"อนุทิน"รีเทิร์นมหาดไทย เข้าปฏิบัติหน้าที่ทางการ พร้อม 3 รมช."ทรงศักดิ์-ศักดิ์ดา-ศศิธร" มอบนโยบายเหล่าสิงห์คลองหลอด ลั่นเจ็บจี๊ดสะเทือนถึงขั้วเก่า 2 เดือนกว่าที่จากไปพักร้อน รู้ว่ามีเรื่องราวมากมายทั้งโยกย้าย ขรก.-ใช้อำนาจการเมืองให้ทำสิ่งต่างๆ เป็นเครื่องเตือนใจปฏิบัติหน้าที่ต้องยึดซื่อตรง-มีศักดิ์ศรี-กม.อย่าโอนอ่อนต่อสิ่งล่อใจ กำชับธำรงไว้ซึ่ง 3 สถาบันหลักชาติ เข้มดูแลพื้นที่แนวหลังชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นพิเศษ หนุน"กองทัพ"ไม่ต้องเป็นห่วงพะวงหลัง ยกท่อนเพลง"เต๋อ เรวัต" เคลียร์ใจ ไร้ติดค้าง ไม่ทวงสัญญา ไม่ต้องมองกลับหลัง ที่แล้วก็แล้วไป ไม่ตะขิดตะขวงใจ ถึงอย่างไรก็จริงใจต่อกัน
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.มหาดไทย นำรมช.มหาดไทย ได้แก่ นายทรงศักดิ์ ทองศรี , นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ และ น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล เข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก พร้อมเป็นประธานการประชุมมอบแนวทางการปฏิบัติราชการต่อผู้บริหารกระทรวงมหาไทยฝ่ายประจำ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง และปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นตัวแทนผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคลากรในสังกัดกระทรวงมหาดไทยทุกคน กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีกับนายกฯ และรมว.มหาดไทย รวมถึง รมช.มหาดไทย ทั้ง 3 ราย ที่ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี
โดยในการประชุมครั้งนี้ มีรองปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีทุกกรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ผู้บริหาร กทม. หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัด เข้าร่วมรับมอบนโยบาย ซึ่งมีการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร็นซ์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดอีกด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีบรรดาครอบครัวของรัฐมนตรีที่ได้รับตำแหน่ง และข้าราชการ ต่างพากันมาแสดงความยินดี รวมไปถึงมีการเปลี่ยนป้ายชื่อรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ตนดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในครั้งนี้ ตนและ รมช.มหาดไทย ทั้ง 3 ราย รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ และตั้งใจไว้ว่าจะทำงานสนองพระเดชพระคุณจนสุดความสามารถ ตนมีความยินดี ดีใจ ที่ได้กลับมาพบกับทุกคนในกระทรวงมหาดไทยครั้งนี้ ในช่วงที่ตนพักร้อนไป 2 เดือนกว่า ได้ทราบว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการโยกย้ายข้าราชการ หรือความพยายามใช้อำนาจในทางการเมือง เพื่อให้เกิดการกระทำในสิ่งต่างๆ สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นเครื่องเตือนใจว่า ความเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯนั้น ไม่ว่าผู้บริหารระดับสูงใครจะมาใครจะไป ข้าราชการฝ่ายประจำ ควรตั้งมั่นยึดมั่นยึดถือให้ไม่เสื่อมคลายคือการมีความซื่อตรงต่อหน้าที่ การรักษาศักดิ์ศรีของข้าราชการ การคงเส้นคงวา และที่สำคัญคือการรักษาศักดิ์ศรีขององค์กร ศักดิ์ศรีเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อพวกเราทุกคน ปฏิบัติตามภารกิจหน้าที่ ตามกฎหมาย กฎระเบียบ และกระทำการทุกอย่างโดยมีประโยชน์ของประเทศ รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และพี่น้องประชาชาเป็นที่ตั้ง
"ผมภาคภูมิใจที่ได้เห็นว่าท่านทั้งหลายได้ร่วมกันทำงาน ยึดถือสิ่งเหล่านี้ร่วมกันมา สิ่งเดียวที่ผมอยากจะขอท่านคือขอให้ท่านได้รักษาหลักการนี้ตลอดไป ขอให้วัฒนธรรมของกระทรวงมหาดไทยในทุกระดับ เป็นวัฒนธรรมแห่งความเป็นมืออาชีพ มีความซื่อสัตย์สุจริต อย่างเคร่งครัด ไม่ต้องเกรงกลัวต่ออำนาจใดๆที่เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง หรือต้องไม่ถูกล่อใจด้วยผลประโยชน์อื่นใดที่ทำให้เจตนารมย์ และอุดมการณ์ของท่านต้องโอนอ่อน ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการเช่นพวกท่าน และฝ่าบบริหารอย่างพวกผม เรามีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ธำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน" นายกฯ และรมว.