เปิดร่าง พ.ร.ฎ.พัฒนาสิทธิประโยชน์ ประกันสังคม ม.40 รัฐบาลเร่งเดินหน้าผลักดัน
5 ตุลาคม 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญในการผลักดันและขับเคลื่อนกฎหมายสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อภาคแรงงาน ซึ่งมีส่วนสำคัญช่วยเศรษฐกิจไทยเดินหน้า โดยได้มีการออกกฎหมายที่เกี่ยวกับการพัฒนาสิทธิประโยชน์ประกันสังคมมาตรา 40 สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ ให้มี “หลักประกันทางสังคม”
สำนักงานประกันสังคม (สปส.) มีเป้าหมายที่จะขยายหลักประกันทางสังคมให้ครอบคลุมแรงงานอิสระ 20 ล้านคนในประเทศไทย โดย ณ เดือนสิงหาคม 2568 มีผู้ประกันตนมาตรา 40 จำนวนกว่า 11,018,243 คน ให้ความสนใจสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 อย่างต่อเนื่อง โดยแรงงานภาคอิสระสามารถสมัครรับความคุ้มครอง หรือเลือกจ่ายเงินสมทบตามความเหมาะสมกับตนเองได้
โดยร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทนตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคล ซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ในการพัฒนาสิทธิประโยชน์ดังกล่าวเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคล ซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. 2561 ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน มีสาระสำคัญ ดังนี้
1) ปรับลดระยะเวลาการได้รับเงินทดแทน กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยของผู้ประกันตน ที่แพทย์มีความเห็นให้หยุดพัก เป็นตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป ทางเลือกที่ 1–3 พร้อมเพิ่มอัตราจ่ายกรณี ผู้ป่วยนอกเป็น 200 บาท (ทางเลือกที่ 1 – 2) และกำหนดอัตราใหม่ 200 บาท (ทางเลือกที่ 3)
2) กำหนดให้ผู้ประกันตนทางเลือกที่ 1 – 3 ที่เจ็บป่วยด้วยโรคติดต่ออันตราย รวมถึงโควิด-19 และแพทย์มีความเห็นให้หยุดพักตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป มีสิทธิได้รับเงินทดแทน 200 บาท/วัน โดยให้ใช้สิทธิย้อนหลัง กรณีผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 – 30 กันยายน 2565 มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ตามกฎหมายใหม่
3) แก้ไขหลักเกณฑ์การจ่ายเงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ สำหรับผู้ประกันตนทางเลือกที่ 1 – 2 เป็นเงินทดแทนรายเดือนตลอดชีวิต และเพิ่มอัตราจ่ายเป็น 1,000 – 2,000 บาท/เดือน และทางเลือกที่ 3 เป็น 1,500 – 3,000 บาท/เดือน ระยะเวลาความคุ้มครองตลอดชีวิตสำหรับทุกทางเลือก
4) แก้ไขระยะเวลาและอัตราเงินสงเคราะห์บุตรของผู้ประกันตนทางเลือกที่ 3 เป็น 300 บาท/เดือน ต่อบุตร 1 คน คราวละไม่เกิน 2 คน สำหรับบุตรอายุไม่เกิน 7 ปี บริบูรณ์
5) แก้ไขหลักเกณฑ์การจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพให้แก่ผู้ประกันตนทางเลือกที่ 2 – 3 กรณีถึงแก่ความตายก่อนอายุครบ 60 ปี หรือก่อนได้รับสิทธิกรณีชราภาพ โดยให้จ่ายเงินแก่บุคคลซึ่งผู้ประกันตนทำหนังสือระบุให้เป็นผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพนั้น แต่ถ้าผู้ประกันตนไม่ทำหนังสือระบุไว้ให้นำมาเฉลี่ยจ่ายให้แก่คู่สมรส บิดามารดา บุตรของผู้ประกันตนในจำนวนที่เท่ากัน
6) กำหนดบทเฉพาะกาล ผู้ประกันตนทางเลือก 1-3 ที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยก่อนพระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ จะมีสิทธิได้รับเงินทดแทนตามหลักเกณฑ์ใหม่ เป็นต้น
“ไทม์ไลน์หลังจากที่ ครม. ได้อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาฯ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 แล้ว และได้ผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างพระราชกฤษฎีกาฯ หากเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะส่งให้สำนักงานประกันสังคมยืนยันและส่งร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ไปที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำ
ทั้งนี้ การสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ และแรงงานนอกระบบ รวมถึงผู้พิการ (ยกเว้นผู้พิการทางสติปัญญาที่ไม่สามารถรับรู้สิทธิของตนเอง) ที่มีอายุ 15-65 ปี จะได้รับความคุ้มครองกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต สงเคราะห์บุตร และชราภาพ และมีสิทธิ์รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับทางเลือกการจ่ายเงินสมทบที่จ่าย โดยผู้สนใจสามารถสมัครด้วยตนเองได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา เคาน์เตอร์เซอร์วิสธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แอปพลิเคชั่นทางรัฐ แอปพลิเคชั่น SSO+ แอปพลิเคชั่น LINE (@ssothai) เว็บไซต์ประกันสังคม (www.sso.go.th) ระบบ e-Self Service เครือข่ายประกันสังคม สายด่วนประกันสังคม โทร.1506 และที่เว็บไซต์กระทรวงแรงงาน (www.mol.go.th)
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี