ผู้มีรายได้น้อยเฮ!
จ่อเปิดบัตรสวัสดิการฯรอบใหม่
หนุนคนไทยทุกคนเข้าถึงสิทธิ์
โฆษกรบ.โวความเชื่อมั่นศก.ฟื้น
ยืนยัน‘คนละครึ่งพลัส’มีเฟส2
นายกฯหนูย้ำอย่าลืมลงทะเบียน
"โฆษกรัฐบาล"เผยโครงการ"คนละครึ่งพลัส"จะมีการเปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่ ในเฟส 2 เพื่อช่วยรองรับกลุ่มตกหล่น และเตรียมเปิดลงทะเบียน"บัตรสวัสดิการฯ"รอบใหม่ หนุนคนไทยทุกกลุ่มเข้าถึงสิทธิ์ ยัน"นายกฯ"ห่วงปชช. ไม่อยากให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง "โฆษกรัฐบาล"ฟุ้ง ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว"ดัชนีเชื่อมั่น"พุ่งรอบ 8 เดือน รับอานิสงส์ "รบ.ใหม่-คนละครึ่ง พลัส" ขณะที่“นายกฯ”ย้ำอย่าลืมลงทะเบียน"คนละครึ่งพลัส"กลางเดือนนี้
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อสงสัยของประชาชนกรณีการลงทะเบียนโครงการ คนละครึ่ง พลัส ที่จะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนรอบแรกในวันที่ 20 ต.ค.นี้ว่า มีข้อกังวลสำหรับกลุ่มที่อาจจะมีปัญหาในการลงทะเบียน ทั้งนี้ จะมีการเปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่ในเฟส 2 ของโครงการคนละครึ่งพลัส เพื่อรองรับผู้ที่ตกหล่นจากการลงทะเบียนรอบแรก โดยจะประกาศวันและขั้นตอนที่ชัดเจนอีกครั้งหลังจบเฟสแรก
ส่วนการเติมเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีคำถามว่า ผู้ที่ไม่มีบัตร หรือไม่เคยลงทะเบียนมาก่อนจะทำอย่างไร ยืนยันว่ารัฐบาลกำลังทบทวนเพื่อเปิดให้มีการลงทะเบียนเพิ่มเติมรอบใหม่ เพื่อให้คนกลุ่มนี้สามารถเข้ารับสิทธิ์ได้โดยไม่ตกหล่น
“นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง รัฐบาลไม่อยากให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ทุกคนต้องสามารถเข้าถึงสิทธิ์ตามนโยบายได้จริง เพื่อให้เงินช่วยเหลือหมุนเวียนถึงมือประชาชน” นายสิริพงศ์ กล่าว
นายสิริพงศ์ กล้าวด้วยว่า ทั้งนี้ โครงการคนละครึ่งพลัส จะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปเป๋าตังระหว่างวันที่ 20–26ต.ค. โดยผู้มีสิทธิ์ต้องเป็นคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบัน จะได้รับสิทธิ์ร่วมจ่ายกับรัฐ50% ไม่เกิน 200 บาทต่อวัน เริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 29ต.ค. – 31ธ.ค.68 สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13.4 ล้านคน ยังคงได้รับเงินช่วยเหลือตามปกติ พร้อมเพิ่มวงเงินอีกเดือนละ 850 บาท ตลอดเดือนพ.ย.–ธ.ค.นี้ รวมเป็นเงินช่วยเหลือเดือนละ 1,150 บาท เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพช่วงปลายปี
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า สัญญาณความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ปรับตัวดีขึ้นในหลายจุด จากทัศนคติเชิงบวกของประชาชนต่อการปรับเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง พลัส และภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัว ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศและสนับสนุนธุรกิจภาคการค้าและบริการ เชื่อจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า) ปรับตัวเพิ่มขึ้น อยู่ที่ระดับ 56.0 ซึ่งสอดคล้องกับ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ได้เปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ 50.7 ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 44.4 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 59.3 ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นฯ ทุกรายการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนเช่นเดียวกัน โดยปัจจัยบวกสำคัญมาจากการเมืองในประเทศเริ่มมีความชัดเจนขึ้น หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหนุนความเชื่อมั่น บรรยากาศการลงทุน และภาวะเศรษฐกิจโดยรวม
ขณะที่ สภาธุรกิจตลาดทุนไทยก็ได้ สำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ในเดือนกันยายน 2568 พบว่าอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” ในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ธันวาคม 2568) โดยนักลงทุนมองว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด ขณะที่ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทยก็เห็นว่า การสานต่อนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบันสร้างความต่อเนื่องทางเศรษฐกิจ เช่น จาก โครงการคนละครึ่ง ต่อยอดสู่ “โครงการคนละครึ่ง พลัส” การออมเพื่อการเกษียณอายุ และหวยออมทรัพย์ เป็นต้น
“นายกฯอนุทิน กำชับทุกกระทรวง โดยเฉพาะทีมกระทรวงเศรษฐกิจที่ต้องเร่งเดินหน้ามาตรการ “Quick Big Win” ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมภายใน 4 เดือนข้างหน้า กระตุ้นโมเมนตัม จุดติดเครื่องยนต์เศรษฐกิจ พลิกฟื้นบรรยากาศการค้า และการลงทุน ทำให้ประชาชนพร้อมจะกลับมาจับจ่ายใช้สอยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แม้จะเป็นมาตรการระยะสั้น แต่เชื่อว่าจะส่งต่อเนื่องในระยะยาวอีกด้วย” นายสิริพงศ์ กล่าว
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เดินทางไปจังหวัดพิจิตร เพื่อพบปะประชาชนและมอบถุงยังชีพเป็นขวัญและกำลังใจผู้ประสบภัย น้ำท่วม โรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร ต.ตะพานหิน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร
โดย นายกฯ กล่าวช่วงหนึ่งกับประชาชนว่าอย่าลืมลงทะเบียนคนละครึ่งด้วย น่าจะกลางเดือนตุลาคมพี่น้องไปลงทะเบียนวันละ 200 บาท ประชาชนใส่ 200 บาท รัฐบาลใส่ 200 บาท เอาไปจับจ่ายใช้สอย ต้องขอร้องให้ประชาชนไปจับจ่ายใช้สอย แล้วรัฐบาลถึงจะเติมอีกครึ่งให้ ไม่ใช่เงินหยอดกระปุก ไม่ใช่เงินเยียวยา แต่เป็นเงินช่วยเหลือเป็นเวลา 2 เดือน จนถึงสิ้นปีนี้ ก็หวังว่าจะได้เอาไปใช้ เศรษฐกิจจะได้หมุนเวียน เราก็ไปอุดหนุนคนขายของ เขาก็ไปซื้อของต่อเศรษฐกิจก็จะดีขึ้น ทั่วประเทศก็จะมีเงินหมุนเวียน 1 แสนล้านบาท ช่วยให้รายได้ดีขึ้น ตรงนี้เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายในสิ้นเดือนนี้ แต่กลางเดือนนี้ พี่น้องไปลงทะเบียนได้แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี