เตรียมตอบกลับข้อเสนอ'ทรัมป์'  ‘อนุทิน’ยึด4เงื่อนไข  เขมรต้องปฏิบัติจึงจะยอมเจรจา

เตรียมตอบกลับข้อเสนอ'ทรัมป์' ‘อนุทิน’ยึด4เงื่อนไข เขมรต้องปฏิบัติจึงจะยอมเจรจา

วันศุกร์ ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

เตรียมตอบกลับข้อเสนอ'ทรัมป์'

‘อนุทิน’ยึด4เงื่อนไข

เขมรต้องปฏิบัติจึงจะยอมเจรจา

กร้าวรักษาอธิปไตย-เกียรติภูมิปท.

ลั่นใช้ก.ม.คุมสถานการณ์สระแก้ว

นายกฯเผย “ทรัมป์”ส่งหนังสือเชิญไทยร่วมลงนามสันติภาพ ไทย-เขมรเตรียมตอบกลับ ยันพร้อมถ้าเขมรทำตาม 4 ข้อตกลงสำคัญ ซึ่งเป็นภัยความมั่นคง-ปชช.ไทย ปัดฝ่ายไทยล่าช้าแก้ข้อพิพาท 2 ชาติ โยนกองทัพใช้กฎหมายจัดการสถานการณ์บ้านหนองจานลั่นไม่มีเดดไลน์ ต้องปฏิบัติก่อน ไม่ทำต้องดำเนินการ กร้าวรักษาเกียรติภูมิประเทศ ปกป้องอธิปไตย ย้ำเส้oตาย10ต.ค.ไม่เคยออกจากรัฐบาลไทย แต่เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติทภ.1ทำหนังสือด่วนมากแจ้งเขมร เข้าไปเก็บกู้วัตถุระเบิด ที่บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว 10ต.ค. ตามข้อตกลง GBC ความร่วมมือเก็บกู้วัตถุระเบิด แจ้งเพื่อป้องกันการเข้าใจผิด

เมื่อวันที่ 9ตุลาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงภารกิจการเดินทางต่างประเทศว่า ได้นัดหมายจะไปเยือนประเทศลาววันที่ 16 ตุลาคม เพราะมีหลายประเด็นที่ต้องพูดคุยกัน และหลังจากนั้น จะเดินทางไปประชุมสุดยอดอาเซียน (อาเซียน ซัมมิท) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการประชุมสำคัญ


ลั่นไม่มีคำว่าเดทไลน์ที่สระแก้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีโอกาสได้พบผู้นำกัมพูชาหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เราแจ้งเงื่อนไขของเราไปแล้ว 4 ข้อที่จะทำให้เกิดการพูดคุยต่อได้ ขอให้กัมพูชาปฏิบัติคือ การถอนอาวุธหนัก ให้ฝ่ายไทยไม่รู้สึกว่ามีอันตรายต่อประชาชน รวมถึงการถอนทุ่นระเบิดและเรื่องสแกนเมอร์ รวมถึงการจัดการในพื้นที่ที่คนของกัมพูชาเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

เมื่อถามถึงเส้นตายการผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว วันที่ 10 ตุลาคม นายกฯกล่าวว่า ไม่มีคำว่าเดทไลน์ เพราะต้องปฏิบัติก่อน ถ้าไม่ปฏิบัติตามก็ต้องดำเนินการ

เล็งตอบทรัมป์พร้อมคุยถ้าเขมรทำ4ข้อ

ถามว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอตัวเป็นประธานการลงนามสันติภาพระหว่างไทย-กัมพูชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์มีหนังสือมาที่ตน และตนกำลังจะทำหนังสือแจ้งกลับ เพื่อแสดงความจำนงที่จะเห็นทั้งสองประเทศสามารถเจรจาหาข้อยุติในข้อพิพาท ซึ่งตนจะส่งข้อความกลับไปว่าหากฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม 4 ข้อที่ฝ่ายไทยยื่นเสนอไป ไทยก็พร้อมปฏิบัติตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น เพราะ 4 ข้อนี้ เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ที่สำคัญมีความเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชน

