นายอนุทิน ได้ช่วยติดตะขอที่ปกคอเสื้อให้ นายไชยชนก นักข่าวจึงแซวนายกฯว่า ทำหน้าที่แทนพ่อ นายกฯ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “อาๆ”จากนั้นนายกฯ เดินเข้าตึกสันติไมตรี เพื่อไปเปลี่ยนชุดปกติขาว โดยนายกฯได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าด้วยว่า ไปย้อมผมสีดำมา

นายกฯพูดย้ำ2ครั้ง’หนู นัส เฮง’

เวลา 15.00น.คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันที่สนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง ครม.ถ่ายภาพหมู่เสร็จสิ้น นายอนุทินและรัฐมนตรี เดินไปยังตึกบัญชาการ1 เพื่อรวมตัวกันที่ห้องประชุม510 เพื่อรอเวลาเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณที่พระที่นั่งอัมพรสถานผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินมายังตึกบัญชาการ1 นายกฯกวักมือเรียก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ให้มาเดินด้วยกันข้างๆ ก่อนแซวอย่างอารมณ์ดีว่า“หนู นัส เฮ้ง” พูด2ครั้ง ก่อนจะพูดอีกว่า“หนู นัส เฮง”ก่อนที่ ครม.จะขึ้นรถเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลพร้อมกัน

‘วันนอร์’ยัน25ก.ย.รู้วันแถลงนโยบาย

ด้าน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงวันแถลงนโยบายของรัฐบาลว่า จะต้องรอทางรัฐบาลแจ้งมาว่าพร้อมวันไหน ซึ่งวันนี้นายกรัฐมนตรีนําคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว วันที่ 25ก.ย.นี้ ก็คงจะยืนยันมาว่าพร้อมแถลงนโยบายวันไหน จากนั้นจะนําเข้าหารือในที่ประชุมวิป3ฝ่าย ที่จะประชุมเวลา 14.00น.จึงจะได้วันชัดเจน ดังนั้นวันที่ 25ก.ย.จะได้ข้อสรุปทั้งหมดว่า จะประชุมวันไหนกี่วัน แบ่งฝ่ายละกี่ชั่วโมงในการอภิปรายและจะนําเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าหารือด้วย เมื่อถามว่า จะใช้เวลาแถลงนโยบายกี่วัน ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับที่ประชุมวิป แต่ก่อนการแถลงต้องส่งเอกสารเล่มให้สมาชิกล่วงหน้า 3วัน หากเป็นเรื่องด่วนมากและมีความจําเป็นจริงๆ ประธานรัฐสภาอาจขอให้เหลือเพียง1วันได้ แต่ทั้งหมดจะได้ข้อสรุปวันที่ 25กันยายน

‘สุชาติ’อุบไต๋16สส.เข้า’ภูมิใจไทย’

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16ส.ส.) เปิดเผยถึงอนาคตทางการเมืองจะไปสังกัดพรรคใด โดยระบุว่า สำหรับตนคนเดียวไม่ได้สังกัดพรรคใด แต่เพื่อนที่ยังสังกัดพรรคเดิมเราก็มีต้องมารยาท ถ้าพูดอะไรออกไปทุกคนอาจจะไม่สบายใจ เพราะทุกคนยังต้องลงพื้นที่อยู่ แต่ระยะเวลาอีก 4 เดือนข้างหน้าที่เราตกลงกันไว้ก็มีระยะเวลาในการที่จะไปสังกัดพรรคการเมืองภายใน 30วันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม วันนี้เรามาร่วมรัฐบาล มาดูและมาเป็นกำลังให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และรมว.มหาดไทย เราตั้งใจและเลือกเฟ้นคนที่จะนำพาประเทศไปสู่เป้าหมาย มีความเจริญรุ่งเรือง มีความเท่าเทียมกันของประชาชนไทยทั้งหมด

