'นายกฯ'ลงพิจิตรติดตามช่วยเหลือปชช.ประสบภัยน้ำท่วม ยันรบ.ไม่เพิกเฉย เล็งหาทางเพิ่มเงินเยียวยาน้ำท่วมเกิน 30 วัน ย้ำอย่าลืมลงทะเบียน‘คนละครึ่งพลัส’กลางเดือนนี้ ชี้เป็นสส.ต้องไม่ทิ้งปชช.
เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกเดินทางจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) เขตพญาไท กรุงเทพฯ มายังจังหวัดพิจิตร เพื่อพบปะประชาชนและมอบถุงยังชีพเป็นขวัญและกำลังใจ
โดยเมื่อนายกฯและคณะเดินทางถึงเวลา 13.20น. ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร เนื่องจากพื้นที่โรงพยาบาลได้รับผลกระทบน้ำเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมแต่ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว
จากนั้นเวลา 14.00 น.นายกฯและคณะเดินทางถึงโรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร ต.ตะพานหิน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร โดยมีนายวรโชติ สุคนธ์ขจร รมช.สาธารณสุข น.ส.ธนียา นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นายเชษฐา โมสิกรัตน์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และสส.จากพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย นายภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์ สส.พิจิตร เขต 1 นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ สส.พิจิตรเขต 2 นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ สส.พิจิตร เขต 3 ร่วมให้การต้อนรับ
โดยนายกฯ กล่าวพบปะประชาชนว่า ตนมาให้กำลังใจ และตั้งใจที่จะมาพบปะพวกท่าน รับทราบจากผู้ว่าราชการจังหวัดและสส.พิจิตร ว่าน้ำท่วมมาระยะหนึ่งแล้ว ขอให้พวกเราอดทนอีกนิดจะปลายฝนแล้ว สถานการณ์น่าจะดีขึ้นรัฐบาลจะไม่เพิกเฉยละเลย ภายในสัปดาห์หน้า เราจะอนุมัติเงินช่วยเหลือเยียวยาให้กับพ่อแม่พี่น้องที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งเท่าไหร่ก็ไม่คุ้ม แต่รัฐบาลก็จะเร่งช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องประชาชนก่อน ครัวเรือนละ 9,000 บาท ซึ่งดูสภาพน้ำแล้ว 50,000 ยังไม่คุ้มเลย แต่รัฐบาลจะพยายามหาวิธีช่วย สำหรับตนหากเลย 30 วันยังได้ 9,000 บาท ไม่เพียงพอจึงมอบให้รัฐมนตรีที่กำกับดูแลงบประมาณ หาวิธีช่วยเหลือประชาชนให้มากกว่านี้ได้อย่างไรบ้าง เพราะเป็นความผิดของรัฐบาลที่ไม่สามารถระบายน้ำให้ประชาชนได้ทัน ทำให้เดือดร้อน สำหรับกรณี อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร พี่น้องไม่ต้องไปพิสูจน์อะไร ไปลงทะเบียนเอาชื่อไปไว้ที่อำเภอ ถ้าใครไม่ได้เงิน ผู้ว่าฯ จะเดือดร้อน ทุกคนต้องลงทะเบียนให้เรียบร้อยแล้วเงินมาที่ ปภ. เงินจะเข้าบัญชีทุกคน
นายกฯ กล่าวว่า อย่าลืมลงทะเบียนคนละครึ่งด้วย น่าจะกลางเดือนตุลาคมพี่น้องไปลงทะเบียนวันละ 200 บาท ประชาชนใส่ 200 บาท รัฐบาลใส่ 200 บาท เอาไปจับจ่ายใช้สอย ต้องขอร้องให้ประชาชนไปจับจ่ายใช้สอย แล้วรัฐบาลถึงจะเติมอีกครึ่งให้ ไม่ใช่เงินหยอดกระปุก ไม่ใช่เงินเยียวยา แต่เป็นเงินช่วยเหลือเป็นเวลา 2 เดือน จนถึงสิ้นปีนี้ ก็หวังว่าจะได้เอาไปใช้ เศรษฐกิจจะได้หมุนเวียน เราก็ไปอุดหนุนคนขายของ เขาก็ไปซื้อของต่อเศรษฐกิจก็จะดีขึ้น ทั่วประเทศก็จะมีเงินหมุนเวียน 1 แสนล้านบาท ช่วยให้รายได้ดีขึ้น ตรงนี้เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายในสิ้นเดือนนี้ แต่กลางเดือนนี้ พี่น้องไปลงทะเบียนได้แล้ว
นายกฯกล่าวอีกว่า ต่อไปก็มีเงินช่วยเหลือให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ใช่บัตรคนจน ที่จะใส่เงินเดือนละ 300 บาท แถมไป 1,700 บาท เป็น 2 พันบาท ทั้งหมดอนุมัติงบประมาณหมดแล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้ประชาชนเดือดร้อนในเรื่องน้ำท่วม แต่การจับจ่ายใช้สอยจะมีเม็ดเงิน ให้ประชาชนนำมาซื้อข้าวซื้อของในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ ฝากพี่น้องอสม. ซึ่งตนก็เป็นอสม.บุรีรัมย์ ตนมีความจำเป็นที่จะต้องขอความช่วยเหลือ อสม.ดูแลปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ตนมาอยู่นี้แล้ววิญญาณ อสม.เข้าสิง เราเชื่อว่าผู้ว่าฯ เอาใจใส่พี่น้องประชาชนได้ และเท่ากับเอาใจนายกฯ เอาใจมท.1 ด้วย คือต้องไม่ให้พ่อแม่พี่น้องลำบาก หามาตรการ กลไก หาวิธี ทำให้ชื่อพี่น้องทุกคนไปปรากฏที่ อธิบดี ปภ.ให้ได้ แล้วสัปดาห์หน้ากดปุ่ม เงินเข้า 9,000 บาททันที เราจะให้ไม่ต้องรอเงินเยียวยานาน
