"กมธ.มั่นคงฯ"เตรียมเคาะเชิญ"นายกฯ"แจง ปม"รมว.ดีอี"ปูดถูกเสนอ 40 ล้านแลกขยิบตาปราบ"แก๊งคอลฯ"พรุ่งนี้ ลั่นต้องจัดการหัวขบวน ทำลายอาชญากรรมข้ามชาติ งงทุกคนรู้จัก"เบนจามิน"หมด แต่พากันเงียบ
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ออกมาระบุ มีผู้ติดต่อเสนอเงินให้เดือนละ 40 ล้านบาท เพื่อไม่ให้จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และเว็บไซต์หลอกลวง ว่า นายไชยชนกไม่ควรเงียบ เพราะการเงียบเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาล ที่นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย และรมว.ดิจิทัลฯ ไม่เอาจริงเอาจริงกับการปราบปรามแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงไม่ใช่เฟคนิวส์ จึงควรใช้โอกาสในการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ให้สิ้นซาก ซึ่งสิ่งที่ตนได้อภิปรายในสภาฯ เป็นการฉายภาพให้เห็นนายหน้า ซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย รวมถึงยังมีความสนิทกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์ และเชื่อว่า ร.อ.ธรรมนัส เป็นพยานปากสำคัญในการให้ข้อมูล
"จึงต้องดูเส้นเงินเพื่อนำไปสู่การปราบปรามหัวขบวนของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หากหัวขบวนถูกทำลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติก็จะถูกทำลายเช่นกัน หากจะหวังแค่ปราบปรามในเรื่องของบัญชีม้าหรือจับตัวเล็กตัวน้อยก็จะแก้ปัญหาไม่จบ ตนนำข้อมูลมาป้อนขนาดนี้แล้วว่ามีหัวขบวนสำคัญเป็นใครบ้างก็ควรจะเร่งทำงานในเรื่องนี้" นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า ผู้ที่เสนอเงินเดือนละ 40 ล้านบาท ถือเป็นกลุ่มเล็กหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ โดยธรรมชาติของเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติเป็นเครือข่ายที่มีหลายคน และหากติดสินบนจริงคงไม่ใช่แค่รัฐมนตรีคนเดียวแน่นอน อาจจะมีเงินถึงหมื่นล้านเพื่อติดสินบนในส่วนอื่น ควรถือโอกาสในการปราบปราม และเล็งไปที่หัวขบวนต้นตอที่เป็นปัญหา และไปถึงรากที่มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายอย่างอื่น เช่น บริษัทใหญ่ที่มีความพยายามฮุบหุ้นบริษัทไทย ต้องไปดูว่าเป็นเงินของกระบวนการของคอลเซ็นเตอร์หรือไม่
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า วานนี้ (30 ก.ย.) ตนได้อภิปรายในเรื่องดังกล่าว ร.อ.ธรรมนัส ก็หายจากบนบัลลังก์ แต่มาประชุม ครม.นัดพิเศษที่สภาฯ ได้ ซึ่งหมายความว่าอยู่ในสภาฯ แต่ไม่ได้มาชี้แจงในที่ประชุม เช่นเดียวกับนายอนุทิน ก็หายตัวไปในเวลาดังกล่าว ตนคิดว่าอย่าทำให้ว่ารู้เรื่องนี้กับเขาด้วย หากบริสุทธิ์ใจและไม่มีส่วนเกี่ยว ไม่ได้ใช้อำนาจรัฐในการปกป้องและปกป้อง นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ต้องสร้างความกระจ่างในเรื่องนี้
เมื่อถามถึงกรณีที่นายอนุทินได้โยนให้นายไชยชนกชี้แจงนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้ใหญ่เกินกว่า รมว.ดิจิทัลฯ จะชี้แจง ต้องดูเส้นทางการเงินมีหน่วยงาน อาทิ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรื่องนี้ไม่ใช่คดีแค่ภายในประเทศ หากเป็นเรื่องจริงถือเป็นเรื่องระดับโลก เพราะเรากำลังเห็นปรากฏการณ์ที่กลุ่มทุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์นำเงินนับแสนล้านบาทมายึดชาติของเรา เรื่องนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องปราบปรามอย่างเด็ดขาด และเรื่องนี้จะส่งผลดีในการทำให้สถานการณ์ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชาดีขึ้น เพราะผู้มีอำนาจของกัมพูชารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องพึ่งเศรษฐกิจการค้าปกติ ตราบใดที่เงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์เยอะ ขนาดประเทศไทยควรจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด และคนที่ควรจัดการมากที่สุดคือนายเบนจามิน
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า หาก รมว.ดิจิทัล ไม่ทำอะไร ก็อาจผิดกฎหมายด้วย เบื้องต้นในวันพรุ่งนี้ (2 ต.ค.) กมธ.ความมั่นคงฯ จะมีการพิจารณาในเรื่องนี้โดยตรง เพราะจะมีการเชิญนายอนุทิน ที่ดำรงตำแหน่งทั้ง 2 ตำแหน่ง มาชี้แจง หวังว่าจะได้รับความร่วมมือ ดังนั้น เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องลับ ทุกคนรู้จักกันหมด ก็แปลกดีที่ทุกคนพากันเงียบขนาดนี้ เรื่องนี้คือเรื่องเร่งด่วน
เมื่อถามว่า จะมีการเชิญ ร.อ.ธรรมนัส มาชี้แจงหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เดี๋ยวมีอีกหลายรอบ ตนมีข้อมูลว่า ร.อ.ธรรมนัส มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ แต่ขอเอาหน่วยงานตัวตั้งต้นก่อน และสาเหตุที่ต้องเชิญนายอนุทิน เพราะต้องดูหัวก่อน ถ้าหัวไม่ขยับก็ยาก ต้องดูท่าทีของนายอนุทินว่าจะเป็นแบบไหน หากต้องการเอาจริงเรื่องนี้ก็จะแก้โดยง่าย กมธ.ก็อาจจะไม่ต้องออกแรงมากเกินไป
เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินการยื่นไปที่หน่วยงานอื่นอีกหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เรามีข้อมูลตั้งต้นแล้วหากหน่วยงานขยับทันที ทุกอย่างก็จบ หากหน่วยงานไม่ทราบอะไรเลย ยังมาขอก็ต้องวางยุทธศาสตร์การทำงานอีกแบบ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี