‘สีหศักดิ์’เคลียร์‘จีน’ปมสนับสนุนอาวุธเขมร
เตรียมคุยสถานทูตจีน
มติที่ประชุม‘สมช.’ไฟเขียว
สร้างรั้วชายแดนไทย-เขมร
นายกฯให้กองทัพเลือกจุดเอง
นายกฯเคาะผลประชุม สมช.สร้างรั้วแนวชายแดนไทย-กัมพูชา แจงผลักดันคนเขมรออกบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว ใช้ ก.ม.ยึดหลักมนุษยธรรม ไร้คุยเอ็มโอยู 43-44 ลั่นไม่อยากใช้คำว่ากดดันหาก“กัมพูชา”ไม่ทำตามข้อตกลง อยากอยู่กันแบบนี้ไทยก็พร้อม ด้านรมว.กต.เตรียมขอคุยสถานทูตจีน ขอความชัดเจนประเด็นสนับสนุนอาวุธให้เขมร ก่อนเกิดเหตุปะทะกับไทย “บิ๊กเล็ก”สักการะศาลหลักเมือง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในก.กลาโหม ในโอกาสรับตำแหน่ง “รมว.กหช.”ทางการ พร้อมนำถก“สภากลาโหม”นัดแรก กับผบ.เหล่าทัพชุดใหม่ ซึ่งที่ประชุมเคาะ 8 นโยบายเร่งด่วนสนองรบ. ชี้ข่าวจีนส่งอาวุธให้เขมร ยันเป็นข่าวเก่า ส่วน “มทภ.1”ลงพื้นที่บ้านหนองจาน สระแก้ว ชาวบ้านแห่ต้อนรับให้กำลังใจ ขอแม่ทัพจัดการคนเขมรรุกที่เอาแผ่นดินคืนหลัง 10 ต.ค. ด้าน พล.ท.วรยส ลั่น ได้เปรียบเมื่อไหร่ พร้อมดำเนินการทันที
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม กระทรวงกลาโหม จัดพิธีต้อนรับพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง โดยมีพลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมถึงนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในสังกัดกระทรวงกลาโหมเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยช่วงเช้ามีพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประกอบด้วย องค์พระหลักเมือง และถวายสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาลาว่าการกลาโหม รวม 7 แห่ง จากนั้นพลเอกณัฐพลได้ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศผสม 3 เหล่าทัพ และในเวลา 10.00 น. เข้าร่วมการประชุมสภากลาโหม ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีงบประมาณ 2569 และเป็นครั้งแรกของผู้บัญชาเหล่าทัพชุดใหม่
บิ๊กเล็กงงเจอขุดไอเดียเมืองแฝดเรื่องเก่า
พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวถึงแนวคิดเมืองคู่แฝดระหว่างสระแก้ว-บันเตียเมียนเจย ที่เคยพูดก่อนหน้านี้ แต่กลับถูกนำมาโจมตีหลังจากที่นายกรัฐมนตรีระบุไม่เอาเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องเก่าที่ตนพูดตั้งแต่ 10 กันยายน 2568ที่จ.ตราด หลังประชุม GBC แต่ไม่ทราบว่าทำไมจึงเกิดเอามาพูดใหม่ในตอนนี้ โดยตอนนั้นตนคุยในที่ประชุม GBC และฝ่ายกัมพูชาก็เริ่มคล้อยตาม ซึ่งเราอยากให้เขาส่งแผนมา เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยว่าจะไปไหน อาจไปสร้างเมืองคู่แฝดในฝั่งกัมพูชา ไม่ใช่ฝั่งไทย เป้าหมายของตนที่พูดวันนั้น เพื่อต้องการให้เขาออกจากพื้นที่ของประเทศไทย บริเวณบ้านหนองจานบ้าน หนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว แต่ตอนนี้ไม่เกี่ยวกับตนแล้ว จะไปไหนก็แล้วแต่ ให้เป็นเรื่องของสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ตนมีหน้าที่ปกป้องเพียงอย่างเดียว
