'ชิดตะวัน'จี้ไทยตัดสัมพันธ์เขมร-เลิกโครงการยุค'อิ๊งค์'ดีล'ฮุนมาเนต' จนกว่า'ระบอบฮุนเซน'ล่มสลาย

'ชิดตะวัน'จี้ไทยตัดสัมพันธ์เขมร-เลิกโครงการยุค'อิ๊งค์'ดีล'ฮุนมาเนต' จนกว่า'ระบอบฮุนเซน'ล่มสลาย

วันจันทร์ ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 14.38 น.

'ชิดตะวัน'อัดรัฐบาลหลายยุคปล่อยเขมรเหิมเกริม ยก'ญี่ปุ่น'ใช้มาตรการแข็งกร้าวแม้ยังไม่ถูกคุกคามทางทหาร ลั่นหากไทยยังไม่เข้มแข็ง-เด็ดขาด หวั่น'ฮุนเซน'ได้ใจเหิมรุนแรงขึ้น แนะรัฐยุติความสัมพันธ์ทางการค้าทุกช่องทาง ยกเลิก7โครงการยุค'อุ๊งอิ๊งค์'เคยดีล'ฮุนมาเนต' จนกว่า'ระบอบฮุนเซน'ล่มสลาย

เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2568 รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล" ในหัวข้อ อวสาน : ฮุนเซน VS ไทย?! ระบุว่า "10 ตุลาคม 68 วันแห่งเกียรติภูมิของคนไทยทั้งชาติ เมื่อกองทัพภาคที่ 1 ได้เริ่มดำเนินการผลักดันชาวกัมพูชา ที่รุกล้ำพื้นที่ในเขตอธิปไตยของประเทศไทยมาหลายทศวรรษ


อย่างไรก็ดี วันเดียวกันมีรายงานข่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาช่วยเหลือกลุ่มทุนไทยที่ได้รับผลกระทบจากการที่คนกัมพูชาแบนไม่ซื้อสินค้า

เป็นที่น่าสนใจว่า ตามคำสั่งกระทรวงการต่างประเทศที่ 1195/2568 เรื่องแต่งตั้งคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปรากฏรายชื่อบุคคลจากกลุ่มทุนใหญ่ในประเทศไทย

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 52 ประกอบมาตรา 3 วรรค 2 มีสาระโดยสรุปว่า คณะรัฐมนตรี รัฐสภา หน่วยงานรัฐ มีหน้าที่พิทักษ์รักษาเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชาติ และความมั่นคงแห่งรัฐ

อย่างไรก็ดี รัฐบาลไทยหลายยุคมิได้ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญข้างต้น จนทำให้กองกำลังกัมพูชาเหิมเกริมทำสงครามกับไทย ระหว่างวันที่ 24-28 กรกฎาคม 2568 แม้ว่าจะมีแสนยานุภาพในการรบด้อยกว่าประเทศไทยเป็นอย่างมาก

โดยปี 2568 กัมพูชาจัดสรรงบประมาณด้านการป้องกันประเทศที่ 739 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ไทยอยู่ที่เกือบ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นั่นคือ ไทยมีการใช้งบประมาณด้านการป้องกันประเทศสูงกว่ากัมพูชาเกือบ 8 เท่า

เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงในปัจจุบันพบว่า ประเทศไทยเผชิญกับการคุกคามจากกองกำลังกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง กองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า โดรนทางการทหารของกัมพูชาได้บินอยู่เหนือน่านฟ้าของประเทศไทยในหลายพื้นที่ และกัมพูชาเคยใช้โดรนทิ้งระเบิด จนทำให้ทหารไทยต้องบาดเจ็บล้มตายมาแล้ว

การที่รัฐบาลไทยละเลยข้อมูลดังกล่าว นอกจากเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ยังไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติของประเทศอื่น ๆ ที่ต้องดำเนินการอย่างแข็งกร้าวต่อประเทศที่คุกคามเอกราช และเป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างร้ายแรง

อาทิ ประเทศญี่ปุ่นได้ตอบโต้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเด็ดขาด โดยยุติการค้าทั้งหมดกับเกาหลีเหนือนับแต่ปี 2552 รวมถึงห้ามชาวเกาหลีเหนือเข้าประเทศตั้งแต่ปี 2559

นอกจากนี้ ยังจำกัดการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังจีน โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญคือ เพื่อป้องกันการนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ทางการทหาร

ในขณะที่ปี 2562 รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตอบโต้การกล่าวหาของรัฐบาลเกาหลีใต้ที่หมิ่นเกียรติภูมิประเทศ โดยการงดส่งออกสินค้าที่เกาหลีใต้ต้องการเป็นระยะเวลาถึง 3 ปี

จะเห็นได้ว่า ประเทศญี่ปุ่นตอบโต้โดยลดความสัมพันธ์กับประเทศเหล่านี้อย่างจริงจังและแข็งกร้าว แม้ว่ายังมิได้ถูกคุกคามทางการทหารแต่อย่างใด

หากประเทศไทยไม่แสดงความเข้มแข็งและเด็ดขาดทั้งทางทหารและทางเศรษฐกิจให้เป็นที่ประจักษ์ ในอนาคตฮุน เซน ก็จะฮึกเหิมกระทำต่อประเทศไทยรุนแรงและหนักกว่าครั้งที่ผ่านมา

โดยการโจมตีอาจไม่จำกัดอยู่เฉพาะเขตชายแดน เพราะกัมพูชามีประสบการณ์แล้วว่า การยิงระเบิดใส่โรงพยาบาล สถานประกอบการ บ้านเรือนประชาชน จนทำให้เด็กนักเรียน คนไทย รวมถึงทหารไทย บาดเจ็บ พิการ และล้มตายเป็นจำนวนมาก ไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา เพราะรัฐบาลไทยอยู่ภายใต้การชี้นำของกลุ่มทุนบางส่วน รวมถึงผู้ใช้อำนาจรัฐบางคนที่หิวเงิน จนละเลยต่อเกียรติภูมิและความมั่นคงของชาติ

ดังนั้น ในขณะที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังผลักดันคนกัมพูชาออกจากพื้นที่อธิปไตยของไทย รัฐบาลไทยต้องยุติความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศกัมพูชาทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ตลอดจนยกเลิกความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ ซึ่งครอบคลุม 7 โครงการที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยตกลงกับฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไปจนกว่าระบอบเถื่อนที่ไม่รู้ผิดถูกชั่วดีของฮุน เซน จะล่มสลายจากแผ่นดินกัมพูชา!

**ภาพประกอบของผู้เขียน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่พลเมืองและนักการเมือง รักชาติ ยินดีเสียสละประโยชน์ส่วนตน เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง "

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top