นายกฯเปิดมหกรรมไหลเรือไฟโลกนครพนม ขอความขมขื่นคนไทยไหลทิ้งแม่น้ำโขง ความสุขสามัคคีจงบังเกิดกับราชอาณาจักรไทย

เมื่อเวลา 19.05 น.วันที่ 7 ตุลาคม 2568 ที่บริเวณหน้าวัดโพธิ์ศรี ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมไหลเรือไฟโลก จ.นครพนม ประจำปี 2568 และงานยกระดับเทศกาลเรือไฟไทยสู่เรือไฟโลก

นายกฯ กล่าวเปิดงานว่า ตนมีความยินดี และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาอยู่ที่นี่ร่วมกับทุกท่านอีกครั้ง ในพิธีเปิดมหกรรมไหลเรือไฟโลก จ.นครพนม ตนได้มาร่วมงานเช่นนี้หลายปีแล้ว และมีความสุขทุกครั้งที่ได้มาในมหกรรมไหลเรือไฟ ที่ จ.นครพนม แห่งนี้ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นห้วงเวลาแห่งความสุขของพี่น้องประชาชนชาวไทย ในช่วงที่เรากำลังจะเข้าสู่เทศกาลสิ้นปี

นายกฯ กล่าวว่า ประเพณีไหลเรือไฟ จ.นครพนม ถือเป็นประเพณีเก่าแก่ที่สำคัญ และถือปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนาน เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอย่างแพร่หลาย ตนขอชื่นชมคณะกรรมการจัดงาน ศิลปินเรือไฟ พี่น้องชาว จ.นครพนม และพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมแรงร่วมใจกันอนุรักษ์สืบสานประเพณีนี้ให้ดำรงอยู่ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความคิดอันสร้างสรรค์ความศรัทธาความสามัคคี และธำรงค์ไว้ซึ่งประเพณี และวัฒนธรรมอันดีของชาวนครพนม และของประเทศไทย

นายกฯ กล่าวว่า การที่ตนได้มาร่วมงานในวันนี้ สังเกตได้ชัดว่าประเพณีนี้มีพัฒนาการของการจัดงานมาโดยตลอด ทำให้เห็นศักยภาพของคนไทยในการใช้วัฒนธรรมขับเคลื่อนประเทศ ส่งเสริมให้เกิดการฟื้นฟู และกระตุ้นเศรษฐกิจของ จ.นครพนม ขอให้ทุกคนเอาความขมขื่นทิ้งลงแม่โขงให้มันไหลลงๆ ให้เหลือแต่ความสุขสวัสดีของทุกๆ ท่าน ณ ที่นี้ ตลอดจนครอบครัวอันเป็นที่รัก และขอความสงบสุขความสามัคคีจงเกิดขึ้นแก่ราชอาณาจักรไทย อันสูงยิ่งของพวกเราทุกคน

จากนั้น นายกฯ เปิดงานอย่างเป็นทางการ ก่อนรับชมการแสดงภายในงาน และเดินมายังลานพญานาค โดยระหว่างเดินได้มีประชาชนเข้ามาทักทาย ขอสวมกอด และขอถ่ายภาพด้วย

ต่อมาเวลา 19.50 น.นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงงานมหกรรมไหลเรือไฟ ว่า เป็นสัญลักษณ์ของ จ.นครพนม และภาคอีสาน การเปิดมหกรรมนี้เปรียบเสมือนการเริ่มต้นของเทศกาลสิ้นปี อากาศก็เย็นสบาย อยากจะเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนมาเที่ยวที่ จ.นครพนม หรือจังหวัดใกล้เคียงด้วย เมื่อถามถึงการผลักดันไหลเรือไฟเป็นซอฟต์พาวเวอร์ นายกฯ กล่าวว่า เป็นประเพณีที่จัดขึ้นทุกปีอยู่แล้ว ที่ จ.หนองคาย ก็มีจัด และจะมีงานลอยกระทงบุญบั้งไฟพญานาค ซึ่งมีงานประเพณี ถือเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวที่มีผู้คนออกมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เกิดการสะพัดของระบบเศรษฐกิจ

- 006