หลัง10ตค.อาจต้องใช้กำลังขับเขมร
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ประชุม สมช. จะพิจารณาสร้างรั้วชายแดนเลยหรือไม่ เพราะทหารก็กำลังรออยู่ ยังไม่สามารถเริ่มนับหนึ่งได้ พลเอก ณัฐพล กล่าวยอมรับว่า จะมีการพิจารณาเรื่องนี้ส่วนที่กัมพูชากำหนดการประชุม RBC วันที่ 10-12 ตุลาคม กับกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งตรงกับช่วงที่ไทยขีดเส้นตายให้ชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว มีนัยยะอะไรหรือไม่ พลเอกณัฐพลกล่าวว่า ไม่มีจริงๆ ติดที่ฝ่ายไทย ซึ่งตรงกับช่วงสับเปลี่ยนแม่ทัพภาคพอดี ดังนั้นไม่มีอะไรแต่เป็นฝ่ายไทยยังไม่พร้อม ซึ่งมีการเปลี่ยนถึง 2 แม่ทัพภาค
ส่วนเมื่อถึงวันเดทไลน์10 ตุลาคม หากใช้กำลังผลักดันกัมพูชา ต้องขออนุมัติที่ประชุม สมช. หรือกองทัพตัดสินใจได้ทันที พลเอกณัฐพล กล่าวว่า น่าต้องเข้าที่ประชุม สมช. ซึ่งบ่ายวันนี้จะคุยอยู่แล้ว พร้อมยอมรับอาจจำเป็นต้องใช้กำลังในการผลักดัน แต่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ยันข่าวจีนส่งอาวุธให้เขมรเป็นข่าวเก่า
พลเอก ณัฐพลยังกล่าวถึงกรณีนิวยอร์กไทม์เผยว่าจีนส่งจรวดและกระสุนปืนใหญ่มายังกัมพูชา ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่จะมีการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาว่า จากการตรวจสอบกับหน่วยข่าว เรื่องนี้เป็นข่าวเก่า และข่าวเปิด ตนขอยืนยัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการส่งอาวุธมาก่อนจะเกิดเหตุสู้รบไทย-กัมพูชาใช่หรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า ถูกต้อง เรื่องนี้ตนเคยชี้แจงกับสื่อมวลชนเมื่อช่วงต้นปี 2568 ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ว่าจีนได้สนับสนุนอาวุธให้กัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ช่วงนั้นไทย-เขมรยังไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น แต่ถ้ามีความขัดแย้งและความตึงเครียดลักษณะนี้ ตนก็มั่นใจว่าจีนคงจะพิจารณาด้วยความรอบคอบ
โอดไทยแจงสภาจนเขมรรู้เรื่องหมด
ถามย้ำว่า ช่วงที่ผ่านมาจีนไม่ได้ส่งอาวุธเพิ่มให้เขมรใช่หรือไม่ พลเอก ณัฐพลกล่าวว่า ด้านการข่าวไม่มีถามต่อว่า ส่วนที่จีนมอบอาวุธให้เขมร เกี่ยวข้องกับการซ้อมรบร่วมกัน แล้วไม่ได้เอาอาวุธกลับไปใช่หรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า ก็อาจเป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งทราบมาจากการข่าว เพราะเขมรไม่ได้แถลงข่าวออกมา ซึ่งในแง่การข่าวของไทยจะต่างจากเขมร โดยกัมพูชาจะไม่แถลงว่ามีอาวุธอะไร แต่ของไทยมีการซักถามไล่เรียงกันในสภาฯ จนฝ่ายกัมพูชารู้ของไทยเกือบหมด
เมื่อถามว่า ในฐานะที่ดูแลความมั่นคง มีแนวโน้มจะเกิดสงครามไทย-กัมพูชา หรือไม่ พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า เรื่องนี้มองได้ 2 ฝ่าย โดยฝ่ายไทยยึดมั่นในสันติวิธี พยายามใช้การเจรจาแบบทวิภาคี แต่ฝ่ายกัมพูชาเจรจาก็เจรจากันไป พร้อมรบก็พร้อมไป
