ส่ง'อสส.'ชี้ขาดคดี'ทักษิณ' มติอัยการ 8 ต่อ 2 ไม่ยื่นอุทธรณ์หมิ่นเบื้องสูง

ส่ง'อสส.'ชี้ขาดคดี'ทักษิณ' มติอัยการ 8 ต่อ 2 ไม่ยื่นอุทธรณ์หมิ่นเบื้องสูง

วันศุกร์ ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2568, 15.59 น.

คกก.อัยการคดี ม.112"ทักษิณ"หมิ่นเบื้องสูง มีมติเบื้องต้น 8-2 ไม่อุทธรณ์ ส่งไม้ต่อ อสส.เคาะคนสุดท้ายอุทธรณ์คดีหรือไม่? ถ้าไม่อุทธรณ์คดีจบทันที

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวว่า คณะกรรมการพิจารณาคดีตามมาตรา 112 ของอัยการ มีการพิจารณาเเละมีมติเบื้องต้นไม่ยื่นอุทธรณ์คดี ที่ นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด (ขณะนั้น) โดยพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เเละความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 กรณีเมื่อปี 2558 นายทักษิณเคยให้สัมภาษณ์สื่อทีวีประเทศเกาหลีใต้ มีเนื้อหากระทบสถาบันฯ ซึ่งศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา เนื่องจากศาลเห็นว่า ผู้ที่ได้รับฟังคลิปเสียงวิดีโอ ล้วนเข้าใจตรงกันว่า จำเลยให้สัมภาษณ์โจมตีการยึดอำนาจและรัฐประหาร โดยพาดพิงถึง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และองคมนตรีเท่านั้น ไม่ได้พาดพิงหรือสื่อความหมายถึงสถาบันฯ ว่าอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติรัฐประหาร รวมทั้งการสืบพยานหลักฐานโจทก์ไม่สมกับภาระการพิสูจน์ในคดีอาญาว่าจำเลยกระทำความผิด จึงรับฟังไม่ได้


ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด คนปัจจุบัน มีคำสั่งให้นำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณากลั่นกรองของคณะกรรมการคดีมาตรา 112 ของอัยการ ที่มี นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอัยการสูงสุด ว่าที่อัยการสูงสุดคนใหม่ เป็นประธาน

โดยที่ประชุมมีมติเบื้องต้น 8 - 2 เห็นควรไม่อุทธรณ์คดี ก่อนส่งเรื่องให้ นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด พิจารณาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนายไพรัช ยังมีเวลาพิจารณาก่อนจะพ้นวาระ วันที่ 30 ก.ย.นี้

สำหรับคณะกรรมการพิจารณาคดีมาตรา 112 คือ คณะกรรมการที่อัยการสูงสุดตั้งขึ้นมาพิจารณาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทั่วราชอาณาจักร ประกอบไปด้วย รอง อสส.ที่ได้รับมอบหมายเป็นประธานปัจจุบัน คือ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รอง อสส. ส่วนเลขาคณะกรรมการ คือ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาโดยตำเเหน่ง ในส่วนคณะกรรมการ จะมาจากอัยการที่ดำรงตำเเหน่งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ , อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี และอธิบดีอัยการสำนักงานอาญาอื่นๆ เพราะถือว่าเป็นสำนักงานที่ต้องรับคดีประเภทนี้โดยตรง นอกจากนี้ ยังมีอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนร่วมด้วยเนื่องจากบางคดีมีสำนวนที่เป็นคดีนอกราชอาณาจักร รวมถึงผู้ตรวจการอัยการบางคน และมีระดับรองอธิบอัยการบางสำนักงาน รวมกันเกินกว่า 10 คน ขึ้นอยู่กับอัยการสูงสุดในขณะนั้นตั้งขึ้น ทำหน้าที่พิจารณาสำนวนคดีมาตรา 112 จากทั่วประเทศ ซึ่งอัยการจะสั่งฟ้องหรือไม่ขึ้นอยู่กับความเห็นของคณะกรรมการชุดนี้

สำหรับคดีนายทักษิณ ซึ่งตามขั้นตอนคดีมาตรา 112 เป็นคดีนอกราชอาณาจักรอำนาจพิจารณายื่นอุทธรณ์จึงเป็นของอัยการสูงสุด การพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาคดีมาตรา 112 จึงเป็นการกลั่นกรองเบื้องต้นให้อัยการสูงสุดไม่ใช่การสั่งคดีเหมือนในชั้นพิจารณาคดี 112 ทั่วไป

ส่วนขั้นตอนต่อไปหากอัยการสูงสุดไม่ยื่นอุทธรณ์ตามความเห็นของคณะกรรมการคดีมาตรา 112 จะส่งผลให้คดีของนายทักษิณสิ้นสุดทันทีในศาลชั้นต้น แต่หากอัยการสูงสุด มีคำสั่งให้ยื่นอุทธรณ์คดีก็จะเข้าสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ตามขั้นตอนต่อไป

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top