‘คปท.’บุกปปช.  จี้เร่งรัดคดีอุ้ม‘แม้ว’ชั้น14  ‘เอม’รุดเยี่ยมพ่อบ่นนิ้วชา

‘คปท.’บุกปปช. จี้เร่งรัดคดีอุ้ม‘แม้ว’ชั้น14 ‘เอม’รุดเยี่ยมพ่อบ่นนิ้วชา

วันศุกร์ ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

คปท.บุกป.ป.ช.เร่งรัดคดี“ทักษิณ”พักชั้น 14 เอาผิดคนเอี่ยว ระบุหากชี้มูลผิด ม.157 เทวดาอาจมีลุ้นฐานสนับสนุนข้าราชการทำผิด เผยทักษิณนอนคุกครบ 1 เดือน“เอม-สามี-สามีอิ๊งค์” รุดเยี่ยมพ่อบ่นนิ้วชา แต่กำลังใจยังดี

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2568 ที่บริเวณสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เครือข่ายนักศึก ษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. และกลุ่มกองทัพธรรม นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มคปท.เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการยื่นเรื่องร้องเรียนให้ป.ป.ช.ดำเนินการเอาผิดกับบุคคล ให้การช่วยเหลือเอื้อประโยชน์นายทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องรับโทษและเข้าพักรักษาตัว ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 หลังจากที่ให้กำหนด 1 เดือนในการดำเนินการ โดยนายพิชิต ได้เดินทางเข้าพบผู้ช่วยเลขาธิการป.ป.ช..ซึ่งเป็นผู้ดูแลสำนวนคดีชั้น 14 โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 30 นาที หลังจากนั้น นายพิชิต ได้ออกมาระบุว่า จากการพูดคุยกับเจ้าของสำนวนคดี สำนักงานป.ป.ช. ได้ชี้แจงความคืบหน้าขั้นตอนการดำเนินการ ซึ่งขณะนี้ ได้คัดสำเนาคำพิพากษาศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และได้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 10 ปาก จาก 30 ปาก เหลือ 20 กว่าปาก คาดจะได้รับความชัดเจน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับคดีอื่นด้วยที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ รวมทั้งได้สั่งสอบนักการเมืองเพิ่มอีก 2 ปาก ซึ่งเกี่ยวข้องกับ กระบวนการช่วยเหลือให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ เกิน 120 วัน แต่ไม่เกิน 180 วัน และการให้การช่วยเหลือนายทักษิณได้รับการพักโทษ แต่เนื้อหารายละเอียดไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้เนื่องจากเป็นการสืบสวนในทางลับ เกรงจะกระทบต่อการพิจารณาคดี


“เหลือเวลาอีกไม่นานก็จะได้รับความชัดเจน เพราะมันมีความเกี่ยวข้องกับคดีอื่นด้วย ไม่ว่าจะคดีของนายทักษิณ. อาจจะชี้มูลความผิด มาตรา 157 นายทักษิณเพิ่มหรือไม่ หากชี้มูลเพิ่มก็จะไม่ใช่ติดคุกแค่ 1 ปี ก็จะเพิ่มโทษเข้าไป โดยมีกรอบระยะเวลาในการดำเนินการจะออกมาลอกท่ออย่างที่เขาตั้งใจไม่ได้ ถ้า ป.ป.ช.ชี้มูลเพิ่ม ว่าทักษิณต้องรับโทษเพิ่มฐานสนับ สนุนให้มีการกระทำผิดตาม มาตรา 157 สนับสนุนให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่มิชอบคุณทักษิณก็ต้องเพิ่มโทษ เมื่อเพิ่มโทษก็จะทำให่ไม่ใช่เป็นนักโทษชั้นดี ไม่ใช่นักโทษชั้นกลางเพราะกระทำความผิดซ้ำ จะขออนุญาตออกมาลอกท่อไม่ได้เพราะคุณสมบัติไม่เข้าเงื่อนไข เผลอๆต้องมีการปรับลดชั้นนักโทษลง เป็นการกระทำความผิดซ้ำในฐานความผิดเดิม ตนฝากความห่วงใยไปยัง ป.ป.ช.ว่าหากท่านล่าช้า กระบวนการที่ต้องเพิ่มโทษจะกระทบต่อกระบวนการบังคับโทษอยู่ในเรือนจำ จะทำให้นักโทษอ้างสิทธิ ถึงเวลา 6 เดือน คุณทักษิณบอกว่าพ้นผิดแล้ว เพราะอยู่ในเรือนจำ 6 เดือน ก็สามารถดำเนินการอย่างอื่นได้ แต่หากเพิ่มโทษไปก็จะไม่ใช่แค่ 6 เดือน “ นายพิชิต กล่าว