ถามอีกว่าจะทันหรือไม่ เพราะทรัมป์ยื่นข้อตกลงว่าจะให้ไทยลงนามสิ้นเดือนตุลาคมนี้ นายกฯ กล่าวว่า ต้องไปถามกัมพูชา เราพร้อมปฎิบัติ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก แค่โทรศัพท์สั่งให้ปฏิบัติ 4 ข้อ

โต้ไทยล่าช้าแก้ปมพิพาทไทย-เขมร

เมื่อถามถึงข้อกล่าวอ้างว่าของนายกฯกัมพูชา ที่ระบุการแก้ปัญหาชายแดนไทย-เขมร บริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้วล่าช้า เพราะต้องผ่านที่ประชุม GBC ที่มีพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ลงนาม นายกฯ กล่าวว่า ไทยไม่ได้ล่าช้า แต่ฝ่ายล่าช้าคือกัมพูชา และไทยเป็นผู้ถูกรุกราน เป็นผู้ถูกกระทำ ฉะนั้น คำว่าล่าช้าไม่มี ส่วนการทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่นั้น เป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องบริหารสถานการณ์ โดยหารือกับกองทัพ ซึ่งกองทัพรับไปเรื่องใช้กฎหมาย กฎอัยการศึก ฝ่ายปกครองต้องร่วมกับตำรวจและกรมป่าไม้

ส่วนการยกเลิกเอ็มโอยู 2543 และ 2544 นายอนุทินกล่าวว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา ข้อดีข้อเสียการยกเลิกเอ็มโออยู่ 2543 และ 2544 เพื่อแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นเรื่องของสภาที่จะดำเนินการพิจารณาศึกษาอยู่ เราก็ฟัง เพราะทั้ง 2 สภา ตั้งกรรมาธิการขึ้นมาแล้ว แต่ว่า 4 เดือนนี้อย่าเพิ่งไปคาดหวังอะไรยาวๆ 4 เดือนนี้เราต้องทำให้สถานการณ์ปัจจุบันคลี่คลายให้มากที่สุด

ยัน4เงื่อนไขส่งให้คนกลางรับทราบ

จากนั้นเวลา 15.00น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า เราหารือเกี่ยวกับการเตรียมเจรจากับเขมร รวมถึงการตอบหนังสือของนายโดนัลด์ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เราต้องขอบคุณในความปรารถนาดีที่อยากเห็นสันติภาพในภูมิภาค โดยเฉพาะความขัดแย้งของไทยและเขมร เราเชื่อมั่นในสันติภาพและเรามีจุดยืนต้องการให้เขมรตอบสนองสิ่งที่จะนำไปสู่ความสงบสุขในอนาคต เรายืนยันเงื่อนไขที่เราเสนอไป 4 ข้อ เราจะยืนยันเรื่องนี้ไปยังผู้ที่เสนอตัวมาเป็นคนกลาง และสองประเทศที่เป็นคู่กรณีต้องดำเนินการด้วย

ส่วนที่เอกอัครราชทูตฯจีนประจำเขมรระบุ พร้อมร่วมมือเขมรนั้น ทูตจีนที่ประเทศไทยก็บอกให้ความร่วมมือกับเราเช่นกัน ยืนยันเรื่องนี้เป็นเรื่องของไทยและกัมพูชาหวังว่าประเทศอื่นยังคงมีความปรารถนาดีที่จะเห็นว่าสถานการณ์นำไปสู่ความรุนแรงมากกว่านี้

กร้าวรักษาอธิปไตย-ฮึ่มเขมรอย่าทำผิดกม.

ผู้สื่อข่าวถามว่าการบริหารพื้นที่ที่เป็นปัญหาโดยเฉพาะบ้านหนองจาน มอบหมายกระทรวงต่างประเทศทำความเข้าใจกับสังคมโลกอย่างไรนายกฯกล่าวว่า กระทรวงต่างประเทศจะมีหนังสือแจ้งไปยังกัมพูชาว่าเราจำเป็นต้องดำเนินการทุกอย่างเพื่อรักษาอธิปไตย และดำเนินการตามกฎหมาย อย่าไปทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ถึงแม้จะเป็นเรื่องของเราก็ต้องมีกติกาสากลและรักษาเกียรติภูมิของประเทศไว้ด้วย และเราพยายามทำให้ละมุนละม่อมมากที่สุด แต่ว่าก็ต้องรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิและอธิปไตยของประเทศและกฎหมายของประเทศไทย

เมื่อถามว่าหากมีการเติมคนซึ่งผิดข้อตกลง จะไฟเขียวให้ผลักดันเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงเขามีมาตรการดำเนินการอยู่แล้ว ตนเข้ามาวันแรกยังยืนยันการทูตการเจรจากระทรวงต่างประเทศมีอำนาจเต็มที่ ด้านการป้องกันรักษาอธิปไตยทุกอย่างอยู่ที่กองทัพ รัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนให้ภารกิจของกองทัพและกระทรวงการต่างประเทศ

ถามว่าห่วงประเด็นเรื่องโล่มนุษย์หรือไม่ ที่กัมพูชาจะเอาเด็กและผู้หญิงมาเป็นแนวหน้า นายอนุทิน กล่าวว่าคำนึงถึงหลักมนุษยธรรมหลักสิทธิมนุษยชน แต่ก็ต้องนึกถึงอธิปไตยและกฎหมายที่เราไม่สามารถที่จะยอมให้ใครมาก้าวล่วงได้ ส่วนที่สื่อกัมพูชาเผยแพร่บทความว่าไทยขีดเส้นตาย 10 ต.ค. นั้น เส้นตายไม่เคยมีออกจากรัฐบาล และสิ่งที่ตนให้ความสำคัญมากที่สุดคือความปลอดภัยของคนไทย และอธิปไตยของประเทศไทยและศักดิ์ศรีของประเทศคือสิ่งที่ตนให้ความสำคัญ

ทภ.1แจ้งเขมรจะเข้ากู้ทุ่นระเบิด2จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองกำลังบูรพา (กกล.บูรพา) กองทัพภาคที่ 1 (ทภ.1) ทำหนังสือ ด่วนมาก ที่ กห0482.2/602 กองกำลังบูรพา ตำบลห้วยโจด อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2568 เรื่อง การเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ถึงผู้บัญชาการกองพลน้อยทหารราบที่ 51 โดยอ้างถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC)ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ณ จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 10กันยายน 2568 โดยที่ประชุมทั้งสองฝ่ายตกลงดำเนินมาตรการเพื่อความร่วมมือทางปฏิบัติ การเดินหน้าการเก็บกู้ระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เป้าหมายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม และคุ้มครองชีวิตพลเรือน ดังนั้น กองกำลังบูรพา ขอแจ้งว่าจะเข้าเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่นและบ้านหนองหญ้าแก้ว ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว วันที่ 10 ตุลาคม 2568 จึงแจ้งท่านเพื่อป้องกันการเข้าใจผิดกองกำลังบูรพาหวังอย่างยิ่งว่า จะได้รับความร่วมมือจากท่านเป็นอย่างดี

ดำเนินการเด็ดขาดพื้นที่ถูกล้ำอธิปไตย

วันเดียวกัน กองทัพภาคที่ 1 ยังออกเอกสารชี้แจงภารกิจปกป้องอธิปไตยในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้วว่า กกล.บูรพาและหน่วยทหารในพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับทุกภาคส่วนเต็มที่ ในการเตรียมความพร้อมการปฎิบัติทุกมิติ เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น โดยยืนยันทภ.1 จะเข้าดำเนินการเด็ดขาดกับพื้นที่ที่มีการรุกล้ำอธิปไตยของไทย ในช่วงเวลาที่ได้เปรียบ คำนึงถึงผลสำเร็จทางยุทธวิธีของหน่วยปฏิบัติและความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดนเป็นสำคัญ ตลอดจนลดความสูญเสียหรือผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไทย จากการระดมมวลชนของฝั่งตรงข้ามจำนวนมาก อันจะนำไปสู่เหตุการณ์เลวร้ายขึ้น ทั้งนี้ ขอให้ประชาชน เชื่อมั่นว่ากองทัพภาคที่ 1 พร้อมปฏิบัติทุกห้วงเวลา และจะยืนหยัดทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติเต็มความสามารถเพื่อพิทักษ์รักษาผืนแผ่นดินไทยด้วยความชอบธรรมและถูกต้องตามกฎหมาย

ทบ.แฉเล่ห์เขมรยจัดฉากสร้างภาพ

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัยสุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว ที่ยังพบปัญหาการรุกล้ำของชุมชนเขมร รวมถึงการสร้างสิ่งปลูกสร้างหลายแห่งในพื้นที่ที่ล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทยมานาน จำเป็นต้องแก้ไขให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม เพราะที่ผ่านมากัมพูชามีท่าทีเพิกเฉย แม้ไทยจะพยายามใช้ทุกช่องทาง ทั้งเจรจาและหารือร่วมกันอย่างสันติตามหลักสากลมาตลอด แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนองหรือเห็นท่าทีที่ชัดเจนจากเขมรที่จะร่วมแก้ปัญหา

โฆษกกองทัพบกกล่าวต่อว่า ในมาตรการเริ่มต้นจ.สระแก้วและกรมป่าไม้ของไทยจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย โดยออกหนังสือแจ้งเตือน และเตรียมใช้มาตรการบังคับกฎหมายกับกรณีการรุกล้ำดังกล่าว แต่ปรากฏว่าฝ่ายเขมรไม่เพียงไม่ร่วมแก้ปัญหาแล้ว กลับบิดเบือนข้อมูล เพื่อสร้างภาพว่าตนเป็นฝ่ายถูกกระทำ พร้อมปลุกระดมจัดตั้งมวลชน ซึ่งหลายคนไม่ใช่ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐและกำลังทหารเขมร เข้ามาขัดขวางการปฏิบัติงานและใช้สิ่งเทียมอาวุธ เข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยด้วยท่าทีที่ก้าวร้าว ทั้งยังนำเด็ก สตรีและพระมาเป็นโล่มนุษย์ สร้างภาพจัดฉากผู้ถูกกระทำ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ และผิดธรรมชาติของการชุมนุมโดยสงบอย่างชัดเจน

ฮึ่มบังคับใช้กม.เข้มผลักดันล้ำอธิปไตย

โฆษก ทบ.กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาล กระทรวงกลาโหม และสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีมติให้กองทัพดำเนินมาตรการแก้ปัญหาด้วยการบังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอน เพื่อผลักดันการรุกล้ำอธิปไตยตามหลักสากล ซึ่งมาตรการลำดับต่อมา จากมติคณะผู้บัญชาการทางทหารล่าสุด เห็นชอบให้ใช้กฎหมายปกติ เช่น พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ควบคู่กับพ.ร.บ.กฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 ที่มีผลบังคับใช้ในพื้นที่ชายแดนอยู่แล้วเพื่อให้ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมเหมาะสมกับสถานการณ์

“จากการประเมินสถานการณ์ล่าสุด พบปัญหาในพื้นที่ละเอียดอ่อนสูง เนื่องจากเขมรมุ่งมั่นใช้วิธีนำมวลชนมาชุมนุมในลักษณะจัดตั้งมา เผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจไทย เพื่อยั่วยุให้ไทยตอบโต้แล้วนำภาพเหตุการณ์ที่ได้ไปบิดเบือนต่อสายตาสังคมโลกทั้งนี้ กองทัพบกโดยกองทัพภาคที่ 1 อยู่ระหว่างเตรียมมาตรการเหมาะสมรัดกุม เพื่อบังคับใช้กฎหมายต่อชุมชนที่รุกล้ำอธิปไตยของไทย ให้เป็นไปตามเป้าหมายภายใต้หลักมนุษยธรรม และกติกาสากล” โฆษก ทบ.กล่าว

