นายกฯชมรัฐบาลเก่า '2 พิชัย'ทีมคลัง-พณ.สู้กำแพงภาษีทรัมป์

นายกฯชมรัฐบาลเก่า '2 พิชัย'ทีมคลัง-พณ.สู้กำแพงภาษีทรัมป์

วันศุกร์ ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 11.00 น.

นายกฯชมรัฐบาลเก่า "2 พิชัย"ทีมคลัง-พณ.สู้กำแพงภาษีทรัมป์ ต่อรองสหรัฐฯลดภาษีอีก หลังเป็นตัวกลางสงบศึกไทย-กัมพูชา ชี้รัฐบาลต้องเข็มแข็ง ช่วยเหลือกลุ่มทุน แต่ไม่ให้กลุ่มทุนชี้นำ ยันไทยมีอนาคต อาจชะงักงันบ้าง เหตุติดหล่มการเมือง ลั่นอย่าให้นักการเมืองชักนำ

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวภายหลังปาฐกถาพิเศษในเวทีสัมมนา Sustainability Expo 2025 A Call for Adaptation The Sustainability in Trade & Industry หัวข้อ "ยกระดับอุตสาหกรรม-การค้า-การลงทุนสู่ความยั่งยืน" ว่า วันนี้เราอยู่ในยุคที่ได้ยินคำว่าความยั่งยืนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเราจะต้องมอง ดำเนินการ และคิดให้เกิดความยั่งยืน คิดเป็นแบบ Quick Win ซึ่งรัฐบาลมีเวลา 4 เดือน ก็ต้องทำงานแบบ Quick Win และต้องวางรากฐานให้รัฐบาลต่อไปนำไปต่อยอด โดยไม่ต้องมาล้มเลิกและนำแนวคิดเรื่องใหม่ๆเข้ามา แต่หากรัฐบาลต่อไปล้มเลิกอีก จะทำให้คำว่า Sustainability ไม่มีความหมายใดๆ


นายกฯ กล่าวว่า มีหลายอย่างบีบให้สังคมไทยต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้เราเกิดความอยู่รอด แต่อยู่รอดด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี ถ้ามีคุณภาพชีวิตที่ดี เราอาจอยู่ได้ถึง 90 ปี และวันหนึ่งอาจต้องมีการปรับเกษียณอายุเป็น 65 ปี เพราะถ้าคนไม่ Active อาจกลายเป็นภาระได้ แต่ช่วงอายุ 60-90 ปี ต้องดูแลตัวเองได้ เราต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การใช้ชีวิตของเราเช่นกัน ต้องไม่มีช้อยส์ที่ไปเป็นภาระให้ลูกหลาน รัฐบาลก็ต้องดูแลพวกท่าน เตรียมเงินดูแลเรื่องสุขภาพ เรื่องบัตรทอง 30 บาท ต้องมีจำนวนเงินสำรองไว้ในการดูแลรักษาสุขภาพของคนไทยเพิ่มมากขึ้น เงินเหล่านี้มาจากไหน รัฐบาลต้องหามา จะหามาอย่างไร ก็คือจากการสนับสนุนให้พวกท่านได้ประกอบธุรกิจ อำนวยความสะดวกให้ทำการค้า เสริมสร้างรายได้เข้าประเทศเยอะๆเพื่อเก็บภาษีจากพวกท่าน เพราะเงินเหล่านี้ต้องเอามาใช้ในการดูแลคุณภาพชีวิตของประชากรประเทศ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่รัฐบาลจากนี้ไปจะต้องทำ ตนจึงใช้คำว่าเป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือก ไม่มีทางเลือกหรอกครับ เราต้องมีการพัฒนาที่ยั่งยืนและเหมาะสมกับสภาพสังคม สภาพประเทศของเรา

นายกฯ กล่าวว่า ถามว่าโอกาสมีไหม ตนเคยมาจากภาคธุรกิจมาก่อน มองหลายๆอย่าง มองประเทศไทยอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องมองเป็นภูมิภาคคืออาเซียน ซึ่งเราเป็นไข่แดงอยู่ตรงกลางมีภูเขา ทะเล มีทางออกทั้งทางบกทางน้ำ เชื่อมตะวันตก ตะวันออก ทุกที่ต้องผ่านประเทศไทย จะผ่านเก็บค่าผ่านทางเฉยๆ ไม่ได้ ต้องให้คนทุกคนที่ผ่านประเทศไทยแวะ ต้องใช้ ต้องผลิต ต้องลงทุนนี่ คือสิ่งที่ประเทศไทยเรามีศักยภาพที่สุดในภูมิภาคอาเซียน

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนการเมืองที่จริงแล้วมีความเป็นเสถียรภาพ ต่อให้ไม่มีความเป็นเสถียรภาพ นักการเมืองรู้ดีว่าอย่าไปแตะกับผู้ประกอบการที่เขากำลังสร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศ เราผ่านวิกฤตการณ์มาเท่าไหร่ก็ตาม แต่ว่าความมั่นคงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจเราไม่เคยลดน้อยถอยลง สิ่งที่เราต้องแก้อีกนิดเดียวคือทำให้รัฐบาลมีความเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ช่วยเหลือและสนับสนุนกลุ่มทุนซัพพอร์ตทุกอย่าง ออกมาตรการทุกอย่างให้กลุ่มทุนได้ แต่ต้องไม่ให้กลุ่มทุนมาชี้นำรัฐบาลเท่านั้นเอง และประเทศของเราสามารถที่จะมีการแข่งขันได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่ว่าทำอะไรไม่ได้ ติดคนนี้ ติดคนนั้น และสิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่เกิดการแข่งขัน จะกลายเป็นเสือนอนกินไม่พัฒนา ตนเชื่อว่าสังคมการเมืองจะเปลี่ยนไปและประเทศไทยของเราจะเริ่มปรับความเป็นสากลความเป็นธรรมาภิบาลเพิ่มมากขึ้น เพราะเราจะถูกบีบจากสังคมทั้งภายในและภายนอก

นายกฯ กล่าวอีกว่า เรามีสงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจ ในช่วงนี้สถานการณ์ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ทำให้กฎทางการค้าซับซ้อนขึ้น ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับความผันผวน รัฐบาลทุกประเทศต่างคิดมาตรการที่จะทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศของเขาและในหลายครั้งอาจจะเป็นโทษกับประเทศผู้ค้าอื่น เราต้องมีความพร้อม โลกเป็นอย่างไรต้องปรับเปลี่ยน วันนี้สหรัฐฯขึ้นภาษีของเรา สิ่งแรกที่เราต้องคิดแล้วตลาดอื่นอยู่ไหนต้องไปให้ได้ เขาเพิ่มมา 19% จะไปแข่งกับใคร ตลาดอื่นที่จะมารองรับมีไหม และเราต้องมองฐานการผลิตของเรา ตนเคยคิดว่าการขึ้นภาษีมากๆ ไม่ว่าประเทศไหนก็ตาม เช่น อยากกินกุ้งอร่อย กรอบๆ สดๆ ถูกๆ หรือไม่ คุณจะหากุ้งถูกกว่าประเทศไทยที่ไหน อยากกินเบียร์ดีๆ ที่ราคามาตรฐาน คนกินได้ทุกระดับจะซื้อที่ไหนถ้าไม่ใช่ประเทศไทย ซึ่งหากขึ้นภาษีไปคนในประเทศนั้นก็เดือดร้อน

