แนวหน้าวิเคราะห์ : ‘เพื่อไทย’โหมโรง ยกเครื่องสกัดเลือดไหล ‘อิ๊งค์’ปลุกสู้ศึกเลือกตั้ง ฝันกลับมายิ่งใหญ่

แนวหน้าวิเคราะห์ : ‘เพื่อไทย’โหมโรง ยกเครื่องสกัดเลือดไหล ‘อิ๊งค์’ปลุกสู้ศึกเลือกตั้ง ฝันกลับมายิ่งใหญ่

วันพุธ ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 07.00 น.

พรรคเพื่อไทย โหมโรง ในการจัดกิจกรรมใหญ่"ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย" ในวันอังคารที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาเพื่อแสดงความพร้อมและจัดทัพสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยเฉพาะวัตถุประสงค์หลัก คือการตรวจสอบรายชื่อ สส.ที่ยังอยู่กับพรรค เพื่อป้องกัน เลือดไหลออก ย้ายพรรค ในช่วงใกล้เลือกตั้งใหญ่

เพราะฉะนั้น การที่ อดีตนายกฯแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โหมโรงโชว์ผลงานและได้โชว์วิสัยทัศน์ รวมถึงการเปิดตัวโชว์ว่าที่ผู้สมัคร สส. กันตั้งแต่เนิ่นๆนั้น พรรคเพื่อไทย มุ่งหวังเป้าใหญ่ เพื่อไทยจะกลับมา”ยิ่งใหญ่อีกครั้ง พร้อมด้วยการยกเครื่องเพื่อไทย”รีแบรนด์ จำเป็นต้องจัดอีเวนต์สำคัญคนหัวใจสีแดง” หัวใจเพื่อไทยคือประชาชน เป็นครั้งแรก โชว์ศักยภาพ โชว์พลัง หลังสูญเสียอำนาจรัฐให้พรรคภูมิใจไทย“ค่ายสีน้ำเงิน”มาแรมเดือน แถมยังเสียเก้าอี้ ส.ส.ไปจากสนามเลือกตั้งซ่อม เขต5 ศรีสะเกษ และต้องจับตา เลือกตั้งซ่อมสส.กาญจนบุรีวันอาทิตย์ที่ 19 ต.ค.นี้ พรรคภูมิใจไทยก็น่าจะรักษาเก้าอี้ได้หรือไม่


ต้องยอมรับว่า ช่วงที่ผ่านมา ทั้งตระกูลชินวัตร-บิ๊กแกนนำเพื่อไทยยังพลิกตำรา แก้เกม ตั้งรับไม่ทันการ ส่งผลให้หัวใจ“สส.เพื่อไทย”ออกอาการหวั่นไหว หวาดผวา ที่ถูกทั้ง“พรรคภูมิใจไทย–พรรคกล้าธรรมทาบทามให้ย้ายพรรค-ย้ายสังกัด ย้ายขั้วจนกระทั่ง“สส.”บางคนกระโดดไปทั้งตัว ไปทั้งใจ บางคนตัวยังอยู่ แต่ใจโหยหารู้ถึงกระแสในพื้นที่ว่า ศึกเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นหากอยู่พรรคเดิมเจองานหนัก หากไม่มีกระแสพรรคช่วย

เมื่อ“ตระกูลชินวัตรส่งสัญญาณชัดๆและประกาศจะเดินหน้างานการเมืองต่อ สัญญาณชัดๆมาจาก โดยเฉพาะการปรากฏตัวของ หญิงอ้อคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยานายใหญ่ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางเข้า ที่ทำการพรรคเพื่อไทยก่อนพบปะบรรดา สส.พร้อมปลุกขวัญสส.เพื่อไทยว่าสู้ๆ นะคะ

สิ้นเสียง“นายหญิง”ทำเอาบรรดา สส.เพื่อไทย เหมือนได้ น้ำทิพย์ชโลมใจ ปลุกพลังพร้อมใจตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “พร้อมสู้ไปกับพรรคเพื่อไทยแม้จะมี สส. และอดีตผู้สมัคร สส.บางส่วน แอบปันใจให้ คู่แข่ง - คู่แค้น ไปแล้วก็ตาม จะต้องรีบหยุดเลือดไหลในพรรคให้ได้

