อนุทิน’ย้ำ1ต.ค.เริ่มนับรัฐบาล120วัน ลั่นไม่ชำระแค้น! ขอทำงานให้ประชาชนไว้ใจ เชื่อมีโอกาสกลับมาสานต่อ

อนุทิน’ย้ำ1ต.ค.เริ่มนับรัฐบาล120วัน ลั่นไม่ชำระแค้น! ขอทำงานให้ประชาชนไว้ใจ เชื่อมีโอกาสกลับมาสานต่อ

วันอาทิตย์ ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

‘อนุทิน’ย้ำ1ต.ค.เริ่มนับรัฐบาล120วัน
ลั่นไม่ชำระแค้น!
ขอทำงานให้ประชาชนไว้ใจ
เชื่อมีโอกาสกลับมาสานต่อ
พท.ทรุด‘ชูวิทย์ กุ่ย’ไขก๊อก
‘พีระพันธุ์’ฮึด!กอบกู้รทสช.

นายกฯ “อนุทิน” เผย 1 ตุลาคมนี้ เริ่มนับรัฐบาล 120 วัน ยันไม่ชำระแค้นฝ่ายตรงข้าม แต่ขอทำงานเพื่อส่วนรวมให้กับประชาชน เชื่อชาวบ้านให้โอกาสกลับมาสานงานต่อ ขณะที่ “เพื่อไทย” โหมโรงเขย่าวันแถลงนโยบายเชื่อ 4 เดือนทำไม่ทัน ‘เสี่ยกุ่ย-ชูวิทย์’นำร่องลาออกจากพรรคเพื่อไทย หึ่ง!จ่อคิวไขก๊อกตามอีกเพียบ ด้าน ‘พีระพันธุ์’ฮึดกอบกู้รวมไทยสร้างชาติ กวักมือเรียกคนมีอุดมการณ์มาทำงานด้วยกัน

เมื่อเวลา10.30น.วันที่ 27 กันยายน 2568 ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ภายหลังการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ครม.)ต่อรัฐสภาว่านายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้กำหนดให้แถลงนโยบายรัฐบาล ระหว่างวันที่ 29-30 ก.ย.หลังจากนั้นก็จะไปประชุมครม.ที่ทำเนียบรัฐบาล ไม่ใช่ที่รัฐสภา ไม่อย่างนั้นก็ต้องขนสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.)ไปทั้งหมด สู้กลับมาประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล เขาจะได้ดำเนินการเข้าระบบให้เรียบร้อย ไม่ต้องขนย้ายไปให้เสียเวลาอีก


‘หนู’ขอลุยทำงาน-ไม่ชำระแค้น

เมื่อถามว่าโครงการคนละครึ่งจะเข้าที่ประชุม ครม. ในวาระแรกเลยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ทันทีที่นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมก็จะดำเนินการทันที ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้นั้น ไม่ว่าจะมาจากก้อนไหนก็ตาม เรามีพร้อมไว้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า การประชุม ครม.จะมีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการด้วยหรือไม่ เพราะมีคนกำลังจับตาอยู่ นายกฯกล่าวว่าทำไมต้องจับตาเฉพาะ ครม.ชุดนี้ก็เห็นทุกสัปดาห์ที่ผ่านมาตั้งแต่ตนอยู่ในรัฐบาล จนออกมาจากรัฐบาล จนกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลใหม่ ก็เห็นมีการแต่งตั้งโยกย้ายอยู่ตลอดเวลา ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย ทำไมต้องมีปัญหาที่รัฐบาลนี้

“ถ้าผมจะทำ ทำไมถึงจะต้องมีปัญหา ถ้าทำทุกอย่าง ก็ต้องทำด้วยความเหมาะสมกับสถานการณ์ และภารกิจงาน ไม่มีทำเพื่อตอบสนองใคร ไม่มีทำเพื่อชำระความคับแค้นใจ ไม่มีแน่นอน ขอให้ไว้ใจได้เลย”นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่าด้วยมีเวลาที่น้อยแค่ 4 เดือน จำเป็นต้องเอาข้าราชการที่สามารถตอบสนองนโยบายรัฐบาลมาทำงานใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า“ข้าราชการทุกคนก็สนองนโยบายรัฐบาลหมดแหล่ะ ใครเป็นรัฐบาลเขาก็ต้องสนอง แต่อย่าสนองแบบไปแกล้งคนอื่น ที่ผ่านมานอกจากสนองแล้วยังกลั่นแกล้งด้วย อันนี้ไม่ดี แต่รัฐบาลนี้ไม่มีเวลาไปแกล้งคน มีแต่เวลาไปช่วยคน”

เมื่อถามว่าในส่วนของบิ๊กมหาดไทยจะต้องมีการปรับอะไรหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า คิดไปเรื่อยๆ ยังมีเวลาอยู่ ไม่คิดหุนหัน พลันแล่น เหมือนรัฐบาลคนก่อนหน้านี้

ย้ำ1ต.ค.เริ่มนับรัฐบาล120วัน

เมื่อถามว่า 120 วัน รัฐบาล เริ่มนับจากวันไหน วันแรกของการแถลงนโยบาย หรือวันที่ 1 ต.ค. นายอนุทิน กล่าวว่า “ถ้าง่ายๆ คือ วันที่ 1 ต.ค. โดยหลังจากวันที่ 30 ก.ย.หลังอภิปรายเสร็จ ห่างกันไม่ถึง 1-2 วันหรอก เอายังไงก็ว่ามาเถอะ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า 4 เดือนนี้จะมีการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่(ครม.สัญจร) หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าก็ว่าจะมีสักครั้งหนึ่ง จะไปดูในเขตปัญหาไทย- กัมพูชา ในแถบอีสานใต้ เดี๋ยวดูจังหวัดที่เหมาะสม แต่ไม่ไปทำให้ข้าราชการและประชาชนลำบาก ส่วนจะเป็นช่วงไหนนั้น รอไปคิดดูอีกที

ลุยบางบาลสั่งจ่ายเยียวยาน้ำท่วม

เวลา 10.30 น.ที่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยาว่า ตอนนี้เกิดสถานการณ์น้ำท่วม โดยได้สั่งให้เร่งดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาตามเกณฑ์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาได้มีการเปลี่ยนรัฐบาล ทำให้ล่าช้าไป ดังนั้นหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ก็จะดำเนินการทันที เพราะความทุกข์ร้อนของประชาชนรอนานไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะลงพื้นที่ไหนอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มี แต่ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยเกิดที่ภาคกลาง ขณะเดียวกัน ก็มีแผนที่จะต้องเร่งโครงการต่างๆ เพื่อสนับสนุนโครงการที่ระบายน้ำ ออกจากพื้นที่ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา ให้มากที่สุด ต้องเร่งศึกษาโครงการทำทางระบายน้ำตอนใต้เขื่อนเจ้าพระยา ที่ จ.ชัยนาท ลงอ่าวไทย

ดันงบ1แสนล้านแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆแล้ว ถามว่าเงินที่จะมาทำโครงการนี้เยอะไหม ต้องใช้เวลา 7-8 ปี ก็ใช้ประมาณ 100,000 ล้านบาท ตกปีละ 10,000 กว่าล้านบาท ซึ่งไม่ได้เยอะ เพราะต้องรีบทำพื้นฐานให้เรียบร้อย เพื่อให้โครงการนี้เกิดขึ้น ถ้าเทียบกับเงินช่วยเหลือเยียวยาว ที่ต้องจ่ายให้ทุกปี ปีละ 3-4 หมื่นล้านบาท ก็เป็นจำนวนเงินที่มากกว่าไปทำโครงการที่เป็นถาวรวัตถุ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการระบายน้ำ และผันน้ำออกจากพื้นที่ภาคกลางได้ ก็จะแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว เพราะการมาเจอชาวบ้านทุกปีแบบนี้ไม่ไหว มาแล้วก็ต้องมาขอโทษ นำถุงยังชีพมาให้ ซึ่งชาวบ้านไม่ได้อยากได้ ดังนั้น ต้องสร้างโครงการที่แก้ไขปัญหาระยะยาว ซึ่งพวกตนเองจะทำ

หวังปชช.ไว้วางใจ กลับมาสานต่อ

เมื่อถามว่าเวลาที่มีอยู่ของรัฐบาล จะสามารถดำเนินโครงการ ช่วยบรรเทาปัญหาซ้ำซากได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า โครงการต่างๆ ไม่มีรัฐบาลไหน ที่จะทำได้เสร็จภายในอายุรัฐบาลของรัฐบาลนั้นๆหรอกแต่เราต้องเริ่ม เราต้องตัดสินใจเริ่ม ต้องไม่คิดว่าไปปัดแข้ง ปัดขาใคร ต้องถือว่า โครงการนี้ ไม่ว่าใครจะนำเสนอขึ้นมา พรรคไหน พวกไหน แต่ถ้าประชาชนได้ประโยชน์ ตนขอให้คำยืนยันเลย เพราะตนก็ถูกฝึกมาอย่างนี้ และนิสัยตน ไม่แคร์ว่าใครจะได้เครดิต ถ้าประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ใครเสนอมา ตนก็เห็นชอบหมด

