​เจอปัญหาองค์ประชุม! ‘สภาฯ’แตะเบรค‘ร่างกม.อากาศสะอาด’

​เจอปัญหาองค์ประชุม! ‘สภาฯ’แตะเบรค‘ร่างกม.อากาศสะอาด’

วันพฤหัสบดี ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2568, 15.08 น.

เจอปัญหาองค์ประชุม! "สภาฯ"แตะเบรค"ร่างกม.อากาศสะอาด" ด้าน"พท."ชงให้ถกเคส"ถนนทรุด"หวังเสนอแนะทางออกให้"นายกฯอนุทิน"ไปสางปัญหาให้คนกรุงฯ

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งมี นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ.พิจารณาแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาทำเนื้อหาสาระ นานกว่า 1 ปี 8 เดือน ก่อนเสนอให้สภาฯ พิจารณาวาระสอง และวาระสาม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดนั้น กมธ.มีการแก้ไขเพิ่มเติมและเพิ่มบางมาตราขึ้นใหม่ ทำให้มีเนื้อหาเกือบ 300 มาตรา ทำให้นายไชยา แจ้งกับที่ประชุมก่อนเริ่มวาระพิจารณาว่า เนื้อหาสาระมีผู้ขออภิปรายน้อย แต่ต้องใช้การลงมติเกือบทุกมาตรา

ผู้สื่อข่าวรายงาานว่า บรรยากาศของการประชุมต้องใช้เวลารอองค์ประชุมนานกว่า 5 นาที ตั้งแต่มาตราแรก จนถึงมาตรา 15 พบว่ามีผู้แสดงตนเป็นองค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่งมาเพียง 6 - 7 เสียงเท่านั้น และเมื่อที่ประชุมได้พิจารณามาถึงมาตรา 16 พบว่าบรรยากาศการประชุมเรื่องตึงเครียด เนื่องจากต้องใช้เวลารอองค์ประชุมนานเกือบ 10 นาที และเลยเวลา 12.00 น.ทำให้ นพ.ภูมินทร์ ลีกิจธีรประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย หารือว่า ขอให้พักการประชุมเพื่อให้ไปรับประทานอาหารกลางวัน แต่หากที่ประชุมไม่พักตนจะขอพักเอง

ทั้งนี้ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ลุกอภิปรายว่า ตนไม่ขัดข้องที่จะพักการประชุม เพราะเห็นใจ สส.แต่ตนชักเหลืออด ในห้องประชุม สส.พรรคภูมิใจไทย สส.พรรคประชาชน นั่งครบ แต่พรรคไหนหายไปตนขอไม่พูด หากพักทานข้าวขอให้แจ้ง สส.ทุกพรรคกลับมาเป็นองค์ประชุม มาร่วมทำกฎหมายที่ ครม.ชุดที่แล้วเสนอและคนที่นำไปหาเสียงไม่ใช่พรรคตน แต่พรรคตนต้องมาแบก ตั้งแต่เมื่อวานนี้

"หากทำแบบนี้ 50 - 60 คน ผมพร้อมถอนฟืนจากไฟ หากอะไรจะเกิดก็เกิด ในห้องประชุม กมธ.ที่นั่งอยู่เห็นแบบเดียวกัน แต่ประชาชนมองไม่เห็น ว่าใครที่หายไป ดังนั้นหากอยู่ในสภาพนี้ ขอให้ถอนออกไป หาก กมธ.ตามพรรคพวกไม่ได้ ขอให้ถอน พร้อมเมื่อไรกลับมา สภาฯ เหลือเวลาไม่มาก จะได้ใช้เวลาพิจารณากฎหมายฉบับอื่นที่ สส.เห็นความสำคัญมากกว่านี้" นายกรวีร์ อภิปราย

ขณะที่ สส.พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นชี้แจงว่า สส.พรรคเพื่อไทย เห็นความสำคัญกับร่างกฎหมายดังกล่าว และ สส.พร้อมอยู่ในห้องประชุม หากไม่พักประชุมต้องให้ สส.หลบกันไป ทำให้นายไชยา กล่าวว่า ตนขอให้แสดงตนก่อน และจะพิจารณาว่าจะให้พักหรือไม่ ทั้งนี้ พบว่าต้องใช้เวลารอการแสดงตนเกือบ 10 นาที

