วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ภท.ถกพรรคร่วมฯแก้รธน.
ไม่แตะหมวด1-2
ให้เอกสิทธิ์สส.โหวตลงมติ
เริ่มประชุมวาระแรก14ต.ค.
ไม่หวั่นรบ.อยู่ไม่ถึง4เดือน
ชี้ได้เริ่มแล้วให้เป็นเรื่องสภา
เริ่มแล้วกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐสภานัดประชุมวาระแรก 14-15 ตุลาคม “นายกฯหนู”เรียกถกพรรคร่วม ยัน“ภูมิใจไทย”ไม่แตะหมวด 1-2 เปิดทาง สส.ฟรีโหวด ไม่หวั่นแม้รัฐบาลอยู่ไม่ถึง 4 เดือน เพราะถือว่าได้เริ่มแล้วปล่อยให้เป็นเรื่องของสภา
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 13 ต.ค.68 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานประชุมสส.พรรคร่วมรัฐบาล และสส.พรรคภูมิใจไทย เพื่อเตรียมความพร้อมการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในการพิจารณาร่าง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ในวันที่ 14-15 ต.ค.นี้ โดยมีรัฐมนตรี แกนนำกลุ่มการเมือง อาทิ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รมช.สาธารณสุข นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะแกนนำกลุ่ม 16 น.ส.พิมภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) นายเอกณัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครทสช. นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครทสช.และสส.พรรคภูมิใจไทย เข้าร่วมด้วย
‘อนุทิน’ชี้แก้รธน.เริ่มแล้ว
นายอนุทิน กล่าวกรณีจะใช้จะให้ร่างของใครเป็นร่างหลัก เพราะพรรคเพื่อไทยก็อยากให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยเป็นร่างหลักว่า ก็ต้องหารือกัน และในวันที่ 14-15 ต.ค. จะมีการประชุมร่วมของรัฐสภาแล้ว ทุกอย่างให้เป็นไปตามกลไกของรัฐสภา
ส่วนการที่จะให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านไปได้ต้องมีเวลาทำงาน 4 เดือนเต็มใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราได้ประชุมร่วมกับอีกหลายพรรคการเมือง และเป็นส่วนหนึ่งใน MOA ที่เราให้ไว้กับพรรคประชาชน จึงต้องทำตามที่มีข้อตกลงกันไว้
เมื่อถามย้ำว่าหากรัฐบาลอยู่ไม่ถึง 4 เดือน ก็อาจจะทำไม่เสร็จ นายอนุทิน กล่าวว่าอย่างน้อยก็ได้นำเข้าสภา ถือว่าได้เริ่มแล้ว เมื่อถามว่านายกฯ ได้มีการเช็กเสียงฝั่ง สว. บ้างหรือไม่ว่าเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้เช็กเลย เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกลไกประชาธิปไตย
ย้ำชัดไม่แตะหมวด1-2
ส่วนแนวโน้มจะผ่านหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า“แต่ละพรรคมีจุดยืนของตัวเองอยู่แล้วโดยพรรคภูมิใจไทยไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 ส่วนมาตราอื่นๆ เดี๋ยวค่อยไปว่ากัน ซึ่งหวังว่าจะผ่านในวาระหลักการ จากนั้นจะมีในชั้นกรรมาธิการ”
เมื่อถามว่าในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลจะสามารถผลักดันเรื่องนี้ให้ผ่านในวาระ 3 เพื่อทำประชามติ และพร้อมเลือกตั้งได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าต้องช่วยกัน และส่วนหนึ่งที่พรรคประชาชนต้องการให้พรรคภูมิใจไทยเข้ามาเพื่อเข้ามาเริ่มกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ระบุว่า วันพฤหัสบดี ที่ 16 ตุลาคมนี้ จะแถลงข่าวทุกเรื่องที่อยู่ในความสนใจ ทั้งประเด็น MOU 43 - 44 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการยกฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นต้น โดยวันนี้ขอยังไม่พูดอะไร
ยันพรรคร่วมไม่แตะหมวด1-2
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00น. น.ส. แนน บุญธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ และ นายอัคร ทองใจสด สส.เะชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ร่วมกันแถลงข่าว หลังการประชุมร่วมรัฐมนตรี สส. และ แกนนำกลุ่มการเมือง ที่ร่วมรัฐบาล ที่พรรคภูมิใจไทย