เมื่อถามว่าถ้าเริ่มต้นแล้ว ครั้งหน้าเราหวังว่าจะกลับมาสานงานต่อหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราก็ต้องหวังผลเลิศ ซึ่งต้องทำงานให้ประชาชนมั่นใจและเชื่อใจว่า เรามาแก้ไขปัญหาจริง และรักษางบประมาณของประเทศ เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ ต้องไม่หายไปไหน ต้องถูกใช้เพื่อประโยชน์ของประเทศและเชื่อว่าประชาชนจะให้โอกาสเรากลับมาสานที่เราทำไว้

‘หนู’เหมาก๋วยเตี๋ยวช่วยแม่ค้า

ต่อมา เวลา 10.40น.นายกรัฐมนตรีเดินทักทายให้กำลังใจหน่วยแพทย์เคลื่อนที่โรงพยาบาลบางบาลที่มาประจำจุด ก่อนเดินไปตามถนนที่มีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่ ได้แวะที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยว แม่ค้าบอกว่า“วันนี้ยังขายไม่ได้เลย” ก่อนนายกฯเดินไปดูที่หม้อก๋วยเตี๋ยว แม่ค้าก็เปิดหม้อก๋วยเตี๋ยวให้ดูซึ่งนายกฯควักจ่ายส่วนตัวจ่ายให้แม่ค้าโดยบอกว่า“เหมาหมดเลย ให้คนที่อยู่แถวนี้มากินกัน แล้วอย่าเก็บเงินเขานะ”

จากนั้นนายกฯสวมรองเท้าบูท เดินลุยน้ำเข้ายังบ้านประชาชนที่ขายของชำซึ่งเป็นบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมสูงถึงหัวเข่าโดยนายกฯได้พูดคุยให้กำลังใจ พร้อมสอบถามความเป็นอยู่และมอบถุงยังชีพ ก่อนเดินเข้าไปดูความเสียหายภายในบ้านและอุดหนุนมะม่วงดองหลายถุงก่อนเปิดถุงหยิบชิมและให้นำไปแจกเจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน

จากนั้นนายกฯเดินไปยังบ้านอีกหลัง ถามสารทุกข์สุกดิบ ซึ่งประชาชนขอให้นายกฯหาวิธีการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากโดยนายกฯตอบว่า“วิธีมันมี แต่งบไม่มี ประชาชนอวยพร ขอให้ได้สมัยหน้าอีก” ก่อนยกมือรับไหว้ พร้อมตะโกนสู้ๆให้ประชาชนที่พายเรืออีกฝั่งหนึ่ง

ขึ้นเรือชาวบ้านพายเพื่อมอบถุงยังชีพ

ต่อมาเวลา 10.50 น.นายกฯพร้อมคณะได้ขึ้นเรือที่ชาวบ้านพาย เพื่อมอบถุงยังชีพ และเยี่ยมผู้ประสบภัยที่อยู่ในบ้านที่ถูกน้ำท่วมเกือบครึ่งหลังคา ซึ่งนายกฯร่วมล้อมวงพูดคุยและดื่มนมถั่วเหลืองที่ชาวบ้านนำมาให้ ระหว่างที่นายกฯนำถุงยังชีพมอบให้กับประชาชน มีชาวบ้านมอบกล้วยไข่ให้กับนายกฯ 1 เครือรวมถึงน้ำดื่มให้คณะนายกฯได้แบ่งกล้วยแจกให้คณะที่ติดตามมาด้วย

โดยนายกฯเปิดเผยภายหลังลงเรือมอบสิ่งของให้กับประชาชนว่าชาวบ้านขวัญกำลังใจดี เราต้องเร่งโครงการระบายน้ำ ส่วนจะต้องมีประชาชนอพยพออกจากบ้านหรือไม่ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยืนยันว่าไม่มี ส่วนผู้สูงอายุมีครอบครัวคอยดูแลอยู่ และประชาชนส่วนใหญ่สะท้อนว่า น้ำในพื้นที่มาเร็วไปเร็ว ซึ่งเราก็ต้องเร่งผลักดันการระบายน้ำออกจากพื้นที่