แย้มสิ้นปีอาจได้ใช้อาวุธใหม่ทดแทน
ส่วนความคืบหน้าการของบกลางจัดซื้ออาวุธยุทธโธปกรณ์ทดแทนของเดิม พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า กำลังเร่งรัดดำเนินการ โดยปกติจะใช้เวลา 3 - 6 เดือน หรือ 1 ปี แต่ปัจจุบันกรมบัญชีกลางได้ช่วยอนุโลมให้เฉพาะช่วง 2 - 3 ปีนี้ เพื่อเร่งรัดการจัดซื้อ และผ่อนผันหลักเกณฑ์ ให้จัดซื้อได้เร็วขึ้น คาดว่าเร็วๆ นี้ และช่วงสิ้นปีจะได้รับถามถึงที่ประชุม ครม.อนุมัติงบกว่า800 ล้านบาท ให้กองทัพนำไปใช้จัดซื้ออะไรบ้าง พลเอก ณัฐพลกล่าวว่า มีทั้งเรื่องกำลังพลและยุทธโธปกรณ์ แต่ไม่ขอลงรายละเอียด
เปิดตัว“บิ๊กดุลย์”ช่วยสางปมพิพาทเขมร
พลเอก ณัฐพลให้สัมภาษณ์หลังประชุมสภากลาโหมว่า ช่วงเช้าได้เชิญผู้บัญชาการเหล่าทัพชุดใหม่ และพลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รับประทานอาหารว่าง และพูดคุยกันนอกรอบและในการรแถลงข่าววันนี้พลเอก ณัฐพล เชิญพลโท อดุลย์ มาแนะนำตัวกับสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า จะมาช่วยงาน แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะเป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งจะดูแลพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1, กองทัพภาคที่ 2 และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด หรือ กปช.จต. และตนก็รู้จักมาเป็นอย่างดี ในช่วงที่ปฏิบัติงาน พูดคุยประสานงาน ซึ่งเชื่อว่า จะมาช่วยงานในกระทรวงกลาโหม ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยราบรื่นมากขึ้น ส่วนตนจะดูแลในภาพรวม และวันที่ 3 ตุลาคม ก็จะลงพื้นที่ไปกับนายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรีทั้งนี้ การทำงานต่อจากนี้จะเน้นเรื่องความมั่นคงเป็นหลัก และนโยบายนายกฯ ที่ให้ไว้ชัดเจน มุ่งไปที่ความมั่นคง ด้านการทหาร
พลเอก ณัฐพล ยังย้ำว่าที่ประชุมสภากลาโหมวันนี้ ได้ให้นโยบายเรื่องแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจะเร่งเสริมสร้างความพร้อมรบให้มากขึ้น ผ่านการจัดหาอาวุธยุทธโธปกรณ์ ซึ่งที่ผ่านมาการจัดหาแนวป้องกันประเทศ แต่จากนี้ไปจะเน้นเชิงรุก เพื่อเสริมเขี้ยวเล็บของกองทัพให้มากยิ่งขึ้น
พลเอก ณัฐพล ยังกล่าวถึงการดูแลสวัสดิการทหารหมุนเวียนกำลังพล จะให้มาพักผ่อน ในสถานที่พักผ่อนทางทหาร เช่น สวนสนประดิพัทธ์ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
สภากห.เคาะ8นโยบายเร่งด่วน
หลังประชุมสภากลาโหม พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแสดงความพร้อมทำงานเต็มกำลังความสามารถเพื่อนำพาและพัฒนากองทัพให้มีความพร้อม ทันสมัย เข้มแข็งสง่างาม เป็นมืออาชีพ เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ในทุกโอกาส พร้อมมอบนโยบายสำคัญ เร่งด่วน 8 ข้อ ช่วงที่รัฐบาลปฏิบัติหน้าที่ตลอด 4 เดือนนี้