ผลงานรบ.ช่วง4เดือนเป็นตัวชี้วัด

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่ม 16ส.ส.จะไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ใช่หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า เราคุยกันทุกวัน หากเราจะเดินหน้าหรือไปสังกัดพรรคใดต้องดูว่าเราไปทับซ้อนกับเขตใครหรือไม่ มันยากตรงที่ว่าเราจะไปทับพื้นที่กัน ซึ่งเราต้องมีการเจรจาหากจะไปตรงจุดที่ตั้งเป้ากันไว้ ถามว่า แสดงว่ามีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกับคนในพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า สส.ไม่ทับซ้อนอยู่แล้ว เพราะส.ส.1คน ก็1เขต แต่แค่บางจังหวัดอาจจะมีแกนนำซึ่งจะต้องไปทำความเข้าใจว่าถ้าเพื่อนเราไปอยู่ด้วยแล้วจะติดขัดอะไรหรือไม่ ถ้าติดขัดตรงนี้ก็ต้องไปหาที่อยู่ให้เหมาะสม

ผู้สื่อข่าวว่า เวลา 4เดือน จะประกาศให้ประชาชนรู้หรือไม่ว่า จะไปสังกัดพรรคใด นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะวันนี้เรามาร่วมรัฐบาล เราเชื่อว่าผลงานที่ออกมาในระยะ4เดือน สามารถจับต้องได้แน่นอน เพราะนายอนุทิน เป็นนักการเมือง รู้ความต้องการประชาชน รู้ระบบบริหารประเทศ รู้ระบบการบริหารพรรคการเมือง เชื่อว่า 4เดือน นายกฯทำงานได้ และเราที่ทำงานร่วมกับนายกฯก็จะมีผลงานเอง ถึงเวลานั้นประชาชนจะเลือกตัว สส.เป็นหลักก่อน เพราะมองแล้วเป็นที่พึ่งพิงของประชาชนได้

‘เดชอิศม์-ลูก’ยังอยู่ปชป.สยบซบกธ.

นายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กสั้นๆ ว่า “ผมยังอยู่ “ประชาธิปัตย์” ครับ”ลูกชายเดชอิศม์’ลั่นชีวิตการเมืองเริ่มที่นี่ ยันอยู่‘ปชป.’ต่อ หลังสะพัดพ่อถอนสมอไปกล้าธรรม ด้าน นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง หรือสส.สิงโต สส.สงขลา พรรค ปชป.บุตรชาย นายเดชอิศม์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “ผมอยู่พรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิม ชีวิตการเมืองผม เริ่มต้นที่นี่ ก็จะอยู่ตอบแทนพรรคนี้ ไม่ทิ้งกันยามลำบาก มาช่วยกันฟื้นฟูพรรคคนใต้บ้านเรากันนะครับ

‘โกหนอ’เผย’เสี่ยต่อ’ทิ้ง’ปชป.’แน่

นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ หรือโกหนอ บ้านใหญ่ จ.ตรัง ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย ถึงอนาคตทางการเมืองยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สมัยหน้าก็ไม่อยู่ประชาธิปัตย์แล้ว ว่า เมื่อวาน (23 ก.ย.) นายเฉลิมชัย มารับประทานอาหารกับตนที่ จ.ตรังและนั่งคุยกัน ตนถาม นายเฉลิมชัย 3ประเด็น 1.ยังอยู่ประชาธิปัตย์หรือไม่ 2.ยังทำการเมืองต่อหรือไม่ และ 3.ถ้าทำการเมืองต่อ แล้วไปที่ไหน ซึ่งคำตอบที่ได้ ในประเด็นแรก นายเฉลิมชัยบอกว่า เขาคงไม่กลับไปประชาธิปัตย์แล้ว แต่จะช่วยดำเนินการให้มีการเลือก หัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันที่ 18 ตุลาคานี้ ให้เสร็จสิ้น หลังจากนั้นก็คงจะออกจากพรรค และเมื่อตนถามว่า นายเฉลิมชัยสนับสนุนใคร ก็ตอบไม่ชัดเจน แต่ฟังแนวโน้มน่าจะไปทาง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ วันที่ 25กันยายน เขาจะนัดเจอกัน

อาจย้ายไปอยู่’กล้าธรรม.’หรือ’ภท.’