นายกฯ กล่าวว่า ขอชื่นชมรัฐบาลที่แล้วทั้งกระทรวงการคลัง โดย นายพิชัย ชุณหวชิร อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พาณิชย์ ทั้งสองพิชัยเลย รวมถึงปลัดกระทรวง ต้องใช้เวลาเป็นอย่างมากในการดำเนินการเรื่องภาษีประเทศไทยจนสุดท้ายแล้วได้มา 19% เราไม่ได้เสียอะไร ซึ่งเท่าที่ตัวเองทราบมาท่านได้ใช้ทุกกลไกทุกอย่างเท่าที่ได้มา และถ้าเขาสูญเสียคนที่เดือดร้อนคือประเทศของเขา ตอนนี้ด้วยปัญหาความขัดแย้งที่เรามีกับประเทศเพื่อนบ้าน สหรัฐฯพยายามอยากจะให้เราได้มีข้อตกลงที่ดีต่อกันเพื่ออะไรก็แล้วแต่ เพื่อประโยชน์ของประเทศของเขาด้วย ในเรื่องการค้า ความมั่นคงในภูมิภาค สิ่งแรกที่ตนคิดถ้าอยากจะได้เงื่อนไขแบบนี้ต้องคุยได้ จะทำไม่ทำอีกเรื่องหนึ่ง รับฟังได้ และปากต้องพูดด้วยภาษีลดลงอีกได้หรือไม่ ถ้าลดลงได้อีกก็จะทำให้เราตัดสินใจในการทำตามคำแนะนำของเขาได้มากขึ้น ประเทศไทยไม่เสียอะไร คุณลดภาษีด้วย เพื่อความสงบสุขของโลกใบนี้ต้องช่วยกัน

นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนสังคมสีเขียว พลังงานสะอาด ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องดูเรื่องภาคการผลิต เรื่องคาร์บอนด้วย ไม่เช่นนั้นเขาจะเสียเปรียบในแทบทุกอุตสาหกรรม รัฐบาลชุดนี้จะวางรากฐานให้ประชาชนมีส่วนร่วมเพิ่มมากขึ้นในพลังงานสะอาด เรากำลังคิดเรื่องโซล่าเซลล์ชุมชน หมู่บ้านใช้น้อยถ้าเหลือก็รวมแล้วเอาไปขายนำเงินมาพัฒนาชุมชน วันนี้ที่ตนกลับมามีสถานะเป็นนายกรัฐมนตรี ตนคิดว่าจะเร่งให้นโยบายนี้เกิดโดยเร็ว ตนจะใช้เวลานี้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด รวมถึงอีกอุตสาหกรรมเรื่องสุขภาพ ตนขอยกโมเดลโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ใครก็อยากเข้าทั้งนั้น เพราะได้รับการดูแลสุขภาพและการปฎิบัติที่ดี ซึ่งกำไรจากโรงพยาบาลก็เอาไปใช้ในศิริราช ซึ่งเป็นโมเดลที่ดีมาก

นายกฯ กล่าวว่า การที่เรารักษาสุขภาพให้ดีคือเราได้ทำบุญเหมือนกัน ถ้าเราเข้าใจเรื่องพวกนี้อย่างดี ถ้าเราแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง สังคมดี และเศรษฐกิจก็ดีขึ้นด้วย สิ่งเหล่านี้อยากฝากไว้ว่าประเทศไทยของเราไม่ใช่ไม่มีอนาคต อาจจะมีการชะงักงันไปบ้างในเรื่องการเมือง แต่ถ้าเราดูจริงๆแล้วปล่อยให้การเมืองก็ว่ากันไป คนในชาติต้องรักต้องสามัคคีกัน การเมืองก็จะมาดูแลท่านเอง ในเมื่อคนในชาติไม่ต้องการความขัดแย้ง นักการเมืองก็ไม่กล้าขัดแย้ง อย่าให้นักการเมืองมา Lead (ชักนำ ชักจูง) ท่าน ท่านต้อง Lead (ชักนำ ชักจูง ) นักการเมือง ตนจะใช้โอกาสที่มีบุญวาสนามาตรงนี้ได้ ทำให้ดีที่สุด ไม่ทำอะไรเยอะ ทำแบบพอเพียง แบบยั่งยืนและยืดยาว พร้อมปรับปรุง รับฟัง และสนับสนุนให้ท่านทั้งหลายดำเนินกิจการด้วยความมั่นคงในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้พร้อมที่จะให้การสนับสนุนพวกท่านในทุกมิติ เพื่อให้มีความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพเกิดขึ้นในประเทศของเรา

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top