จากนั้นนายกฯได้ลงเรือและทดลองพายเรือท้องแบนโดยมีประชาชนนั่งด้วย 1 คน เช่นเดียวกับนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ทดลองพายเรือลำที่สองและลำที่สามด้วย

โดยนายกฯเผยถึงการพายเรือครั้งนี้ว่า”ตอนเป็นเด็กตนก็เคยพายเรือ เพราะบ้านอยู่จังหวัดนครปฐม”ก่อนกล่าวติดตลกเป็นสำเนียงภาษาใต้ว่า“คอนถม” และกล่าวอีกว่า”แต่ก่อนเคยพายอยู่ตรงคลองแถวบ้าน”

รับฟังปัญหาคนบางบาลดั่งถูกสาป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนนายกฯจะเดินทางกลับ มีประชาชนผู้หญิงรายหนึ่งซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ตะโกน ระหว่างที่นายกฯ กล่าวบนเวทีก่อนพิธีมอบถุงยังชีพ ยืนรออยู่ตรงบริเวณทางเข้าปากซอย ได้สะท้อนปัญหาให้กับนายกฯเพื่อรับฟังปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี พร้อมตัดพ้อว่า”นี่คือความอดทนของคนบางบาล ที่เหมือนถูกสาป รับกรรมอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับเสนอให้มีการย้ายชุมชน”โดยนายกฯนำมือไปแตะที่ไหล่ของชาวบ้านคนดังกล่าวพร้อมกล่าวว่า“อย่างนี้ไม่ไหว”

ก่อนนายกฯจะขึ้นรถเดินทางกลับได้มีประชาชนนำน้ำพริกกะปิ 1 หม้อ ปลาทูทอด 1 ถาดและไข่เจียวชะอม 1 ถาด มามอบให้ นายกฯกล่าวว่า”เดี๋ยวจะนำไปกิน”ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

‘เสี่ยกุ่ย-ชูวิทย์’ลาออกพ้นสมาชิกพท.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ได้ทำหนังสือถึงนายทะเบียนสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพื่อขอลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยเนื้อหาระบุว่า“เขียนที่ จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 เรื่อง ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ข้าพเจ้า นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกพรรคเพื่อไทย มีความประสงค์จะขอลาออกจากเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2568 เป็นต้นไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและดำเนินการต่อไป”

ทั้งนี้ นายชูวิทย์ หรือ เสี่ยกุ่ย เป็นอดีตสส.อุบลราชธานีตั้งแต่ปี 2538 และอยู่กับฝ่ายทักษิณตั้งแต่“พรรคไทยรักไทย” เคยประกาศว่า ผมนับถือหลวงพ่อทักษิณ และมีลูกสาวคือ“สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ”ซึ่งถูกจับตาว่าลาออกตามพ่อหรือไม่

พท.โหมโรง4เดือนยุบสภาหรือยุบคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความระบุว่า 4 เดือนยุบสภา หรือจะเป็น 4 เดือนยุบคดี 4 นโยบายรัฐบาลอนุทิน หรือจะเป็น 4 ข้อหายนะ? โอกาส ขาดคนมีฝีมือ ขาดความโปร่งใส ขาดอนาคตประชาธิปไตย รัฐบาลชุดนี้จะพาคนไทยเดินไปทิศทางไหน? 29-30 ก.ย. ร่วมจับตาแถลงนโยบายของรัฐบาล ไปด้วยกัน

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายนโยบายรัฐบาลว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมมากที่จะทำหน้าที่ในศึกอภิปรายนโยบายรัฐบาลเสียงข้างน้อย ในฐานะฝ่ายค้านแท้ในระบบรัฐสภา ไม่ใช่ฝ่ายค้ำใน MOA แบบพรรคใด จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถเชื่อได้ว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยจะยุบสภาฯ ในระยะเวลา 4 เดือนจริงหรือไม่ ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะยุบสภาฯ จริงๆเมื่อไหร่ ดังนั้นทีมอภิปรายนโยบายรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ต้องทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ เตรียมขุนพลอภิปรายพร้อมตั้งคำถาม 4 เดือนยุบสภา หรือจะเป็น 4 เดือนยุบคดี 4 นโยบายรัฐบาล อนุทิน หรือจะเป็น 4 ข้อหายนะ? ซึ่งมี สส.พรรคเพื่อไทยแสดงเจตจำนงขอเข้าร่วมการอภิปรายเป็นจำนวนมาก

‘เพื่อไทย’เหน็บกัดจิกปชน.‘ฝ่ายค้ำ’