จากนั้น นายอนุทิน ได้แนะนำ 3 สส.พิจิตร พรรคภท.พร้อมกล่าวว่า ยังไงก็ผูกพันคนพิจิตร เรามีสส.3 คนใช่ไหม ให้พรรคภท.หมดใช่ไหม วันนี้หัวหน้าพรรคภท.มาเป็นนายกฯ แล้ว จะไม่มาตอบแทนพี่น้องพิจิตรได้ไหม ก็ไม่ได้ ถูกต้องแล้ว ซึ่งต้องขอขอบคุณ อันนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง ตอนนี้ทุกคนต้องระดมมาช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องอยู่แล้วพอทราบว่าจะมีการลงพื้นที่ของ 2 รัฐมนตรีคือนายศักดาและนายวรโชติ ถ้าสัปดาห์หน้าพี่น้องประชาชน ไม่ได้รับการช่วยเหลือเอาให้เละ ตอนนี้ทั้ง 2 รัฐมนตรี ลงมาพื้นที่ก็สบายใจ ซึ่งเป็นสส.ด้วย ดังนั้น จิตวิญญาณที่มีความห่วงใยที่ต้องการช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องมีมากกว่าความเป็นรัฐมนตรี
“ผมจะบอกให้ว่าการเป็นรัฐมนตรีกับเป็นสส. และเป็นนายกฯ ซึ่งมันดีทั้งหมด แต่ถ้าคนที่ทำการเมือง คนที่ถูกเลือกให้เป็นสส.และวันหนึ่งคุณเลือกได้อย่างเดียว มีอยู่ 3 ตำแหน่ง แต่คุณเลือกได้อย่างเดียว ระหว่างรัฐมนตรี นายกฯ และสส. รับรองร้อยทั้งร้อย ขอเป็นสส. ขอให้เชื่อมั่น นี่คือความสำคัญ ที่พี่น้องเลือกพวกผมเข้ามา ผมถึงไม่ลาออกจากสส. เพราะเป็นสส.ช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้อง และผมดันเลือกสส.ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ต้องช่วยเหลือทั้งประเทศ เพราะฉะนั้นพวกเราขอให้มีความมั่นใจว่าความเป็น สส. มันทิ้งพ่อแม่พี่น้องไม่ได้ ต้องลงพื้นที่ หลังวันพฤหัสบดีที่มีการประชุมสภา ต้องเร่งกลับบ้านไปเจอกับพี่น้องประชาชนที่เลือก พี่น้องไม่มีวันถูกทอดทิ้งแน่นอน”นายอนุทิน กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า เราจะมีแผนการฟื้นฟูปรับระบบระบายน้ำ ทำถนน สร้างคันกั้นน้ำ ทำโครงสร้างพื้นฐานให้แข็งแรงขึ้น ไม่ต้องเจอเหตุการณ์ซ้ำๆซากๆแบบนี้อีก น้ำต้องหาวิธีระบาย อย่างที่บึงสีไฟทำอย่างไรให้ผันน้ำลงสู่เจ้าพระยา ลงไปลงอ่าวไทยเร็วที่สุด โดยไม่ให้ท่วมจังหวัดที่ไหลผ่าน
นายกฯ กล่าวตอนท้ายว่า ตรงนี้ก็ขอให้พ่อแม่พี่น้องให้อภัยพวกผมด้วย ซึ่งเราไม่ได้อยู่เฉยๆ แต่หาวิธีหาหนทางต่างๆ ที่จะมาเยียวยาความเดือดร้อนของท่านทั้งหลายให้ลดน้อยลงให้มากที่สุด ต้องขอให้กำลังใจ ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ข้าราชการทุกท่าน ฝ่ายข้าราชการ ทั้งฝ่ายปกครองตำรวจทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอาสาสมัครทั้งหลาย ขอบคุณที่ช่วยดูแลพี่น้องประชาชนของเรา ไม่ให้ประสบอันตรายเป็นอย่างดี วันนี้มาพบปะกับท่านก็จะไปเร่งดำเนินการช่วยเหลือต่างๆ ให้พี่น้องโดยเร็ว อย่าลืมเร่งลงทะเบียนให้เรียบร้อย พร้อมกับลงทะเบียนคนละครึ่งด้วย เพราะจะเกิดขึ้นใน 2-3 สัปดาห์ เพื่อบรรเทาค่าใช้จ่าย ขอฝากผู้ว่าฯ ย้ำอีกครั้ง ประชาชนรอนานไม่ได้ ต้องเร่งดำเนินการให้ถึงมือประชาชนให้เร็วที่สุด และขอทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง พ้นทุกข์พ้นโศกโดยเร็ว และขอให้ทำมาค้าขึ้น เงินทองไหลมาเทมา มีจิตใจที่ดี พวกเรานำสิ่งเล็กน้อยมาให้เทียบไม่ได้กับความเสียหาย แต่เราจะทำให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
จากนั้นนายกฯเดินพบปะประชาชน พร้อมถ่ายภาพเซลฟี่เป็นที่ระลึก โดยมีประชาชนเข้าสวมกอดด้วยความดีใจที่ได้เจอนายกฯด้วย ก่อนนายกฯและเดินทางต่อมายังจังหวัดชัยนาทเป็นประธานการประชุมสรุปสถานการณ์น้ำ และแผนบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี