เปิดร่างแก้รธน.ฉบับ‘เพื่อไทย’ กำหนด 151 สสร.-มอบดาบ‘รัฐสภา’คว่ำ

เปิดร่างแก้รธน.ฉบับ‘เพื่อไทย’ กำหนด 151 สสร.-มอบดาบ‘รัฐสภา’คว่ำ

วันพฤหัสบดี ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2568, 13.04 น.

เปิดร่างแก้รธน.ฉบับ‘เพื่อไทย’ กำหนด‘สสร.’ 151 คน จากการเลือกตั้ง 100 คน พ่วง 51 ตั้ง กมธ.ยกร่าง 27 คน ให้ดาบรัฐสภาล้มร่างสสร.

25 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาระสำคัญของร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ฉบับของพรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอให้ แก้ไข 2 ส่วน คือ


ส่วนแรกแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 156 ว่าด้วยหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ใน 4 ประเด็น คือ เห็นชอบต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ โดยให้มี สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เลือก สสร.  เห็นชอบรัฐธรรมนูญ และเห็นชอบญัตติจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ส่วนที่สอง คือ เพิ่มหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายหลังจากที่ประชาชนออกเสียงประชามติเห็นชอบให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งประกอบด้วยหลักเกณฑ์สำคัญ ได้แก่

1.สิทธิของผู้มีสิทธิยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือครม. ,สส. ,สส.รวมกับสว. และประชาชน รวมถึงแก้ไขการลงมติของสมาชิกรัฐสภาต่อการรับหลักการญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้ใช้เกณฑ์เสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกที่มีอยู่ของสองสภา

2.กำหนดให้มี สสร. 151 คน ที่มาโดยให้รัฐสภาเลือก 100 คน จากผู้สมัครเข้ารับการเลือกเป็น สสร. จากแต่ละจังหวัด จังหวัดละ ไม่น้อยกว่า 1 คน ทั้งนี้กำหนดขั้นตอนได้มาของผู้สมควรได้รับเลือกเป็น สสร.แต่ละจังหวัดต้องผ่านการเลือกตั้งของประชาชน ที่มียอดรวมทั้งสิ้น 300 คน

และอีก 51 คนมาจากการแต่งตั้งโดยรัฐสภา ที่เลือกจากบุคคลที่เหมาะสม หรือเลือกจากชื่อที่เสนอมาจาก 14 องค์กรได้แก่ 1.สภาผู้แทนราษฎร ที่เสนอชื่อบุคคลที่ไม่ได้เป็น สส. ตามสัดส่วนจำนวนสส.ของแต่ละพรรค รวม 15 คน 2.สว. เสนอชื่อบุคคลที่ไม่ได้เป็น สว. 5 คน 3.ครม. เสนอชื่อบุคคลที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี 5 คน 4.ที่ประชุมใหญ่ศาลฏีกาเสนอชื่อบุคคลที่ไม่เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา 1 คน 5.ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด เสนอชื่อบุคคลที่ไม่ได้เป็นผู้พิพากษาศาลปกครองสูงสุด 1 คน 6.สมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกรูปแบบ 3 คน 7.ที่ประชุมอธิการบดี สถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่เป็นนิติบุคคลทุกแห่ง ประชุมและเสนอชื่อ 2 คน 8.ที่ประชุมคณบดีคณะนิติศาสตร์และคณะรัฐศาสตร์หรือเทียบเท่าของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐทุกแห่ง ประชุมและเสนอชื่อบุคคล 2 คน

9.สมาคมวิชาชีพด้านกฎหมาย รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ 3 คน 10.สภานักศึกษาสถาบันอุดมศึกษาของรัฐทุกแห่งเสนอชื่อบุคคล 2 คน 11.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาเกษตรแห่งชาติสภาองค์กรลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สภาองค์กรของผู้บริโภค และมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย เสนอรายชื่อบุคคลองค์กรละ 1 รายชื่อ รวม 8 คน 12.สภาวิชาชีพสื่อมวลชนทุกแห่ง 2 คน 13.แพทยสภาและสภาวิชาชีพด้านสุขภาพ 2 คน และ 14.องค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนและกฎหมาย 1 คน 

ทั้งนี้กำหนดให้รัฐสภาเลือกภายใน 60 วันนับตั้งแต่มีเหตุให้ทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย ยังกำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการเลือกตั้งสสร. ให้เสร็จภายใน 60 วัน และหลังเลือกตั้งแล้วเสร็จต้องรับรองผู้สมควรได้รับเลือกเป็น สสร. ทั้ง 300 คนให้เสร็จภายใน 15 วัน จากนั้นส่งรายชื่อให้ รัฐสภาพิจารณาและลงมติเลือกโดยวิธีลับทีละจังหวัด ให้เหลือ 100 คน ตามสัดส่วนของสสร.ที่พึงมีแต่ละจังหวัด  ภายใน 15 วัน

ส่วนการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กำหนดให้ สสร. ตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 27 คนมาพิจารณา พร้อมกำหนดสัดส่วน กมธ.ยกร่าง ให้แต่งตั้งจากสมาชิก สสร. จำนวน 14 คน โดยให้คำนึงสัดส่วนภูมิภาคอย่างเป็นธรรม และเลือกจากบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ  คือ ด้านกฎหมายมหาชน 5 คน  ด้านรัฐศาสตร์หรือรัฐประศาสนศาสตร์ 5 คน ผู้มีประสบการณ์ด้านการเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน และร่างรัฐธรรมนูญ รวม 3 คน รวมจำนวน 13 คน

สำหรับระยะเวลาการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พรรคเพื่อไทย กำหนดให้ทำให้เสร็จภายใน 180 วัน พร้อมกำหนดข้อห้ามจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีผลเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ

เมื่อสสร. ทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วเสร็จ ให้เสนอต่อรัฐสภาเพื่อเห็นชอบภายใน 30 วันนับแต่ได้รับเนื้อหา ทั้งนี้ให้สิทธิรัฐสภาเสนอความเห็นให้แก้ไขเพิ่มเติมและสสร.ต้องแก้ไขเพิ่มเติมตามความเห็นหรือยืนยันร่างรัฐธรรมนูญได้โดยใช้เสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของสสร. และส่งคืนให้รัฐสภาเห็นชอบอีกครั้ง

แต่หากรัฐสภาโดยมติ 2 ใน 3 ของสมาชิกที่มีอยู่ไม่เห็นชอบ ถือว่าร่างรัฐธรรมนูญตกไป และให้สสร.ทำร่างใหม่ภายใน 90 วัน ภายใต้การเสนอญัตติของครม. สส. สส.และสว. ซึ่งกำหนดให้ทำได้เพียง 1 ครั้งของสมัยสภา ส่วนกรณีที่รัฐสภาได้รับความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ ให้ส่งเนื้อหาให้กกต.จัดการออกเสียงประชามติเพื่อขอความเห็นชอบจากประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเป็นที่น่าสังเกตว่าร่างแก้ไขเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทย ไม่มีข้อห้ามบุคคลที่เป็น สสร. หรือกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ดำรงตำแหน่งต่างๆ ทางการเมือง การบริหารหรือองค์กรอิสระแต่อย่างใด   

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top