1. เป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนที่สุดคือการแก้ปัญหาความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา และเน้นย้ำเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2.การพัฒนาพื้นที่ชายแดนให้เกื้อกูลต่อการเคลื่อนย้ายกำลัง ป้องกันชายแดนป้องกันประเทศ และการปฏิบัติการทางทหารอื่น เร่งพัฒนาระบบสาธารณูปโภค และสายส่งกำลังบำรุง ให้หน่วยทหารที่อยู่ในแนวหน้า3.การเสริมสร้างกองทัพไม่มีศักยภาพและความพร้อมรองรับภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไป โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เช่นการนำโดรน UAS หรือ CAUS หรือระบบแอนตี้โดรนมาใช้ 4.พัฒนากองทัพให้มีโครงสร้างที่เหมาะสม พร้อมรบ และทันสมัย รวมทั้งกำหนดสัดส่วนงบประมาณที่เหมาะสม ระหว่างงบพื้นฐานกับงบพัฒนากองทัพ
5.พัฒนาขีดความสามารถกำลังพลของกองทัพ ในการใช้เครื่องมือบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับหน่วยงานพลเรือน จัดทำ MOU ร่วมกับส่วนราชการ ให้เข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที 6.การพัฒนางานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศมุ่งสู่เชิงพาณิชย์ เพื่อลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ 7.การพัฒนาศักยภาพและดูแลสิทธิ สวัสดิการของกำลังพลชั้นผู้น้อย และทหารกองประจำการ ตลอดจนครอบครัวของกำลังพลและ 8.การยกระดับระบบการสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เพื่อดูแลทหารผ่านศึกและครอบครัวได้อย่างทั่วถึงและยั่งยืน ครอบคลุมถึงการดูแลเรื่องเงินค่าตอบแทน เงินเยียวยาต่าง ๆ และสิทธิต่าง ๆ ในการปฏิบัติหน้าที่
มทภ.1ลงพื้นที่บ้านหนองจานชาวบ้านแห่รับ
วันเดียวกัน เวลา 14.00 น.ที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชาวบ้านประมาณ 50 คนถือธงชาติมารอต้อนรับพลโทวรยศ เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมชูแผ่นป้ายเขียนข้อความว่า ชาวอ่างศิลา อำเภอโคกสูง และให้กำลังใจขอสนับสนุนและให้กำลังใจ ท่านแม่ทัพภาคที่หนึ่ง ยึดผืนคืนแผ่นดินไทย“ บางรายนำพวงมาลัยดอกดาวเรือง ผ้าขาวม้ามามอบให้แม่ทัพภาคที่หนึ่ง และ ทำไวนิลรูปแผนที่ประเทศไทย เชิงสัญลักษณ์เพื่อฝากให้แม่ทัพดูแลผืนแผ่นดินนี้ดูแลผืนแผ่นดินนี้ห้ามขาดหายแม้แต่ตารางเซนเดียว โดยให้ พระอาจารย์ วชิรภาวนา โกศล เจ้าอาวาสวัดวีระโชติธรรมมาราม จ. ฉะเชิงเทรา เขียนยันต์ “แคล้วคลาด” ให้แม่ทัพภาคหนึ่ง และทหาร รวมถึงข้อความ ”ขอให้รักษาผืนแผ่นดินด้ามขวาแผ่นนี้ไว้ ไม่ให้หายไปจากขวานเล่มนี้ และให้รักชาติเหมือนที่รักตัวเอง“ทันทีที่พล.ท.วรยศมาถึง ชาวบ้านต่างส่งเสียงร้องต้อนรับ ด้วยความดีใจ
รอดูหลัง10ตค.ขอแม่ทัพจัดการเขมรรุกที่
ทั้งนี้ มทภ.1ลงพื้นที่บ้านหนองจาน ประมาณ 20 นาที โดยเดินเข้าไปสำรวจพื้นที่ข้อพิพาทที่ยังไม่ได้ข้อสรุป เกี่ยวกับเรื่องของที่ดิน จากนั้นพล.ท.วรยศออกมาพบปะชาวบ้าน และพยายามขออนุญาตนำผ้าขาวม้าที่เตรียมมาผูกเอว โดยพล.ท.วรยศ ยกมือปฏิเสธด้วยความเขินอาย บอกว่า “เดี๋ยวดูไม่แมน ” แต่รับผ้าขาวม้า รวมถึงพวงมาลัย แผนที่ที่ชาวบ้านนำมามอบให้ ชาวบ้านฝากพล.ท.วรยสว่า แม่ทัพต้องเอาแผ่นดินคืนมาให้ได้ ชาวบ้านบ้านหนองจานรออยู่ วันที่ 10 ตุลาคมนี้ เรารออยู่ วันที่ 10 เราจัดการเลยได้หรือไม่
