‘คนละครึ่ง’มาแน่
นายกฯยันเริ่มภายในเดือนต.ค.
รมว.คลังเตรียมเสนอครม.
รับเป็นไปได้จัดให้มี2เฟส
ชุดแรกได้สิทธิ์33ล้านคน
ถือบัตรคนจนเพิ่มเป็น2พัน
นายกฯยัน “คนละครึ่ง” เดินหน้าได้เลย ภายในเดือนตุลาคม ด้าน รมว.คลังเผยจะนำเรื่องเข้า ครม.พิจารณากลางเดือนตุลาคม “สิริพงศ์” ยันมีแน่นอน 2 เฟส โดยเฟสแรกมีผู้ได้สิทธิ์ 33 ล้านคน เฟสสองคาดเริ่มธันวาคม 2568-มกราคม 2569 ส่วน “ภราดร”เปิดแผนเร่งใช้งบฯ 68 ชี้‘คนละครึ่ง’เฟสแรกรวมเกือบ 5 หมื่นล้าน ตั้งเป้า 20 ล้านสิทธิ์ พร้อมดันเยียวยาชาวบ้านชายแดนไทย-เขมร-ช่วยกลุ่มเกษตรกร
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว. มหาดไทยให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโครงการคนละครึ่งจะสามารถเริ่มได้เลยหรือไม่ โดยนายอนุทินพยักหน้า และกล่าวว่า ภายในเดือนตุลาคม ส่วนรายละเอียดให้สอบถามนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้สัมภาษณ์ถึงวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)หลังแถลงนโยบายสัปดาห์หน้าว่า จะมีการพิจารณาเรื่องงบประมาณปี 2568 ว่าต้องดำเนินการอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าส่วนใหญ่จะนำมาใช้ในโครงการคนละครึ่งหรือไม่ นายเอกนิติกล่าวว่า ไม่ ขณะนี้สำนักงบประมาณกำลังดูอยู่ และจะนำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม. สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนตุลาคมนี้ กำลังเตรียมการอยู่
ถามต่อว่า โครงการคนละครึ่งของรัฐบาลจะมี 2 เฟสใช่หรือไม่ รมว.คลังตอบว่า คิดว่า กำลังดูอยู่
ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยรายละเอียดผู้ได้สิทธิโครงการคนละครึ่ง เฟส 1 ว่า มีประมาณ 33 ล้านสิทธิ แบ่งเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้องที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13 ล้านสิทธิ และประชาชนทั่วไปอีก 20 ล้านสิทธิ นอกจากนี้ มีเงื่อนไขว่า ถ้าเป็นประชาชนที่อยู่ในโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ในอดีต ต้องไปยืนยันตัวตน และไปลงทะเบียนใหม่
เมื่อถามว่า รมว.คลังระบุโครงการคนละครึ่งจะมี 2 เฟส นายสิริพงศ์กล่าวว่า มีแน่นอน ตอนนี้รัฐมนตรีได้รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีให้ดูเรื่องคนละครึ่ง เฟส 2 อยู่ ซึ่งจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวต้องรอติดตาม ให้จบเฟส 1 ก่อน คาดว่าจะเป็นช่วงเดือนธันวาคม หรือมกราคม 2569
นายสิริพงศ์ยังเปิดเผยว่า นโยบายคนละครึ่งเฟส 1 มีจำนวน 33 ล้านสิทธิ จะเริ่มต้นเดือนตุลาคม ผู้มีสิทธิจะต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มดังนี้ 1. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13 ล้านคน รัฐบาลจะเติมเงินให้อีก 1,700 บาท ซึ่งจากเดิมให้อยู่แล้ว 300 บาท รวมได้เงินทั้งหมด 2,000 บาท เติมให้ครั้งเดียวเท่านั้น ใช้ได้ 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2568 2. คนทั่วไป หรือผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี 9 ล้านคน คนละครึ่ง 50:50 จะได้เงินคนละ 2,000 บาท จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท ใช้ได้ 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2568 และ 3. ผู้ที่อยู่ในระบบภาษี 11 ล้านคน คนละครึ่ง 60:40 จะได้เงินคนละ 2,400 บาท จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท ใช้ได้ 2 เดือนคือ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2568
ขณะที่นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงบประมาณเผยว่า ได้คุยกับนายอนันต์ แก้วกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ รวมถึงได้ปรึกษากับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ถึงการใช้งบประมาณปี 2568 ที่จะสิ้นสุดปีงบประมาณในวันที่ 30 กันยายนว่ามีงบประมาณเหลืออยู่ 6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น งบกลางสำรองฉุกเฉิน และอีกส่วนจะนำไปใช้ในโครงการคนละครึ่งเฟสแรก โดยจะให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อนประมาณ 13 ล้านคน วงเงินประมาณ 2.2 หมื่นกว่าล้านบาท โดยจะให้เพิ่มเติมจากเดือนละ 300 บาท เพิ่มเป็น 2,000 บาท นอกจากนั้น เป็นกลุ่มบุคคลทั่วไป รวมถึงจะใช้งบประมาณปี 2569 มาเพิ่มเติมประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท
นายภราดรกล่าวต่อว่า ส่วนอื่นจะเป็นของหน่วยงานที่ขอเข้ามา อาทิ หน่วยทหารในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา ประมาณ 500-700 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีงบประมาณรายจ่ายประจำที่ตั้งไว้ อย่างเงินเดือนข้าราชการประมาณ 3,000 ล้านบาท นอกจากนี้ เป็นงบประมาณในส่วนที่อนุมัติโครงการไปแล้ว แต่ยังไม่ดำเนินการ ก็จะนำงบดังกล่าวมาใช้ เพื่อเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีในส่วนที่ค้างท่ออยู่ประมาณ 1,580 ล้านบาท ทั้งนี้ น่าจะเหลือเงินงบประมาณปี 2568 ที่ยังค้างท่อ 3.5 หมื่นล้าน โดยจะนำไปใช้หนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่รัฐบาลเก่าก่อไว้ รวมถึงโครงการพักหนี้เกษตรกร
ผู้สื่อข่าวถามว่า โครงการคนละครึ่งเฟสแรกเริ่มช่วงใด นายภราดรกล่าวว่า คาดว่าช่วงต้นเดือนตุลาคมน่าจะได้เริ่มโครงการแล้ว เนื่องจากขณะนี้กระทรวงการคลังเร่งดำเนินการพูดคุยกับครม. คาดจะดำเนินโครงการ 20 ล้านสิทธิ์ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 5 ต้องลงทะเบียนใหม่ ขอให้รอรายละเอียดจากกระทรวงการคลังอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี