‘อนุทิน’ชี้โยกย้ายขรก.มหาดไทย ต้องยึดเหมาะสม-สถานภาพ-สถานการณ์ ไร้วาระส่วนตัว เป็นเรื่องชาติ-ปชช. ลั่น‘สิงห์คลองหลอด’มี 3 สี ‘แดง-ขาว-น้ำเงิน’ ตะเพิดเอาความเห็นแก่ตัวไปเผาทิ้ง โยนฝ่ายประจำแจงปมขอโยกตัว‘ผู้กองแคท’ช่วยราชการสภาฯ

เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2568 ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ที่ได้กล่าวไว้ถึงการวางหลักคืนความเป็นธรรมให้ข้าราชการที่ถูกโยกย้ายว่า เรื่องการโยกย้ายข้าราชการ เป็นหน้าที่ของปลัดกระทรวงมหาดไทย ยกเว้นข้าราชการระดับ C10 C11 ซึ่งปลัดกระทรวงจะเสนอให้รัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีรับทราบต่อไป ส่วนในสมัยรัฐบาลที่แล้วเกิดการร้องเรียนเกี่ยวกับการโยกย้ายข้าราชการนั้น ขอให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก่อน ซึ่งวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ ตนได้รับการยืนยันจากประธานรัฐสภา ว่าจะมีการบรรจุวาระการประชุม เรื่องการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะมีการประชุมเรื่องทั้งสองสภาฯ หลังจากนั้นคณะรัฐมนตรีจะปฏิบัติหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ 

เมื่อถามถึงการที่หลายฝ่ายมองว่าอาจจะมีการโยกย้ายข้าราชการอีกครั้งหนึ่ง นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้เคยถามตนมาแล้ว 3-4 ครั้ง เราไม่มีเรื่องใดที่เป็นเรื่องส่วนตัวทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นเรื่องของส่วนรวมเป็นของประเทศและประชาชน เมื่อถามย้ำว่า หลังวันที่ 1 ต.ค. อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างต้องมีความเหมาะสม ตามสถานภาพ และสถานการณ์ 

เมื่อถามถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.มหาดไทย เคยให้นโยบายกับข้าราชการกระทรวงมหาดไทยว่า ให้สลายสีสิงห์ทุกสี และรวมเป็นสีเดียว โดยตอนนี้สิงห์เป็นสีอะไรนั้น นายอนุทินกล่าวว่า มหาดไทยก็มีอยู่ 3 สี คือ สีแดง สีขาว สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีธงชาติ จะสลายไม่ได้ เพราะถ้าสลายแล้วไม่มีธงชาติ

เมื่อถามย้ำว่า ไม่มีสิงห์ดำ และสิงห์แดงแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องสลายความเห็นแก่ตัว สลายความแตกสามัคคี สลายความการกลั่นแกล้ง สลายการแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนเอง แบบนี้ต้องเอาไปเผาทิ้ง แต่เรื่องของความเป็นข้าราชการ ความเป็นประชาชน ความเป็นประเทศ เราสลายไม่ได้ ต้องเก็บรักษาไว้ เพราะมีเป้าหมายเดียวกันคือ ประเทศ ประชาชน และสถาบันพระมหากษัตริย์

เมื่อถามถึงกรณีที่เลขานุการประธานรัฐสภาทำหนังสือขอตัว ร.ต.อ.อาทิติยา เบ็ญจะปัก จากอธิบดีกรมการปกครอง มาช่วยราชการรัฐสภา เป็นกรณีพิเศษ นายอนุทิน กล่าวเพียงว่า เรื่องนี้ให้ไปถามผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ กรมการปกครอง ก็พอ มาถามอะไรตน