จากนั้นพล.ท.วรยสให้สัมภาษณ์สั้นๆว่า วันนี้แค่ลงมาดูพื้นที่ติดตามสถานการณ์ มาดูลูกน้อง และมาดูแลประชาชน ส่วนเรื่องปฏิบัติการ แผนต่างๆ ในส่วนกำลังทหาร ตำรวจ จังหวัดพร้อมอยู่แล้ว แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะปฏิบัติการอย่างไร ซึ่งเมื่อได้เปรียบจะดำเนินการทันที
ทภ.2จัดพิธีรับส่งหน้าที่มทภ.2
วันเดียวกัน กองทัพภาคที่ 2จัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่ แม่ทัพภาคที่ 2 ระหว่าง พลโทบุญสิน พาดกลาง อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 กับพลโทวีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้มีพิธีสักการะพระศรีสัมพุทธโมลี พิธีสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) พิธีสักการะพระพุทธวิชัยเสนีย์นาถ และศาลพระนครราช พิธีสักการะอนุสาวรีย์วีรไทย พิธีถวายสักการะพระบรมรูป รัชกาลที่ 5 และพิธีถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 07.09 น.
จากนั้น เวลา 09.39 น. พลโทบุญสินลงนามในเอกสารรับ-ส่งหน้าที่ แม่ทัพภาคที่ 2 ให้แก่พลโทวีระยุทธ ที่ห้องประชุม 1 กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 และ เวลา 10.29 น. ได้ทำพิธีรับ-ส่งหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 2บริเวณลานหน้าสโมสรร่วมเริงไชย โดยพลโทบุญสินกล่าวส่งมอบหน้าที่และการบังคับบัญชา พร้อมส่งมอบธงประจำหน่วยให้พลโทวีระยุทธ และมีการสวนสนามกองเกียรติยศของหมู่ธงประจำหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 2 จำนวน 83 หมู่ธง โดยมีข้าราชการกองทัพภาคที่ 2 และสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ร่วมในพิธีโดยพร้อมเพรียง
บิ๊กกุ้งย้ำกำลังพลยึดมั่นทำหน้าที่ป้องอธิปไตย
พลโทบุญสิน อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ขอให้กำลังพลทุกนายยึดมั่นในการทำหน้าที่ เพื่อปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนนี้ ไว้ด้วยเลือดเนื้อและชีวิต มิยอมให้ผู้ใดมาล่วงล้ำแผ่นดินไทยเป็นอันขาด เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชน นี่คือสิ่งที่เราต้องธำรงไว้เหนือสิ่งอื่นใด รวมถึงร่วมมือสร้างความรัก ความสามัคคี ความมั่นคง และชื่อเสียงอันดีงามของกองทัพภาคที่ 2 ให้ยั่งยืนสืบไป และขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของกองทัพภาคที่ 2 จนประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย พร้อมกันนี้ ยังกล่าวแสดงความยินดีและเชื่อมั่นว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ท่านใหม่ ซึ่งเป็นนายทหารที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ จะนำพากองทัพภาคที่ 2 ก้าวหน้าและบรรลุภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างสมบูรณ์
‘บิ๊กเติ่ง’ประกาศเดินตามรอย‘บิ๊กกุ้ง’
ด้านพลโทวีระยุทธ แม่ทัพภาคที่ 2คนใหม่กล่าวแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ในโอกาสที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่ อย่างเต็มขีดความสามารถ รวมทั้งจะรักษาเอกราชอธิปไตย ซึ่งถือเป็นเกียรติยศสูงสุดของชาติ จะไม่ยอมให้ใครมาละเมิด ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม พร้อมรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยให้ประชาชน แม้ต้องเสียเลือดเนื้อก็ตามและขอให้เพื่อนทหารที่รักทุกนายจงภาคภูมิใจที่จะรักษาไว้ ซึ่งชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน นั้นคือสิ่งที่เราต้องธำรงไว้เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ในการนี้ ยังกล่าวชื่นชม อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ได้ทำหน้าที่ช่วยเหลือกองทัพบก และกองทัพภาคที่ 2 รวมถึง ประเทศชาติ ขอขอบคุณที่ได้มอบความรู้ และความรักให้พวกเรามาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รวมถึง ดูแลบริหารราชการให้กองทัพภาคที่ 2 เป็นหน่วยที่มีประสิทธิภาพสูงสุดหน่วยหนึ่งของกองทัพบก เป็นหน่วยทหารที่ได้รับการยกย่องในความกล้าหาญ รวมทั้งได้รับความเชื่อมั่น และเป็นที่ศรัทธาของประชาชนอย่างจริงใจ จึงขอน้อมจารึกผลการปฏิบัติราชการของท่าน ไว้เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติราชการสืบไป
ผบ.ทอ.ยันทัพฟ้าพร้อมรบรอฟังรบ.
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อ.เสกสรร คันธา ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผอ.ทอ.) กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และอุบลราชธานี เพื่อตรวจการเตรียมความพร้อมรบว่า ทุกอย่างมีความพร้อม ส่วนกรณีอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่ดินรุกล้ำและมีเป้าหมายในหน่วยทหารนั้น จะหารือในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติวันนี้อีกครั้ง ทั้งนี้ ในส่วนกองทัพอากาศไม่ได้มีข้อมูลอะไรมานำเสนอ เพียงแต่มารับฟังแนวนโยบายของรัฐบาล หากต้องมีการขอรับการสนับสนุนภารกิจชายแดนไทย-กัมพูชา ในอนาคต
มติสมช.เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-เขมร
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติครั้งที่ 12/2568 ว่า มีเรื่องพิจารณาอยู่ 2-3 เรื่อง รายละเอียดขอให้เลขาธิการ สมช.เป็นผู้แถลง ซึ่งในหลักการเราอนุมัติกรอบสร้างรั้วที่จะสร้างตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ส่วนพิกัดกองบัญชาการกองทัพไทยจะไปดำเนินการตัดสินใจว่าจะสร้างในช่วงไหนส่วนเป็นรูปแบบใดอยู่กับสภาพภูมิประเทศและความสะดวกของประชาชนในแถบนั้น