ฮุนมาเนตจี้ไทยเร่งถกJBCปมหนองจาน

อีกด้าน มีความเคลื่อนไหวจาก ฮุน มาเนตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Hun Manet” ระบุ รายงานการประชุมวิสามัญครั้งแรกของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปกัมพูชา-ไทย (จีบีซี) สมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568ที่จ.เกาะกง กัมพูชาลงนามโดย พล.อ.เตียเซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเขมร และพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาการรมว.กลาโหมไทยขณะนั้น ระบุชัดว่า ในส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นการบริหารจัดการชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ในพื้นที่ระหว่างบ้านภูมิโชคชัย ตำบลโอไบจวน อำเภอโอเจริว จังหวัดบันเตียเมียนเจย กัมพูชา กับบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ประเทศไทย ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทย (เจบีซี) เป็นกลไกแก้ปัญหาเกี่ยวกับการสำรวจและกำหนดเขตแดนร่วมกัน และเห็นพ้องเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมเจบีซีครั้งต่อไปเป็นวาระเร่งด่วน และทั้งสองฝ่ายมอบให้คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) หารือบริหารจัดการเรื่องนี้ สอดคล้องกับผลการหารือภายใต้เจบีซีอีกทั้ง ยังระบุว่า ความล่าช้าในการประชุมเจบีซี เดิมกำหนดไว้ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเจบีซีของไทย กัมพูชาหวังว่าจะจัดการประชุมเจบีซีเพื่อหารือเรื่องนี้ในอนาคตอันใกล้นี้ที่จ.สระแก้ว

ไทยฉุน’ทูตจีนประจำเขมร’โพสต์หนุนเขมร

ขณะที่ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หวัง เหวินปิน (Wang Wenbin) เอกอัครราชทูตจีนประจำกัมพูชา ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Wang Wenbin Chinese Ambassador to the Kingdom of Cambodia 汪文斌” ระบุข้อความว่า จีนสนับสนุนกัมพูชาอย่างมั่นคงในการปกป้องอำนาจอธิปไตยของชาติ ความมั่นคงและผลประโยชน์ด้านการพัฒนา และจะเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการพัฒนาของกัมพูชา

หลังจากหวัง เหวินปินออกมาโพสต์ข้อความนี้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิ ก่อนที่ะพูดสิ่งนี้ เอกอัครราชทูตจีนประจำกัมพูชา คุณแน่ใจหรือไม่ว่า สีจิ้นผิง จะเห็นด้วยกับคำกล่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทยนี้? , ประเทศไทยจะปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดนของตนเองจากผู้รุกรานด้วย ,โอเค ฉันรู้แล้วว่าใครเป็นผู้จัดหาอาวุธให้กับชาวเขมร , จีนหรอ ทำตัวดี แต่ตี 2 หน้า

ทูตจีนย้ำไทยไม่ได้ส่งอาวุธให้เขมร

เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศเผยแพร่ข่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเชิญนายจาง เจี้ยนเว่ย์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย มาพบหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทย - จีน และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ไทย - กัมพูชา รัฐมนตรีฯขอบคุณที่จีนมีบทบาทสร้างสรรค์ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ไทย - กัมพูชา โดยสนับสนุนให้ไทยและกัมพูชาพูดคุยหาทางออกร่วมกันอย่างสันติผ่านกลไกทวิภาคี ขณะเดียวกัน ได้แสดงความห่วงกังวลต่อรายงานข่าวว่า จีนได้ส่งอาวุธไปสนับสนุนกัมพูชาก่อนจะเกิดการปะทะไม่นาน อาจสร้างความเข้าใจผิดให้แก่สาธารณชน ซึ่งเอกอัครราชทูตฯยืนยันท่าทีที่เป็นกลางของจีน และยึดมั่นนโยบายการไม่ส่งอาวุธให้คู่ขัดแย้ง ซึ่งจีนปฏิบัติมาโดยตลอด ส่วนเรื่องที่ปรากฎเป็นข่าวคือ ความร่วมมือในการป้องกันประเทศตามปกติที่มีอยู่แล้ว โดยหลังจากการปะทะ จีนก็ไม่เคยสนับสนุนอาวุธให้เขมรเพื่อโจมตีไทย จีนหวังว่า ไทยและเขมรจะแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติผ่านกลไกทวิภาคี โดยจีนพร้อมสนับสนุนการดำเนินการของอาเซียนเรื่องนี้

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top