นายสมชาย กล่าวต่อว่า ประเด็นที่2ถามว่า จะทำการเมืองต่อหรือไม่ นายเฉลิมชัย บอกว่า ขอไปพบ ส.ส.ประชาธิปัตย์ให้ครบทุกคนก่อนแล้วจะถามความคิดแต่ละคน เพราะนายเฉลิมชัย เป็นห่วง ส.ส.ของพรรคว่าจะเดินไปทางไหน หรือจะแตกฉานซ่านเซ็น จะไปรวบรวมทั้งหมดดูว่าจะไปอย่างไร และประเด็นที่ 3 ตนถามว่า ถ้าทำการเมืองต่อจะไปพรรคไหนหรือทำการเมืองเอง นายเฉลิมชัย บอกตรงๆ ว่า น่าจะมี2พรรค คือพรรคกล้าธรรม กับภูมิใจไทย ซึ่งไม่ทราบว่า ทำไมถึงเป็น 2พรรคนี้ เพราะเป็นความคิดที่นายเฉลิมชัยพูด ออกมา โดยนายเฉลิมชัย บอกว่า เพราะกระแสเขามีในภาคใต้ เนื่องจากเสียงส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้

เมื่อถามว่า คิดว่านายเฉลิมชัย ให้น้ำหนักพรรคไหนมากกว่ากันระหว่างพรรคกล้าธรรมกับพรรคภูมิใจไทย นายสมชาย กล่าวว่า นายเฉลิมชัย บอกว่า ยังไม่ฟันธง แต่ขอเวลาอีก1อาทิตย์ เพื่อไปเจอกับ ส.ส.ของประชาธิปัตย์ทุกคนว่า จะเอาอย่างไร ซึ่งตนรู้ว่า นายเฉลิมชัย เป็นห่วงทุกคนว่า ทุกคนจะไปอย่างไร แต่ถ้าทุกคนมีทางเลือกของตัวเองแล้ว นายเฉลิมชัย ก็จะต้องวางมือ

ตัวเองขอเลือกอยู่’ปชป.’หรือ’ภท.’

“ส่วนผมมี 2ทางเลือก ตราบใดที่เสี่ยงต่อยังอยู่ประชาธิปัตย์ ผมไม่ไปไหน แต่วันนี้เสี่ยต่อชัดเจนแล้วว่า ไม่อยู่ปชป.แต่ไม่ได้หมายถึงว่า ผมจะต้องไปกับเสี่ยต่อ อย่างเดียว ผมอาจจะอยู่ประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ 2 ทางเลือกที่เสี่ยต่อ บอกว่า กล้าธรรมกับภูมิใจไทย แต่ผมมองว่า ผมมี2ทางเลือกคือ ประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทย ซึ่งเขต 1เขต2 จ.ตรัง ก็อยู่กับพรรคภูมิใจไทยอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณอภิสิทธิ์ มาเป็นหัวหน้าพรรคผมค่อนข้างพอใจ แต่มีเงื่อนไขข้อหนึ่งว่า ถ้ามี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ต้องไม่มี สมชาย ผมชัดเจน เพราะเวลาเราขัดแย้งกัน ไม่มีใครไกล่เกลี่ยเลย ปล่อยให้เราสู้กันเองวันนี้เป็นโจทย์ที่ยากสักหน่อย แต่ถ้า คุณอภิสิทธิ์ มาผมก็สนับสนุน เพราะเป็นบุคคลมีความสามารถและเหมาะสม หากมี นายสาทิตย์ สมชาย จะไปอยู่ภูมิใจไทยหรือไม่ ก็อีกเรื่องหนึ่ง” นายสมชายกล่าว