ทำให้ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า กฎหมายนี้ยอมรับลงมติต่อเนื่องเยอะที่สุดตั้งแต่มีสภาฯ มา ตนไม่มีปัญหาพักประชุม แต่ไม่มั่นใจว่าพักแล้วจะไม่หนี ดังนั้น ตนขอว่าหากองค์ประชุมไม่ครบ ให้แจ้งและปิดประชุมจะได้รู้ว่าหายไปกี่คน

ทั้งนี้ เมื่อปิดการแสดงตน พบมี สส.มาแสดงตนเป็นองค์ประชุม 253 คน เกินองค์ประชุมที่ต้องใช้ 246 เสียง มาเพียง 7 เสียงเท่านั้น จากนั้นได้ลงมติผ่านมาตรา 16 ก่อนจะพักประชุมไป 40 นาที

ต่อมาเมื่อกลับมาประชุมอีกครั้ง นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ ว่า พรรคเพื่อไทยปรึกษากับที่ประชุมว่า ขอให้พักการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการอากาศสะอาดออกไปก่อน และเลื่อนไปประชุมสัปดาห์หน้า เพื่อให้สภาฯหารือต่อปัญหาเฉพาะหน้า คือ ถนนสามเสน ช่วงหน้าวชิรพยาบาลทรุดเป็นหลุมลึก เพราะทำให้ประชาชนขวัญผวาและเป็นโอกาสที่สภาฯ จะหารือเสนอแนะให้ นายอนุทิน ชายวีรกูล นายกฯ และรมว.มหาดไทย ได้พิจารณาสิ่งที่เป็นประโยชน์คน กทม.รวมถึงขวัญกำลังใจความมั่นคงของวิศกรรมของประเทศไทยในการสร้างรถไฟ

อย่างไรก็ตาม สส.พรรคประชาชน เห็นแย้งและขอให้เดินหน้าต่อ โดย นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน อภิปรายว่า ปัญหาไม่ใช่อยู่ที่ว่า อากาศสะอาด หรือถนนทรุด อะไรสำคัญกว่ากัน แต่คือ พรรคเพื่อไทยไม่สามารถให้คนมาร่วมประชุมได้ ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้า ตนจับเวลาพบว่าแม้ไม่มีการอภิปราย แต่ต้องใช้เวลารอองค์ประชุม 3 - 8 นาที ดังนั้น เมื่อคิดเวลา 300 มาตรา ทำให้ต้องเสียเวลาถึง 15 ชั่วโมง เพื่อรอพรรคเพื่อไทยเป็นองค์ประชุม

ทำให้ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โต้แย้งว่าตนแจ้งว่า สส.พรรคเพื่อไทย พยายามเป็นองค์ประชุม ให้ความร่วมมือ ตนอยากให้กฎหมายผ่าน และมีอีกหลายฉบับที่รอเข้าสู่วาระของสภาฯ ตนแต่ไม่อยากให้กล่าวหากันเพราะไม่ถูกต้อง เพราะฐานะฝ่ายค้านได้รับผิดชอบต่อองค์ประชุม ไม่เหมือนบางพรรคที่ประกาศว่าอยู่อย่างไร้ตัวตนก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี ก่อนที่ประชุมจะโต้แย้งกันนานกว่านี้ นายไชยา วินิจฉัยว่าขอให้ที่ประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.จนถึงส่วนที่ 3 ไปพอสมควร ก่อนจะเลื่อนการพิจารณาไปสัปดาห์ถัดไป เพื่อให้สภาฯ พิจารณาถึงประเด็นถนนทรุด ทำให้นายจักรพล ชี้แจงว่าขอความร่วมมือสภาฯ พิจารณาเนื้อหา ซึ่งร่างกฎหมายนี้ทำมา 1 ปี 8 เดือน ผลักดันมานาน ยอมรับว่าเมื่อมีร่างกฎหมายเสนอมา 7 ฉบับต้องพิจารณาให้รอบคอบและมีมาตรากว่า 278 มาตรา ดังนั้น ขอความร่วมมือให้ผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าว อย่างไรก็ดีหากจะเลื่อนออกไปเป็นการประชุมครั้งถัดไป ไม่ขัดข้อง

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top