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่าขอให้มั่นใจว่าจะได้ผู้อภิปรายคุณภาพจำนวนมากในการทำหน้าที่อภิปรายนโยบายรัฐบาลครั้งนี้ ซึ่งจะชี้ให้เห็นถึงการขาดโอกาส ขาดคนมีฝีมือ ขาดความโปร่งใส ขาดอนาคตประชาธิปไตย จนไม่มั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะพาคนไทยเดินไปทิศทางไหน โดย 29-30ก.ย.ขอเชิญร่วมจับตาการแถลงนโยบายของรัฐบาลไปด้วยกันกับพรรคเพื่อไทย เพราะวันนี้พรรคเพื่อไทย จะไปฝากความหวังไว้ที่พรรคฝ่ายค้ำใน MOA ไม่ได้ เพราะเพิ่งโหวตนายอนุทินไป แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่า จะตรวจสอบรัฐบาลที่พวกเขาตั้งมากับมือ อย่างเข้มข้น แม้พรรคเพื่อไทย จะไม่ได้ร่วมเป็นวิปฝ่ายค้านกับพรรคประชาชน แต่ก็จะบริหารจัดการเวลาที่ได้มา 6 ชั่วโมง เพื่อการตรวจสอบรัฐบาลโดยยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ

“พรรคเพื่อไทย ขอยืนยันจะทำหน้าที่ตรวจสอบนโยบายรัฐบาลเสียงข้างน้อยอย่างเข้มข้น ส่วนพรรคฝ่ายค้านใดจะเป็นเดอะแบกเป็นนั่งร้าน หรือเป็นฝ่ายค้ำใน MOA พรรคเพื่อไทย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง“ นายอนุสรณ์ กล่าว

4 เดือนทำไม่ได้จริง

นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของพรรคเพื่อไทยในการอภิปรายรัฐบาลวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา 29-30 ก.ย.ว่า เราจะสอบถามและอภิปรายว่า 4 เดือนของรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย นโยบายที่จะทำ แน่ใจว่าทำได้หรือ นอกจากนี้ตัวบุคคลที่คัดเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมั่นใจว่าได้รับความเชื่อมั่น เชื่อถือจากทั้งต่างชาติ

และในประเทศ และจะได้รับความร่วมมือจากข้าราชการหรือ ซึ่งเรื่องหลักที่สังคมสงสัยมากว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องการฮั้วสว.และเขากระโดง รวมถึงเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ คุณสามารถแก้ได้จริง และจริงใจที่จะทำจริงหรือไม่ใน 4 เดือน เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่จะต้องซักถามกัน

เมื่อถามว่ามีรัฐมนตรีคนไหนที่จะถูกตั้งคำถามเป็นพิเศษในการแถลงนโยบายรัฐบาลครั้งนี้ นายสุทิน กล่าวว่า ให้รอติดตามในวันที่แถลงนโยบายวันที่ 29-30 ก.ย. แต่ไม่น่าจะผิดความคาดหมายไปจากสังคม เรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีที่ยังเป็นที่เคลือบแคลง และความรู้ความสามารถที่เหมาะสมกับงานหรือไม่ของแต่ละคน

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยมีการวางขุนพลเพื่ออภิปรายนโยบายของรัฐบาลกี่คน นายสุทิน กล่าวว่า มีร่วม 20 คนที่จะร่วมอภิปราย

เมื่อถามว่าหากมีการประท้วงเกิดขึ้นระหว่างที่มีการอภิปราย ทางพรรคเพื่อไทยจะมีการรับมืออย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า เตรียมรับมือเป็นธรรมชาติ แต่ไม่ได้มีการตั้งเป็นองครักษ์ ไม่ได้มีการจัดตั้งฝ่ายประท้วงอะไรเป็นพิเศษ หากประท้วงขึ้นมาผิดก็มีคนขึ้นท้วงติงเป็นธรรมดา

เตือนสุ่มเสี่ยงจะเสียหาย

เมื่อถามว่ามองนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่อย่างไรบ้าง นายสุทิน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีการพูดคุยกันว่าเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คิดว่าทำไม่ได้ ทำยาก ใช้เงินเยอะ และเอาเงินมาจากไหนในเวลาที่จำกัด ไม่สอดคล้องกับสภาพการเงินการคลังของประเทศ ที่เขียนไว้ในนโยบายรัฐบาลใช้เงินมาก

เมื่อถามว่าเมื่อเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายของรัฐบาลจะมีการต่อยอดไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจเลยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่หากรัฐบาลทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงที่จะเสียหาย หรือทำในสิ่งที่สังคมวิตกอยู่ ถ้าคุณทำปั๊บ เราก็เปิดปุ๊บ