เมื่อถามว่า หากไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยเท่ากับว่า จ.ตรัง เป็นของภูมิใจไทยยกทีมใช่หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะในจังหวัดตรังเราก็เหนียวแน่น อาจจะคนละพรรคแต่ละเราก็พวกเดียวกันทั้ง 4 คน ต่อข้อถามว่า ทำไม นายเฉลิมชัย จึงอยู่ประชาธิปัตย์ไม่ได้ นายสมชาย กล่าวว่า นายเฉลิมชัยน่าจะคับแค้นใจ ไปนอนอยู่ที่จังหวัดประจวบฯ10วันแล้วตัดสินใจลาออกโดยไม่บอกใคร เพราะถ้ามีคนรู้ก็จะออกไม่ได้ลาออก แต่ตอนนี้เห็นหน้าตาสดใส แสดงว่าสบายใจและเป็นห่วงน้องๆ ส.ส.หลายคนที่ดูแลอยู่ว่าจะอยู่อย่างไร ขอเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วจะชัดเจน

ต่อข้อถามว่า อะไรที่ทำให้นายเฉลิมชัยแค้นใจมากๆ หรือแค้นใจนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รักษาการเลขาธิการพรรค นายสมชาย กล่าวว่า น่าจะมีส่วนด้วย เพราะบางทีหากเดินไปก็ลำบาก บางคนบอกว่า “หน่อแก่กว่าลำ” ก็ลำบาก ถามอีกว่า มีข่าว นายเดชอิศม์ จะยกทีมไปอยู่พรรคกล้าธรรม หากเป็นเช่นนี้นายเฉลิมชัย ก็ไม่ไปพรรคกล้าธรรมใช่หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ก็ไม่แน่ อาจเป็นอย่างนั้นก็ได้

เชื่อ’อภิสิทธิ์’มีโอกาสนั่งหัวหน้าปชป.

เมื่อถามว่า นายเฉลิมชัยยังคุมเสียง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์อยู่กี่คน นายสมชายกล่าวว่า ทั้ง ส.ส.ส่วนใหญ่และกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค นายเฉลิมชัย ยังคุมได้ เพราะทั้งประธานสาขาพรรค และตัวแทนจังหวัด ยังเป็นคนของ นายเฉลิมชัย ตนคิดว่าน่าจะ80%ที่อยู่กับ นายเฉลิมชัย โดยมี ส.ส.อยู่ในมือประมาณ 18คน เมื่อหัก ส.ส.งูเห่าและผู้ใหญ่ของพรรคแล้ว ดังนั้นต้องดูว่า นายเฉลิมชัย จะมอบเสียงนี้ให้ใคร แต่ดูเหมือนชัดเจนแล้วมอบให้ นายอภิสิทธิ์ ทำให้โอกาสของ นายอภิสิทธิ์ จะนั่งเป็นหัวหน้ามีสูง

เมื่อถาม นายชัยชนะ อยู่กลุ่มเดียวกับ นายเดชอิศม์ ใช่หรือไม่ หรือต่างคนต่างเดิน นายสมชาย กล่าวว่า คงไม่ตามกันไป เพราะ นายชัยชนะ ก็มีแนวคิดเป็นของตัวเองและยืนยันว่า ยังอยู่พรรคปชป.แต่จะมีเงื่อนไขว่า ต้องเป็นเลขาธิการพรรค แล้วจะอยู่ที่เดิม แต่ถ้าไม่ได้เลขาธิการพรรค ก็ไม่แน่เหมือนกัน อย่างนี้หรือเปล่าไม่รู้ เพราะการเมืองปชป.ต้องดูกันวันต่อวัน แต่ของตนชัดเจนไม่มีอย่างอื่น

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top