ชาวบ้านมึน‘MOU’  เปิดผลโพลส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ  แต่หนุนทำ‘ประชามติยกเลิก’

ชาวบ้านมึน‘MOU’ เปิดผลโพลส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ แต่หนุนทำ‘ประชามติยกเลิก’

วันจันทร์ ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

“นิด้าโพล” ชี้ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจ MOU43-44 แต่หนุนให้ทำประชามติยกเลิก ขณะที่ผลสำรวจดุสิตโพลชี้ชัดคนไทยคาดหวัง “เศรษฐกิจ-ปากท้อง”จากรัฐบาล“อนุทิน”ต้องพิสูจน์ผลงาน 4 เดือน

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2568 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น“นิด้าโพล” ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจเรื่อง “จะทำประชามติแล้ว..เข้าใจ MOU 43และMOU44หรือยัง” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 1-2 ตุลาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ18ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วย


ผลการสำรวจปรากฏว่า เมื่อถามความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับเรื่อง MOU 43 พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 44.12 ระบุว่า ไม่เข้าใจเลย รองลงมา ร้อยละ 24.96 ระบุว่า ไม่ค่อยเข้าใจ ร้อยละ 23.13 ระบุว่า ค่อนข้างเข้าใจ และร้อยละ 7.79 ระบุว่า เข้าใจมาก

ด้านความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับเรื่อง MOU 44 พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 45.73 ระบุว่า ไม่เข้าใจเลยรองลงมา ร้อยละ 24.96 ระบุว่า ไม่ค่อยเข้าใจ ร้อยละ 22.44 ระบุว่า ค่อนข้างเข้าใจ และร้อยละ 6.87 ระบุว่า เข้าใจมาก

สำหรับความต้องการของประชาชนในการทำความเข้าใจเรื่อง MOU 43 และ MOU 44 ให้ชัดเจนมากขึ้น พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 65.50 ระบุว่า ต้องการที่จะเข้าใจทั้ง MOU 43 และ MOU 44 รองลงมา ร้อยละ 34.04 ระบุว่า ไม่ต้องการที่จะเข้าใจเลยทั้ง MOU 43 และ MOU 44 และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ต้องการที่จะเข้าใจเฉพาะ MOU 43 และต้องการที่จะเข้าใจเฉพาะ MOU 44 ในสัดส่วนที่เท่ากัน

ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการทำประชามติเรื่องการยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 60.76 ระบุว่า เห็นด้วยที่จะมีการทำประชามติยกเลิกทั้ง MOU 43 และ MOU 44 รองลงมา ร้อยละ 20.92 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลยที่จะมีการทำประชามติยกเลิกทั้ง MOU 43 และ MOU 44 ร้อยละ 12.60 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ร้อยละ 4.96 ระบุว่า ไม่แน่ใจ ร้อยละ 0.46 ระบุว่า เห็นด้วยที่จะมีการทำประชามติยกเลิกเฉพาะ MOU 43 และร้อยละ 0.30 ระบุว่า เห็นด้วยที่จะมีการทำประชามติยกเลิกเฉพาะ MOU 44

ขณะเดียวกัน“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง“นโยบายเร่งด่วนรัฐบาลอนุทิน”กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,149 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 1-3 ตุลาคม 2568

พบว่า นโยบายด้านที่คาดหวังมากที่สุด คือ ด้านเศรษฐกิจ สร้างรายได้ ลดรายจ่าย ร้อยละ 59.36 รองลงมาคือด้านความมั่นคง ร้อยละ 20.45 โดยมองว่านโนบายรัฐบาลอนุทินแตกต่างจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาอยู่บ้าง ร้อยละ 57.96 หลังจากการแถลงนโยบาย ประชาชนรู้สึกไม่ค่อยเชื่อมั่นและค่อนข้างเชื่อมั่นใกล้เคียงกัน ร้อยละ 43.78 และร้อยละ 42.12 ตามลำดับ สิ่งที่อยากฝากบอกรัฐบาลอนุทิน คือ อยากเห็นผลงานการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ค่าครองชีพ ร้อยละ 31.33

ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่าหลังจากติดตามการแถลงนโยบายประชาชนเห็นว่าแตกต่างจากรัฐบาลก่อนอยู่บ้างโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ดูจะสร้างความตื่นเต้นในสังคมได้ ขณะที่ประเด็นเรื่องความโปร่งใสในการบริหารยังคงเป็นเงื่อนไขสำคัญ ทำให้ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลอนุทินอยู่ในภาวะก้ำกึ่ง ท้ายที่สุดคงมีเพียงการลงมือทำผลงานจริงเท่านั้นในระยะเวลา 4 เดือนหลังจากนี้ว่าจะเปลี่ยนความก้ำกึ่งให้กลายเป็นความเชื่อมั่นได้หรือไม่

ส่วนดร.มุทิตา มากวิจิตร์ อาจารย์ประจำหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชากฎหมายปกครองและการบริหารงานภาครัฐ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิเคราะห์ว่าจากผลการสำรวจสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของประชาชนที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเป็นสำคัญโดยเฉพาะการสร้างรายได้และลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันซึ่งถือเป็นโจทย์พื้นฐานที่กำหนดคุณภาพชีวิตและความมั่นคงในครัวเรือน

ขณะเดียวกัน ประเด็นด้านความมั่นคงยังคงเป็นสิ่งที่สังคมคาดหวัง เนื่องจากเสถียรภาพทางการเมืองและความสงบเรียบร้อยเป็นเงื่อนไขสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศทุกมิติทั้งในด้านการลงทุน การค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินซึ่งจะส่งผลต่อการกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมด้วย

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังสะท้อนว่า ประชาชนยังมิได้มีความเชื่อมั่นในรัฐบาลนี้มากอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องท้าทายที่รัฐบาลจะต้องพิสูจน์ศักยภาพในการบริหารจัดการ ผลักดันประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นวาระเร่งด่วน คือ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งหากรัฐบาลสามารถดำเนินการได้อย่างเป็นระบบ รวดเร็ว และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนก็จะทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นและสามารถสร้างฐานคะแนนเสียงใหม่ได้ในอนาคต

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top