ขับเขมรหนองจานยึดกม.-มนุษยธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า การผลักดันคนกัมพูชาออกจากบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว ในวันที่ 10 ตุลาคมให้นโยบายอย่างไร นายกฯกล่าวว่า นโยบายคือต้องใช้กฎหมายที่ถูกต้อง และเราต้องคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม และคำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา จะใช้กฎหมายไหนตามกฎอัยการศึก หรือกฎหมายป่าไม้ หรือกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง ตรงนี้งกองบัญชาการกองทัพไทยขอไปหารือกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกระทรวงมหาดไทย
ถามย้ำว่า จะถึงขั้นใช้กำลังหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อันนี้ชาวบ้านทั่วไปไม่ใช่กองทัพ เราต้องคำนึงถึงวิถีชีวิตคนลำบากอยู่แล้ว มีทั้งเด็กคนชราและสตรี จะพยายามใช้กฎหมาย
ไม่คุยปมเลิกMOU43-44ชี้เรื่องของสภา
ถามต่อว่าระบุเป็นไทม์ไลน์ หรือว่าให้กองทัพไปจัดการเลย นายกฯ กล่าวว่า วัน เวลา ตามที่เราเห็นเหมาะสม ถามย้ำว่า แต่ยังไม่ใช่วันที่ 10 ตุลาคมใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า น่าจะยังไม่ใช่ เมื่อถามอีกว่า เสียงสะท้อนของชาวบ้านในพื้นที่ เป็นเหมือนแรงกดดัน นายกฯ กล่าวว่า เราก็ต้องทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายส่วนเรื่องเอ็มโอยู 2543-2544 นั้น ไม่ได้มีการหารือในสมช. เป็นเรื่องของสภาฯ
ถามถึงการหารือกดดันให้เขมรทำตามข้อตกลงเรื่องการถอนอาวุธหนัก ถอนกำลัง หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อยู่ในกรอบคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ที่รมว.กลาโหม ไปประชุมมา ในช่วงระหว่างการประชุม เราก็ยังยืนยันจุดยืนของเราว่าก่อนดำเนินการใดๆ ในเรื่องเจรจา เรามีเงื่อนไขที่เราต้องการให้เขมรปฏิบัติตาม
ถามย้ำว่า ที่ผ่านมาการประชุม 2 ครั้ง ไม่ว่าประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) และคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) เหมือนไม่ไปไหน นายกฯ กล่าวว่า มันจะเริ่มไปไหนแล้ว
มันมีความคืบหน้าการเจรจา อย่างที่ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ ไปที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ไปพูดถึงจุดยืนของประเทศไทย ว่าสิ่งที่หลายคนเข้าใจมันไม่ใช่ สิ่งที่นานาชาติถูกทำให้เข้าใจมันไม่ใช่เช่นนั้น ข้อเท็จจริงมันเป็นแบบนี้ ซึ่งก็จะนำไปสู่การเจรจาที่เราต้องดำเนินต่อไป ซึ่งรัฐบาลจะใช้เวทีกระทรวงต่างประเทศควบคู่ไปกับเรื่องของกำลัง กองทัพก็พร้อม เราไปบอกที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าเราไม่ได้เป็นผู้รุกราน แต่เราที่โดนรุกราน เรื่องการป้องกันอธิปไตยกองทัพพร้อมตนได้รับคำยืนยันและทางรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนกองทัพ
ฮึ่มเขมรไม่รับเงื่อนไขจะอยู่แบบนี้ไทยก็พร้อม
เมื่อถามถึงมาตรการที่รัฐบาลจะใช้กดดันเขมร นายกฯ กล่าวว่า ทุกวันนี้เราก็กดดันกลายๆ อยู่แล้ว
ส่วนที่เราทำไปแต่เขายังไม่ตอบรับกลับมาหลังรมว.การต่างประเทศ ไปเวทีนานาชาติ นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่เราได้ทำไปคำว่าการตอบรับ ไม่ได้คุยกันแบบนี้ ต้องมีการติดต่อมาของฝ่ายที่พยายามจะให้เกิดสันติภาพ คือ การตอบรับ แต่บางทีไม่ได้พูดกันโดยตรง แต่สื่อสารทำให้เรารับรู้ด้วยว่านี่คือสิ่งที่ทำให้เดินไปสู่การตอบรับ และการดำเนินการใดๆเพื่อให้สถานการณ์ของทั้ง 2 ประเทศดีขึ้น
เมื่อถามอีกว่า ประเด็นสำคัญคือเขมรยังไม่ได้ตอบรับจัดทำแผนอพยพคน และเก็บกู้วัตถุระเบิดในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 นายกฯ กล่าวว่า ถ้าเขาไม่ตอบรับ เราก็ไม่ตอบสนอง ฉะนั้นสิ่งที่เขาจะให้ดำเนินการอยากให้ทำนั่น อยากไปทำนี่ ช่วยเปิดด่านหน่อย เราก็ไม่ทำ ตนไม่อยากใช้คำว่ากดดัน ทุกวันนี้กดดันกันมากอยู่แล้ว ลองหาวิธีการสื่อออกไปให้เห็นว่า ประเทศเราพร้อม ถ้าอยากอยู่กันแบบนี้ไทยก็พร้อม และถ้าอยากจะให้ชีวิตของประชาชนที่พวกเขารับผิดชอบอยู่ดีขึ้น ก็ต้องตอบรับเงื่อนไขของเรา
กต.เล็งคุยจีนปมสนับสนุนอาวุธเขมร
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังประชุมสมช.ถึงกระแสข่าวสหรัฐให้งบสนับสุนนกัมพูชาเพื่อเก็บกู้ทุ่นระเบิดว่า ในกรอบคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) เราต้องคุยอยู่แล้ว มีการตกลงกันว่าจะร่วมกันเก็บกวาดทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ต้องคุยกัน ขณะนี้รายละเอียดการพูดคุยดำเนินการอยู่ แต่ในส่วนการเก็บกู้ทุ่นระเบิด วันก่อนนอร์เวย์บอกว่าพร้อมให้ความช่วยเหลือ ตนเชื่อว่ามีอีกหลายประเทศพร้อมช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ทั้งที่เราเสียงสะท้อนไปยังต่างประเทศ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า อันนี้เป็นสิ่งที่เราทำร่วมกัน ซึ่งเราต้องมาคุยในรายละเอียด ยังไม่สามารถไปสรุปได้ เขายังไม่ให้ความร่วมมือ ทั้งหมดอยู่ที่ความจริงใจ
ถามถึงกรณีจีนสนับสนุนอาวุธให้กัมพูชา นายสีหศักดิ์กล่าวว่า เขาอาจให้ แต่เขาไม่ได้สนับสนุนที่จะเอาอาวุธนั้นมารุกรานประเทศอื่น ซึ่งการให้ความช่วยเหลือป้องกันประเทศเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะให้ความช่วยเหลือกัมพูชามารุกรานประเทศไทย เมื่อถามย้ำว่า เป็นการซื้อขายกันปกติใช่หรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ปกติเรื่องของการซื้อขายอาวุธ ซึ่งเราก็มี
ถามอีกว่า เมื่อเกิดข่าวนี้ขึ้น กระทรวงการต่างประเทศต้องคุยกับสถานทูตจีนในไทยหรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า รมว.กลาโหม บอกว่าเป็นข่าวเก่า ถามต่อว่า จะประชาสัมพันธ์ให้คนไทยเข้าใจอย่างไร เพราะขณะนี้คนไทยเข้าไปถล่มเพจทางการจีน นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดี๋ยวตนจะไปเช็คดู และจะขอความกระจ่างจากทางสถานทูตจีนก่อน ซึ่ง รมว.กลาโหม ชี้แจงแล้วว่าเป็นข่าวเก่า ย้ำว่าการให้ความช่วยเหลือด้านการป้องกันประเทศเป็นเรื่องที่หลายประเทศทำกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ความช่วยเหลือเพื่อจะไปรุกรานประเทศอื่น ประเด็นนี้สำคัญ และเรื่องนี้ยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี