คุก4ปี4เดือนไม่รอลงอาญา  5แกนนำนปช.  คดีขับไล่‘รบ.อภิสิทธิ์’ปี’52

คุก4ปี4เดือนไม่รอลงอาญา 5แกนนำนปช. คดีขับไล่‘รบ.อภิสิทธิ์’ปี’52

วันพุธ ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

คุก4ปี4เดือนไม่รอลงอาญา

5แกนนำนปช.

คดีขับไล่‘รบ.อภิสิทธิ์’ปี’52

‘วีระ-หมอเหวง-ณัฐวุฒิ-อดิศร’

‘ตู่’โดนด้วย/ศาลให้ประกันทุกคน

ศาลอาญา สั่งจำคุก“วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ-หมอเหวง-อดิศร”5 แกนนำนปช. คดีชุมนุมขับไล่“รัฐบาลอภิสิทธิ์” ปี’52 คนละ 4 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา ศาลปรานีให้ปล่อยตัวชั่วคราว วงเงินประกัน 2 แสนบาท ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ส่วนจำเลยรายอื่นๆ ถูกสั่งจำคุกคนละ 4 เดือนฐานฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตีราคาประกันคนละ 5 หมื่นบาท และสั่งยกฟ้อง 2คน

เมื่อเวลา 9.45 น.วันที่ 7 ตุลาคม 2568ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาครั้งที่2 คดี หมายเลขดำอ.968/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (ปธ.นปช.) พร้อมแกนนำ นปช. และแนวร่วมอื่นๆ เป็นจำเลย 1-13 ในความผิด ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่10 คนขึ้นไป สร้างความกระด้างกระเดื่องก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง,ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548


กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 31 มกราคม - 13 เมษายน2552 พวกจำเลย ได้ร่วมกันชุมนุมขับไล่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยปิดทางเข้า-ออกทำเนียบรัฐบาล เพื่อขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี รวมถึงมีผู้ชุมนุมบางส่วนบุกไปยังบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี (ขณะนั้น) เพื่อกดดันให้ พล.อ.เปรม พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี รวมทั้งการปิดล้อมสถานที่ราชการสำคัญ ๆ หลายแห่งใน กทม.

จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว

สำหรับคดีนี้เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาครั้งแรก แต่เนื่องจากนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย จำเลยที่ 11 อยู่ระหว่างสมัยประชุมสภา ส่วนนายพงศ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง จำเลยที่10 มีพฤติการณ์ หลบหนี ศาลสั่งออกหมายจับ ปรับนายประกัน

สำหรับจำเลยทั้ง 13 คนประกอบด้วย1.นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ 2.นายจตุพร พรหมพันธุ์ 3.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ4.นพ.เหวง โตจิราการ 5.นายสิระ หรือสรวิชญ์ พิมพ์กลาง แกนนำคนเสื้อแดง จ.สกลนคร 6.นายนายณรงศักดิ์ มณี7.นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท 8.นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ 9.นายพายัพ ปั้นเกตุ10.นายพงศ์พิเชษฐ์ หรือพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง 11.นายอดิศร เพียงเกตุ 12.นายพีระ พริ้งกลาง (เสียชีวิต)และ13.นายเมธี อมรวุฒิกุล อดีตนักแสดงชื่อดัง

พวกจำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่าย ที่นำสืบหักล้าง แล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น. ในฐานะผู้บัญชาการสถานการณ์ และหัวหน้าผู้เจรจา และเจ้าพนักงานตำรวจ ที่ร่วมสืบสวนสอบสวนคดี เบิกความสอดคล้องทำนองเดียวกัน รวมทั้งหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์ต่างฯ ให้เห็นพฤติการณ์ของพวกจำเลย ซึ่งแม้จะเป็นการชุมนุมโดยสันติ ปราศจากอาวุธตามสิทธิ โดยมีจำเลยที่ 1,2,3,4 และ11เป็นแกนนำ และเป็นผู้สั่งการแต่การชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่สร้างความเดือดร้อน และละเมิดสิทธิแก่ประชาชนทั่วไป

โดยพวกจำเลยจัดชุมนุมปราศรัยชักชวยให้ประชาชนมาร่วมชุมนุม ปราศรัยทั่วกรุงเทพฯ ยึดและเผารถโดยสารประจำทาง นับสิบคัน สร้างความเสียหายธนาคารพาณิชย์ หลายแห่ง และร้านสะดวกซื้อ ปิดทางเข้าสถานที่ราชการหลายแห่ง ซึ่งพยานโจทก์ ล้วนเบิกความไปตามจริง ปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่รู้จักพวกจำเลยเป็นการส่วนตัว จึงไม่มีเหตุที่จะเบิกความใส่ร้ายปรักปรำจำเลยให้ต้องรับโทษ พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ส่วนพยานหลักฐานจำเลย ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้

การกระทำของพวกจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม ต่างกัน ให้ลงโทษฐานมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดการวุ่นวายในบ้านเมือง โดยผู้กระทำผิดเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการมั่วสุมดังกล่าวแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา215 วรรคสาม อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90

พิพากษาจำคุก นายวีระกานต์ จำเลยที่ 1 นายจตุพร จำเลยที่ 2 นายณัฐวุฒิ จำเลย ที่ 3 นพ.เหวง จำเลยที่ 4 และนายอดิศร จำเลยที่ 11 คนละ 6 ปี และฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จำคุกคนละ 6 เดือน คำเบิกความของจำเลยทั้งห้า เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้าง ลดโทษให้คนละ 1ใน3 คงจำคุกจำเลยที่ 1,2,3,4 และที่ 11 คนละ 4 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่ 5,7,8,9 และที่13มีความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ จำคุกคนละ6 เดือน ลดโทษให้1ใน3คงจำคุก จำเลย5,7,8,9 และที่13คนละ4 เดือน ไม่รอลงอาญา และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 6และที่ 10

ต่อมาทนายความของ 5 แกนนำนปช.ทั้ง 5 คน ที่ศาลพิพากษาจำคุก คนละ 4 ปี 4 เดือน ได้ยื่นคำร้องและหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ 5 แกนนำนปช.ปล่อยชั่วคราวไประหว่างอุทธรณ์คดีโดยตีราคาประกันคนละ 2 แสนบาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ส่วนจำเลยคนอื่นที่ศาลพิพากษาจำคุกคนละ4เดือนฐานฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉินฯได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์เช่นกันโดยศาลตีราคาประกันคนละ5หมื่นบาท

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top