สิ่งสำคัญ งานวันที่ 7 ตุลาคมยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทยเพื่อแสดงความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งสนามใหญ่ทั่วประเทศ ที่จะเกิดขึ้น ตามกรอบเวลาที่นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล’ประกาศไว้ว่าจะมีการยุบสภาอย่างช้าวันที่ 31 มกราคม 2569

โดยพรรคเพื่อไทยชิงเปิดตัวว่า ที่ผู้เสนอตัวลงสมัคร สส. ในลอตแรก 185 คน พร้อมจัดทัพจัดทีมยุทธศาสตร์เพื่อคัดเลือกผู้เสนอตัวในแต่ละโซนเพื่อคัดคนที่มีประสิทธิภาพ คุณภาพและมาจากการมีส่วนร่วมของประชาชนในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ

ในงานนี้“แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ช่วงหนึ่งว่า หลายคนประเมินว่าพรรคเพื่อไทยมาถึงทางตันแล้ว เลือดกำลังไหลจนหมดสิ้น แต่ขอยืนยันว่า ไม่มีทางเป็นแบบนั้น เลือดเพื่อไทย จะไม่มีวันเหือดแห้ง พรรคเพื่อไทยสูญพันธุ์แน่นอน ดิฉันไม่คิดอย่างนั้นเลย เพราะถ้าพรรคเพื่อไทยสูญพันธุ์ พรรคเพื่อไทยสูญพันธุ์ไปนานแล้ว เราเป็นพรรคการเมืองที่มีผลงานมากที่สุด

เราทุกคนอยู่ที่นี่ไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ แต่เพราะเราเชื่อเหมือนกัน เราคือพรรคเพื่อไทย เราเป็นพรรคการเมืองที่มีผลงานมากที่สุด และพรรคนี้โดนรัฐประหารไปแล้ว 2 ครั้ง ถูกยุบพรรคไปแล้ว 2 ครั้ง ปลดนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง 6 คน โดยที่ผู้ก่อรัฐประหาร ไม่ต้องคดี แต่ผู้ก่อตั้งพรรคถูกจองจำ

“จิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย คือนโยบายที่ทำได้จริง การเอานโยบายดีๆถึงมือประชาชน เราชื่อว่าการผลักดันนโยบายเป็นสิ่งสำคัญ เราเชื่อว่าทุกคนต้องร่วมมือกัน ดิฉันพร้อมสู้และพรรคเพื่อไทยก็พร้อมสู้ ประเทศไทยยังคงต้องการการเมืองที่สร้างสรรค์ ต้องการการเมืองที่เป็นความหวังของประชาชน”

ขณะเดียวกัน แพทองธารยังเผยว่า พรรคพร้อมเปิดชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครบทั้งสามราย และจะเปิดตัวพร้อมกันในเวลาที่เหมาะสม มั่นใจว่าจะถูกใจพี่น้องประชาชนทุกระดับ

ขอบคุณทุกคนที่อยู่กับเรา ที่นี่เป็นมากกว่าบ้าน ที่นี่จะไม่มีวันทิ้งไปไหน ในฐานะหัวหน้าพรรค ดิฉันมั่นใจว่าถ้าทุกท่านทุ่มเทแรงกายแรงใจ ชัยชนะจะเป็นของเราและได้จะโอกาสเข้าไปทำเพื่อประชาชน”

ในช่วงท้ายของการปราศรัย แพทองธารได้ประกาศแต่งตั้ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรค และยืนยันความพร้อมเต็มที่ สำหรับศึกเลือกตั้งที่จะมาถึงในอีกไม่กี่เดือน พร้อมประกาศว่า"ไม่ว่าจะอีก 2 เดือน หรือ 4 เดือน พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้ว"

ประกาศปลุกขวัญทิ้งท้ายว่า“การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง จะเป็นบทพิสูจน์ว่าพรรคเพื่อไทยยังคงเป็นความหวังของประชาชนได้หรือไม่ ดิฉันสัญญาว่าจะทุ่มเทอย่างถึงที่สุด เพื่อให้พรรคของเรากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”

จากนั้น ทางพรรคเพื่อไทย ได้ประกาศเปิดผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัครสส.จากทั่วประเทศล็อตแรกจำนวน185 คนบนเวทีในงานครั้งนี้ด้วย

เป้าใหญ่ของงานคือการโชว์ตัว สส.ที่ยังอยู่กับตระกูชินวัตร - เพื่อไทยหากใครยังหัวใจสีแดงเดียวกัน ต้องการลงชิงเก้าอี้สส.สมัยหน้า ในนาม“พรรคเพื่อไทยจะต้องมาแสดงตัว  ไม่เช่นนั้นถูกตัดชื่อทิ้งไป

เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้มีระยะเวลาให้เตรียมตัวเพียง 4 เดือนเท่านั้น หากสส.คนใด ยังไม่มีความชัดเจน แล้วมาลาออก ในช่วงโค้งสุดท้ายอาจทำให้“เพื่อไทย”หาตัวผู้สมัครลงชิงเก้าอี้ สส.ไม่ทัน

ในอดีต สส.ในหลายพื้นที่มักจะใช้เทคนิคดังกล่าว ย้ายค่าย- ย้ายพรรค-ย้ายขั้ว ช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อไม่ให้คู่แข่ง มีโอกาสตั้งตัวได้ เพราะเวลาจำกัดในการลงพื้นที่ทำคะแนนตุนไว้ ปกติแล้ว สส.ที่ย้ายพรรคมักจะมีฐานเสียงที่ค่อนข้างเข้มแข็งอยู่แล้ว จึงย่อมมีความได้เปรียบผู้สมัครหน้าใหม่ เพราะฉะนั้นแกนนำบิ๊กเพื่อไทยต้องวางเกมหวังเช็คชื่อในเบื้องต้น ใครไม่มา ใครปันใจ อาจจะต้องคัดชื่อออก ส่วนใครที่ยังอยู่อาจจะต้องเติมเต็มทรัพยากร เพื่อให้ขับเคลื่อนงานพื้นที่อย่างเร่งด่วนรับศึกเลือกตั้งใหญ่

ขณะที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยประเมินด้วยว่าจากที่กระแสพรรคประชาชนตกลง เราก็จะได้สส.เพิ่มเติมขึ้น ตนเชื่อมั่นในเรื่องนี้และตั้งเป้าสส.พรรคเพื่อไทย จะได้ไม่น้อยกว่า200 คน บวกลบ10% แล้วคอยพิสูจน์กันตอนเลือกตั้ง ขอความเชื่อมั่นรอดูพิสูจน์คำพูดของตนว่าจะจริงหรือไม่จริง อย่างไรคาดการณ์ว่ากระแสของพรรคประชาชนที่ตกลงไป ประเมินว่าจะได้ สส.ไม่เกิน 100 ที่นั่ง ส่วนพรรคภูมิใจไทยที่มี สส.เดิม 70 ที่นั่ง เมื่อรวมกับ สส.ที่ดึงมาจากพรรคอื่น น่าจะมี สส. ประมาณ 120 ที่นั่ง

นับจากนี้ คนไทยจะต้องเกาะติดการทำงานของพรรคเพื่อไทยที่จะสามารถพลิกบทบาทการทำหน้าที่พรรคฝ่ายค้านเต็มตัวแล้วเข้าตาแค่ไหนกับพรรคประชาชน และน่าจะเหลือเวทีให้โชว์ฟอร์มการเมืองอีก 1 นัดสำคัญ ก็คือการยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ‘รัฐบาลพรรคภูมิใจไทย’ ถ้าไม่ยื่นญัตติภายในสิ้นเดือน ต.ค.ที่จะปิดสมัยประชุมนี้ แต่ก็ยังมีโอกาสยื่นซักฟอกส่งท้ายได้ภายในเดือนธันวาคม แต่นั่นจะต้องไม่ไปขวางทางการประกาศยุบสภาของรัฐบาลในสิ้นเดือนมกราคม 2569

และต้องจับตาความเคลื่อนไหวของ“ตระกูลชินวัตร-เพื่อไทยจะวางเกมในการสู้ศึกเลือกตั้ง2569 เอาไว้อย่างไร เพราะเป็นการเดิมพันใหญ่ครั้งสุดท้ายว่า พรรคเพื่อไทยจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งได้หรือไม่ หากชนะมีโอกาสควบคุมเกม แต่หากพ่ายแพ้หมดรูป อาจจะโดนไล่ต้อนจนกระดานอย่างแน่นอน แต่เรื่องการเมืองไม่มีอะไรแน่นอนจนกว่าถึงในวันกาบัตรเลือกตั้ง อำนาจอยู่ที่ประชาชนผู้มีสิทธิ์จะเป็นผู้ชี้ขาดใครจะได้เป็นผู้ชนะ

- ทีมข่าวแนวหน้า

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top