โดยนางสาวแนน เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุม 2 ส่วน คือส่วนของ สส.พรรคภูมิใจไทย และ อีกส่วน เป็น สส. จาก กลุ่มที่ร่วมกันสนับสนุนรัฐบาล
โดยสาระสำคัญ เป็นการหารือถึง การเตรียมความพร้อมประชุม ร่วมรัฐสภา ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ตอนนี้ มีเสนอให้รัฐสภา พิจารณา 3 ร่างว่ามีเนื้อหา และหลักการสำคัญอย่างไรบ้าง ในส่วนตัวผู้อภิปราย และกรอบเวลาที่จะแบ่งกัน ตอนนี้ยังไม่ได้ ข้อสรุป แต่เบื้องต้น จะมีนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล และ นายอัครเดช ที่จะร่วมอภิปรายด้วย แต่ยืนยันว่าประเด็นที่ สส.ทุกคนเห็นตรงกันก็คือจะไม่แก้ไขในหมวด 1และหมวด 2
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย มีความห่วงกังวล ว่า รัฐสภาจะลงมติรับเฉพาะร่างของ พรรคภูมิใจไทย และ พรรคประชาชน เพราะได้ทำMOA ร่วมกันไว้นั้น น.ส.แนน ยืนยัน ว่า การพิจารณา จะพิจารณาจากเนื้อหา ไม่ได้พิจารณาว่า ร่างกฎหมายฉบับนั้นเป็นของพรรคไหน ดูที่เนื้อหาสาระ ว่า มีความเหมือน หรือ แตกต่างกันอย่างไร โดยในวันพรุ่งนี้ จะมีการประชุม คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ( วิปรัฐบาล) ก็จะหยิบยกเอาประเด็นเหล่านี้มาหารือกันอีกครั้งเพื่อให้ได้ข้อสรุป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคประชาชนเสนอแก้ไข หมวด1 และ หมวด 2 น.ส.แนน ย้ำอีกครั้งว่า พรรคภูมิใจไทย มีความชัดเจนมาตลอด ว่า จะไม่มีการแก้ไขในหมวดดังกล่าวอย่างแน่นอน
ย้ำให้เอกสิทธิ์ สส.โหวด
เมื่อถามอีกว่า จะให้เอกสิทธิ์ สส. ในการลงมติร่างของพรรคประชาชนใช่หรือไม่ น.ส. แนน กล่าวว่า สส.จะลงมติอย่างไร ก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ ย้ำทุกการโหวตเป็นเอกสิทธิ์ สส.แต่เชื่อว่าการลงมติของ พรรคภูมิใจไทย และ พรรคร่วมรัฐบาล น่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะเป็นเอกสิทธิ์ ไม่ใช่มติพรรคร่วม
เมื่อถามว่าที่ประชุมวันนี้ มีความห่วงกังวลในประเด็นใดบ้าง น.ส.แนน เปิดเผยว่า ส่วนใหญ่เป็นกังวลเรื่องเนื้อหา ในแต่ละร่าง เนื่องจากมีการวิเคราะห์ และตีความ ไปว่าหากรับร่างไปแล้ว จะมีปัญหาในส่วนไหนบ้าง ตอนนี้ กำลังหารือกันอยู่ เมื่อถามว่า เมื่อพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล จะใช้ร่างของ พรรคภูมิใจไทย เป็นร่างหลักหรือไม่ น.ส. แนน ยืนยัน จากที่คุยกันเบื้องต้น จะใช้ ร่างของพรรคภูมิใจไทย เป็นร่างหลัก
เมื่อถามว่า ส่วน MOU 2543- 2544 เรื่องนี้ยังไม่ได้คุยกัน เพราะถือว่าเป็นการทำงานของ ครม. ในเรื่องของเนื้อหา ที่สภาฯ กรรมาธิการก็กำลังศึกษาอยู่ ส่วนจะมีข้อสรุปได้ช่วงไหน ขึ้นอยู่กับ กรรมาธิการ
นางสาวแนนยังกล่าวถึงกรณีที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เดินทางมาที่ทำการพรรคภูมิใจไทยว่า นายบวรศักดิ์ เดินทางมาให้คำแนะนำแก่ สส. เกี่ยวกับเนื้อหาของรัฐธรรมนูญในฉบับปัจจุบัน และเนื้อหาที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อใช้ประกอบในการอภิปราย การประชุมร่วมกันของรัฐ ระหว่างวันที่ 14 - 15 ตุลาคมนี้
ไม่ต้องตั้งทีมองครักษ์
นางสาวแนนยังกล่าวถึงการตั้งวอร์รูมหรือองครักษ์ เพื่อดูแลการอภิปรายให้อยู่ในกรอบหรือไม่ ว่า ความจริงแล้วพรรคภูมิใจไทย ไม่เคยตั้งองครักษ์พิทักษ์ในเรื่องใด ซึ่งที่ผ่านมาไม่ว่าคนใดที่จะอภิปราย หรือ คนใดที่ใช้เนื้อหาในด้านใดประกอบการอภิปราย จะต้องเป็นไปตามข้อบังคับของการประชุมสภา ซึ่งผู้อภิปรายจะต้องรับผิดชอบในคำอภิปรายของตนเอง ส่วนที่ขัดกับข้อบังคับ หรือ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย ทุกอย่างก็ต้องว่าไปตามข้อบังคับ
