นายกฯแถลงจับ
ยานรกบิ๊กลอต
จี้เดินหน้าปราบ
แก้ก.ม.เพิ่มโทษ

นายกฯ แถลงผลปฏิบัติตามยุทธการล้างบางเครือข่าย ยาเสพติด กวาดล้างครั้งใหญ่ยึดยาบ้า 15.78 ล้านเม็ด ไอซ์ 235 กิโลกรัม ลั่นเดินหน้าปราบยาเสพติดต่อเนื่อง เป็นศัตรูกับ ผู้ค้าทุกรูปแบบ-เร่งแก้ไข กม.

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานแถลงผลปฏิบัติ “ยุทธการล้างบางเครือข่ายยาเสพติดข้ามภาค” โดยมี พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.พร้อมด้วย ผบช.ปส.และคณะ ร่วมแถลงฯ ทั้งนี้ ในห้วงวันที่ 4-6 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ปฏิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่ จนสามารถทลายเครือข่ายยาเสพติดสำคัญได้ถึง 4 คดี ผู้ต้องหา 10 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 15.78 ล้านเม็ด ไอซ์ 235 กิโลกรัม และอายัดทรัพย์สินจากขบวนการค้ายาเสพติดได้หลายรายการซึ่งอยู่ระหว่างขยายผล

นายกฯ กล่าวว่า การปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกรัฐบาลให้ความสำคัญ ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และฝ่ายปกครอง เป็นหลัก รวมทั้งบูรณาการกับหน่วยงานอื่นๆ ขอยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างจริงจังและเป็นศัตรูกับทั้งผู้ค้า ผู้ครอบครอง และผู้ขนส่ง ในทุกรูปแบบ

นายกฯ กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินการจะครอบคลุมทั้งการปราบปราม การป้องกัน และการยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด นอกจากนี้จะแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อปรับหลักเกณฑ์การครอบครองจาก 5 เม็ด ให้เป็น 1 เม็ด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปรามให้มากที่สุด อีกทั้งรัฐบาลได้มอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบ ติดตามการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด และมีการตรวจสอบสม่ำเสมอ หากมีผู้ให้ความช่วยเหลือ หรือเอื้อประโยชน์แก่ผู้ค้ายาเสพติด จะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในการพิจารณาพฤติกรรมและหลักฐานแยกแยะระหว่างผู้ค้าและผู้เสพ หากพบการครอบครองหรือมีพฤติกรรมการขายซ้ำๆ จะถือว่าเป็นผู้ค้าต้องถูกดำเนินคดีแม้ปริมาณในแต่ละครั้งอาจดูน้อย แต่เมื่อนับรวมกันแล้วเข้าข่ายการค้า ก็จะถูกดำเนินการในฐานะผู้กระทำผิดเช่นเดียวกัน

นายกฯ กล่าวอีกว่า การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยให้ความรู้และสร้างการมีส่วนร่วมแก่ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนฝ่ายปกครองและตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้ชุมชนสามารถตรวจสอบและเฝ้าระวังตนเองอย่างเป็นระบบ หากหมู่บ้าน หรือชุมชนใด ปล่อยปละละเลยจนกลายเป็นแหล่งค้า แหล่งพักยา จะมีมาตรการทางกฎหมายเพิ่มบทลงโทษทวีคูณ

“รัฐบาลยังคงเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่องและไม่ผ่อนปรน เพื่อรักษาความปลอดภัยของชุมชนและความสงบเรียบร้อยของประเทศ” นายกฯ กล่าว