นายพิชิต เชื่อว่าขั้นตอนหลังจากนี้ ป.ป.ช.จะดำเนินการโดยความด้วยความรวดเร็ว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ซึ่งพยานบุคคลในคดีนี้ ก็เป็นในคดีที่ศาลได้มีคำพิพากษา ดังนั้นจึงขอให้ป.ป.ช. เร่งรัดในการทำหน้าที่ เมื่อปปช.ดำเนินการแล้วเสร็จ ก็จะต้องส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดให้พิจารณาสั่งฟ้องซึ่งในขั้นตอนนี้ ตามกรอบที่กำหนดอัยการสูงสุดจะมีระยะเวลาดำเนินการไม่เกิน 180วัน ตนมีความเป็นห่วงว่าขั้นตอนจะมีความล่าช้าเพราะจะต้องใช้เวลาอีก 6เดือนต่อจากนี้

ทั้งนี้ ในวันที่ 20 ตุลาคม ทางกลุ่มคปท.และคณะรวมพลังแผ่นดินก็จะเดินทางมาติดตามความคืบหน้าเรื่องร้องเรียนกับปปชทั้งเรื่องชั้น 14 กรณีการกระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 การโยกงบประมาณ และเรื่องร้องเรียนจริยธรรม นางสาวแพรองธาร ชินวัตร จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับฮุนเซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเห็นว่าเรื่องนี้จะต้องส่งศาลฎีกาให้ดำเนินการตัดสิทธิทางการเมืองต่อไป ไม่ใช่เพียงแค่การพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น

วันเดียวกัน เวลา 09.00 น. ที่เรือนจำกลางคลองเปรม น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม บุตรสาวคนกลางของนายทักษิณ ชินวัตร นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีของ น.ส.พินทองทา และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีของ น.ส.แพทองธาเดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณ โอกาสติดคุกครบ1เดือน

เมื่อมาถึงได้ เดินยกมือไหว้เข้าหากลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงและเพื่อนร่วมรุ่นของนายทักษิณ ซึ่งเป็น เพื่อนร่วมรุ่นสมัยโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ รหัส MC 08 ที่มารอต้อนรับ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ ก่อนเดินเข้าด้านในเรือนจำฯ ซึ่ง น.ส.พินทองทา ยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด สำหรับเพื่อนร่วมรุ่นของนายทักษิณที่จบการศึกษาจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ รหัส 2508 ต่างสวมเสื้อสีแดงพร้อมกางเกงยีนส์ทะมัดทะแมง รวมตัวกันเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณ บริเวณด้านหน้าเรือนจำฯ และกล่าวพร้อมกันว่า “เรารักทักษิณ”

นายธีรวัฒน์ ชัยวงค์ ดำรงค์กิจเกษตร ตัวแทนเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ รหัส MC 08 กล่าวว่า ขอให้นายทักษิณได้ออกมาไว ๆ ซึ่งในสมัยเรียนนายทักษิณเป็นคนเรียนเก่งและเป็นคนมีเงิน คอยให้ความช่วยเหลือเพื่อนในการเรียนเสมอ เพราะพวกเราเป็นเพื่อนสนิทกัน

ต่อมา นส.พินทองทา กล่าวว่า จากการเข้าเยี่ยม คุณพ่อสุขภาพจิตดี ยังเข้มแข็งอยู่ ตอนนี้ก็น่าจะครบเดือนแล้ว นอกจากนี้ คุณพ่อมีบ่นนิ้วชาบ้าง

นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า คุณพ่อสุขภาพจิตแข็งแรง และยังคงกำลังใจดีอยู่ แต่มีบ่นเรื่องนิ้วชาบ้างอะไรบ้าง ส่วนกรณีที่มีเพื่อนร่วมรุ่นจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ เดินทางมาให้กำลังใจ ตนได้แจ้งคุณพ่อให้ทราบแล้ว และคุณพ่อก็ฝากคำขอบคุณมาด้วย ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อสักครู่ชาวบ้านแซวเป็นนายกรัฐมนตรีคนถัดไป ยังสนใจอย่างไรหรือไม่ ปรากฏว่าทาง น.ส.พินทองทา และนายณัฐพงศ์ ต่างยิ้มเขิน แต่ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว

ขณะที่ มวลชนคนเสื้อแดง กล่าวให้กำลังใจ ว่า เราเป็นกำลังใจให้ เรามาจากจังหวัดศรีสะเกษ เราจะต่อสู้เลือกตั้งรอนาย ขอให้นายมีกำลังใจสู้นะคะท่านนายกฯ พร้อมส่งยิ้ม และมองไปที่ใบหน้าของนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์) ซึ่งทั้ง น.ส.พินทองทา และนายณัฐพงศ์ ต่างยกมือไหว้ขอบคุณ และร่วมบันทึกภาพกับทุกคน โดยเฉพาะนายปิฎก ที่กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของคนเสื้อแดง ต่างร่วมบันทึกภาพด้วยบรรยากาศชื่นมื่น นอกจากนี้ ตัวแทนคนเสื้อแดงได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันอาทิตย์ที่ 19 ต.ค.นี้ บริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม จะมีการรวมตัวกันของคนเสื้อแดงจาก 50 เขต (พื้นที่ กทม.) เพื่อร่วมทำกิจกรรมให้กำลังใจนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกคุมขังครบ 1 เดือน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top