มหาดไทย กล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในระยะเวลา 4 เดือนข้างหน้านี้ ตนคิดว่าทุกคนที่ร่วมประชุมครั้งนี้ ก็ยังเป็นบุคคลหน้าเดิม อาจมีเปลี่ยนแปลงบ้างบางตำแหน่ง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่คุ้นหน้าคุ้นตา มีความสนิทสนม รักใคร่ปรองดองกับตนเป็นอย่างดี ที่เคยทำงานร่วมกันมาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาก็เป็นไปตามนั้น เพียงแต่ขอให้เพิ่มความเร่ง และมีประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ คือปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลชุดนี้มีเจตนารมย์ชัดเจนที่จะมุ่งรักษาอธิปไตย ไม่มีการเจรจาใดๆจนกว่าความเป็นภัยของประเทศกัมพูชาจะหมดไปต่อประเทศไทย เรื่องการเปิดด่านทั้งถาวร ชั่วคราว จะไม่มีวันเกิดขึ้น จนกว่าการเจรจาที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและประชาชนชาวไทยได้เป็นที่ยอมรับ เป็นที่พึงพอใจของประชาชนคนไทยทุกคน พวกเราทุกคนต้องใช้ช่วงเวลานี้ในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง อดทน สนับสนุน เกื้อกูลซึ่งกันและกัน ขอให้ฝ่ายปกครอง ทำหน้าที่เป็นกำลังสนับสนุนกองทัพที่เขาทำหน้าที่ในสมรภูมิชายแดนป้องกันอธิปไตยโดยไม่ต้องกังวลแนวหลัง ฝ่ายปกครองต้องทำหน้าที่รักษาเยียวยาจิตใจ ดูแลให้ความสะดวก และปกป้องภัยอันตรายให้ประชาชนในแนวหลัง
"เราอาจจะมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เราคาดการณ์ไม่ได้ ถ้ามันเกิดขึ้น ขอให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยสั่งการตามอำนาจที่มี รวมถึงอธิบดีกรมการปกครอง ผู้ว่าฯ รวมถึงผู้ต้องดูแลสารทุกข์สุกดิบของประชาชนได้มีความพร้อมดูแลให้ความปลอดภัยประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแนวชายแดนทั้ง 7 จังหวัดที่เชื่อมต่อกับกัมพูชา ส่วนนโยบายอื่นๆ เราได้ปฏิบัติกันอยู่แล้ว ผมต้องขอชื่อชม เมื่อใดก็ตามที่ประเทศมีภัย กระทรวงมหาดไทยคือคนแรกที่ไปถึงประชาชนได้เห็นการปฏิบัติงานด้วยความวิริยะอุตสาหะของข้าราชการทุกท่าน รวมถึงผู้ว่าฯ กทม.ที่ได้ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจสติปัญญา ความสามารถทุกอย่างเพื่อแก้ไขปัญหารุมเร้าประเทศ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของท่าน ปัญหาเหล่านี้ล้วนแต่มีความเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย ทั้งความมั่นคง ชายแดน ยาเสพติด และภัยพิบัติ ผมได้ประกาศไปว่าคณะรัฐมนตรีชุดนี้จะทำงานโดยไม่มีวันหยุด ผมไม่ได้คาดหวังสิ่งเดียวกันจากท่าน แต่ขอให้ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เพราะสมัยที่ผมได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับท่าน ก็เห็นว่ามีความมุมานะ ไม่ว่าวันนั้นจะเป็นวันหยุดหรือวันทำงาน ขอให้สิ่งเหล่านี้กลับมาบังเกิดขึ้นอีกต่อไป เพื่อประโยชน์ของประชาชน จิตวิญญาณของเราคือการให้ความสำคัญ อยากให้ความสำคัญกับงานบำบัดทุกข์บำรุงสุข ทำให้ประชาชนมีความสมบูรณ์พูนสุข ด้วยความทันสมัยทันโลก และทันเหตุการณ์ทันท่วงที" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า เราไม่ได้มาพบกันเป็นครั้งแรก หากวันนั้นไม่ได้ออกไป วันนี้คงไม่ได้กลับมา เรามีภารกิจที่ห่างเหินกันไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ขอให้ความรักความผูกพัน ไม่ใช่เหมือนเดิม แต่ขอให้เน้นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ศึกษาวิธีการทำงาน และความเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี รักษาความสัมพันธ์ และสายใย ให้ความสำคัญ กับความผูกพันที่เรามีต่อกันตลอดเวลา เพื่อที่เราจะปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันด้วยความไว้วางใจความจริงใจ เพื่อประชาชน สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาสูงสุดของพวกเรา ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าจะมีการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ในวันที่ 29 - 30 ก.ย.นี้ เพื่อที่คณะรัฐมนตรีทุกคนจะได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสมบูรณ์ ทางกระทรวงมหาดไทย จัดเตรียมความพร้อมในเรื่องข้อมูลต่างๆ หากมีข้อสงสัยจากสมาชิกรัฐสภา พวกตนทุกคนก็เหมือนเดิม เป็น สส.ด้วยในอีกสถานะหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ได้เป็น สส.ก็มีพื้นที่รับผิดชอบ ที่รัฐมนตรีแต่ละคนจะต้องไปรับผิดชอบในนามของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย จึงขอให้ทุกคนให้ความสำคัญ
"ทุกอย่างไม่มีอะไรค้างคาใจกัน ไม่มีอะไรที่จะมาทักท้วง หรือว่ามาทวงสัญญาอะไรกัน ขอให้มองไปข้างหน้า ไม่ต้องมองไปข้างหลัง ขออนุญาตนำท่อนหนึ่งของเพลง เต๋อ เรวัต มอบให้กับทุกคนคือที่แล้วก็แล้วไป ไม่ตะขิดตะขวงใจ ถึงอย่างไรก็จริงใจต่อกัน" นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้ามาดำรงตำแหน่งของนายอนุทิน นายกฯ ที่มาเป็น รมว.มหาดไทย ครั้งนี้ ถือเป็นสมัยที่ 3 ของนายอนุทิน และทำเนียบผู้ดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย คนที่ 68 หลังจากที่ดำรงตำแหน่งในสมัยรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งตรงกับทะเบียนรถที่ย้ายเทพนรสิงห์ออกจากอาคารแสงอาทิตย์ไปยังตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี