‘กมธ.นิรโทษฯ’ถกนัดสุดท้าย ยันไม่ปล่อยผี‘กลุ่มทำให้มีผู้เสียชีวิต-ทุจริต-ม.112’

‘กมธ.นิรโทษฯ’ถกนัดสุดท้าย ยันไม่ปล่อยผี‘กลุ่มทำให้มีผู้เสียชีวิต-ทุจริต-ม.112’

วันพฤหัสบดี ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2568, 16.30 น.

"กมธ.นิรโทษกรรม"ถกนัดสุดท้ายสรุปภาพรวม เตรียมชงเข้าที่ประชุมให้ทันสมัยฯนี้ ยันไม่ปล่อยผี"กลุ่มทำให้มีผู้เสียชีวิต-ทุจริต-ม.112" ผุดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาพฤติการณ์"กลับตัวกลับใจ"

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข พร้อมด้วย นายวีรภัทร ปริยวงศ์ , นายเอกชัย ไชยนุวัฒน์ โฆษกคณะกรรมาธิการ และนายนิกร จำนง กรรมาธิการฯ แถลงสรุปข้อมูลการศึกษาของคณะกรรมาธิการ ซึ่งในวันนี้ถือว่าเป็นนัดสุดท้ายของการประชุม


โดย นายวีรภัทร กล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข ได้แบ่งกรอบกฎหมายไว้ชัดเจน คือ 1.ระยะเวลาที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นช่วงไหน โดยจะเริ่มนับตั้งแต่ก่อนการทำรัฐประหารปี 49 จนถึงสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ก็จะไม่เลยวันที่มีการรับหลักการกฎหมายในสภาฯ 2.ต้องดูมูลเหตุจูงใจทำการเมือง การกระทำที่กระทำไปโดยพยายามที่แสดงออกในการชุมนุม เป็นเรื่องส่วนตัวหรือความผิดบางลักษณะ ตามที่สภาได้รับหลักการไว้ คือ ไม่นิรโทษกรรมความผิดที่เกี่ยวกับเรื่องที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึงแก่ความตาย เกี่ยวกับการทุจริต รวมถึงคดีกฎหมายอาญามาตรา 112 ทั้งนี้ ความผิดที่ได้จะได้รับการนิรโทษกรรมจะต้อง อยู่ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ ซึ่งเราพยายามอย่างยิ่งเพื่อให้ผู้ที่ได้ รับผลกระทบ จากความขัดแย้งทางการเมืองได้รับความช่วยเหลือมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสาขาอาชีพใดๆฉะนั้นบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัติจะระบุฐานความผิดเยอะมากขึ้นกว่าที่มีการรับหลักการ ในวาระแรกเพื่อช่วยทุกคนที่ตกเป็นเหยื่อหรือผู้ที่ถูกดึงเข้าไปในความขัดแย้งได้รับการช่วยเหลือ

นายวีรภัทร กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีการพูดถึงความรับผิดทางแพ่งด้วย ไม่ได้ไปนิรโทษกรรมทางแพ่ง แต่จะใช้วิธีกรณีที่ผู้เสียหายเป็นรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ก็จะไม่ฟ้องร้องบังคับคดีต่อ แต่ถ้าคดีใดฟ้องร้องบังคับคดีไปแล้วได้รับการชดใช้เยียวยาไปแล้วก็ไม่มีการส่งคืนนี่คือการพยายามสร้างความสมดุล ในเชิงความเป็นธรรมและเราก็เห็นใจ สำหรับบางคนที่ถูกบังคับคดีไปจนถึงขั้นล้มละลายไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ ดังนั้นจึงบอกว่าหนี้ทางแพ่งไม่ได้หายไปแต่ภาครัฐ ก็จะร่วมกระบวนการในการสร้างสังคมสันติสุขโดยการไม่ต้องไปบังคับคดีฟ้องร้องเพิ่มเติม ทั้งนี้ พระราชบัญญัติฉบับนี้ได้ให้มีการ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา ไม่ได้มีแค่เพื่อรับเรื่องว่าคนนี้จะต้องได้รับการช่วยเหลือนิรโทษกรรมเท่านั้นแต่มีอำนาจอื่นในการที่จะดูพฤติกรรมการกลับตัวกลับใจ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้อยากให้มีบทบาทในการจรรโลงทำให้บรรยากาศกลับเข้าสู่สภาวะสังคมที่สันติสุขเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริงไม่ใช่เขียนกฎหมายไปแล้วแล้วมาทะเลาะมาเถียงกันอีก

ขณะที่ นายเอกชัย กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ได้เพิ่มมาตรา 9/1 ถ้าเป็นผู้กระทำความผิดมีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ให้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมามีอำนาจในการจัดทำแผนแก้ไขบำบัดฟื้นฟูผู้กระทำความผิด

ส่วน นายนิกร กล่าวว่า กรรมาธิการมีความประสงค์ที่จะเสนอกฎหมายให้ทันการประชุมสภาฯ สมัยนี้ให้ได้ ซึ่งสัปดาห์หน้าจะยื่นต่อประธานสภา เพื่อจะเข้าสู่ที่ประชุมเข้าวาระ 2 และ 3 ต่อไป คาดว่าจะให้เร็วที่สุด

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top