เมื่อถามว่ามองว่ารัฐบาลใหม่จะอยู่ครบ 4 เดือนหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า 4 เดือนคงพอไปได้ แต่จะไปแบบอิหลักอิเหลื่อ และจะเป็น 4 เดือนที่ประเทศเสียหายมากกว่า ที่สำคัญเราคิดว่าจิตใจเขาเป็น 4 เดือนเพื่อภารกิจพิเศษของเขาเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่ามองว่าจะทำให้ประเทศเสียหายอย่างไรบ้างใน 4 เดือน นายสุทิน กล่าวว่า ระบบนิติรัฐ ระบบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภาจะเสียหายมาก ตนคิดว่าแน่นอนเรื่องเกี่ยวกับฮั้วสว. เรื่องเขากระโดง เขาคงทำ ซึ่งถ้าทำจะกระทบกับนิติรัฐแน่นอน รวมถึงระบบสภาฯ ที่มีการซื้อกัน ระดม สส. ช็อป สส.เข้าพรรค จะเป็น 4 เดือนที่ดูน่าเกลียดมาก

เมื่อถามว่ามองว่าหากรัฐบาลภูมิใจไทยมายุ่งกับคดีเขากระโดง และฮั้วสว.จะทำอย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า เริ่มต้นก็เห็นแล้วว่ามีการตั้งคนของตัวเองมาเป็นรมว.ยุติธรรม อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ การวางคนของตัวเองเข้ามาคุมเรื่องนี้ ส่วนมีเทคนิคการทำอะไรอย่างไร เราคิดว่าเรื่องแทรกแซงก็แทรกแซงแน่ แต่เนียนหรือไม่เนียนต้องไปดูต่อไป

‘พีระพันธุ์’ลั่นทำจริง/ไม่เล่นการเมือง

วันเดียวกันนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)เปิดเผยว่าเชื่อว่าที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนชาวไทยหลายคนรู้สึกเบื่อการเมือง เบื่อนักการเมือง นักการเมืองชอบอ้างประชาชนแต่ถึงพอเวลามีอำนาจ ก็กลับเข้ามาหาผลประโยชน์ มาเล่นการเมือง แต่กลับไม่เคยคิดแก้ไขปัญหาของประชาชนอย่างแท้จริงจึงเป็นที่มาที่ตนได้ก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ มั่นใจว่า2ปีที่ผ่านมา ที่ตนได้ดำรงตำแหน่งรองนายกฯและรมว.พลังงาน ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ตนและพรรครวมไทยสร้างชาติได้เข้ามาทำงานการเมืองให้กับประเทศชาติอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในส่วนที่รับผิดชอบคือด้านพลังงาน ตนได้แก้ไขปัญหาต่างๆอย่างสุดความสามารถ ทำให้2ปีที่ผ่านมามีแต่การลดค่าไฟ ไม่เคยขึ้นค่าแก๊สให้กับพี่น้องประชาชนเลยและกำลังจะคุมราคาน้ำมันไม่ให้ขึ้นลงเป็นรายวันอีกด้วย ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องสู้และทำจริง โดยไม่สนใจผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น

กวักเรียกคนมีอุดมการณ์ร่วมรทสช.

“ผมขอถือโอกาสนี้ เชิญชวนทุกคนที่มีแนวคิด มีความตั้งใจเหมือนตนและพรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วมทำงานด้วยกันโดยสามารถสมัครได้ 2วิธี ได้แก่วิธีที่ 1สมัครด้วยตนเองที่พรรครวมไทยสร้างชาติ เลขที่35/3ซอยอารีย์ 5 ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯและวิธีที่2คือกรอกใบสมัครที่ลิงก์นี้ https://forms.gle/jwYGG9zNnGedtiqb7 และขอถือโอกาสนี้ เชิญชวนท่านทั้งหลาย ที่เบื่อการเมือง เบื่อนักการเมือง ชอบอ้างแต่ประชาชน ถึงเวลาก็เข้ามาหาประโยชน์ ท่านที่คิดและมีความตั้งใจเหมือนผม มาร่วมกันทำงานการเมืองที่ดี มาเป็นนักการเมืองที่ดี ให้เห็นครับว่า ประเทศนี้ยังไปได้ต่อ มาร่วมกันที่พรรครวมไทยสร้างชาติครับ” นายพีระพันธุ์ กล่าว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top