ส่วนมีความกังวลหรือไม่ อาจมีการเล่นเกมในสภา นางสาวแนนกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่กังวล แต่ต้องดู ว่า การประชุมในวันพรุ่งนี้ จะออกมาในรูปแบบใด แต่ในการประชุม สส.ในวันพฤหัสบดีนี้ วาระของสภาจะมีกระทู้ถามสด และต่อด้วยวาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ หรือ พ.ร.บ.อากาศสะอาด ซึ่งสิ่งที่สมาชิก และตนเองอยากเห็นมากที่สุด อยากให้กฎหมายดังกล่าวเสร็จสิ้นผ่านวาระ 2 และ 3 เพื่อจะได้พิจารณากฎหมายอื่น ซึ่งอยากให้ สส. เข้าร่วมประชุมในวันนั้น เพื่อโหวตร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาดให้เสร็จสิ้น
สส.รทสช.ยันหนุน‘อนุทิน’
ทั้งนี้ หากมีเสียงโหวตเพิ่มขึ้นจะขัดต่อ MOA ที่ทำไว้กับพรรคประชาชนหรือไม่ นางสาวแนน กล่าวว่า การโหวตทุกอย่างเป็นเอกสิทธิ์ของ สส. ซึ่งข้อตกลง MOA คือ เสียงสนับสนุน แต่การที่ สส. จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เรื่องนี้บอกไม่ได้ว่าจะขัดหรือไม่ เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ของ สส. คนนั้น โดยที่พรรคภูมิใจไทยไม่ได้บอกให้มาสนับสนุน
ขณะที่นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ สส. ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ชี้แจงกรณีที่สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วมประชุมที่พรรคภูมิใจไทย ว่าในวันนี้ไม่ได้มาแถลงข่าวร่วมในนามพรรคร่วมรัฐบาล แต่มาในนามเป็น สส.ที่สนับสนุนรัฐบาลและนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และรมว.มหาดไทย ดังนั้น การที่สื่อมวลชนรายงานข่าว เป็นการประชุมพรรคร่วมรัฐบาล ขอยืนยันว่ามาในนาม สส.ที่สนับสนุนรัฐบาลเท่านั้น จึงขอทำความเข้าใจ
‘พินิจ’ยกทีมลำปางซบภท.
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวรีกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยังให้การต้อนรับ นายพินิจ จันทรสุรินทร์ อดีตสส.ลำปาง และอดีต รมว.เกษตรฯสมัย พล.อ.สุจินดา คาประยูร เป็นนายกฯ และนายอิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ อดีต สส.ลำปาง พรรคเพื่อไทย รวมทั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน จำนวน 5 คน นำดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดีและสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยด้วย
นายอนุทินเปิดเผยว่านายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นผู้ประสานงานกับนายพินิจ ให้เข้ามาร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ขณะที่นายทรงศักดิ์กล่าวว่า ในกลุ่มของนายพินิจ เป็นผู้สมัคร สส.ลำปาง จำนวน 4 คน และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน มีจำนวน 5-6 คน โดยทั้งหมดเป็นผู้สมัครในนามพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า
‘จุรินทร์’ถามจุดยืนหมวด1-2
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 เพื่อให้มี ส.ส.ร. ขึ้นมายกร่าง รธน.ใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งมีด้วยกัน 3 ร่างคือร่างของพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทยกับพรรคร่วมรัฐบาล ที่รัฐสภาได้กำหนดให้มีการพิจารณา ในวันที่ 14-15ต.ค.นี้ว่า ทั้ง 3 ร่างมีความแตกต่างกันทั้งจำนวนและที่มาของ ส.ส.ร. ที่จะมาทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ไม่ว่าร่างใดก็ต้องยึดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า ส.ส.ร.ต้องไม่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน
อย่างไรก็ตามตนเคยถามรัฐบาลมาแล้วครั้งหนึ่งในที่ประชุมรัฐสภา ในวันที่รัฐบาลแถลงนโยบายว่าหากมีร่างใดก็ตามอนุญาตให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยไม่มีข้อแม้เรื่องการห้ามแตะหมวด1 หมวด2 ซึ่งหมวด 1 ว่าด้วยรูปแบบของรัฐและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หมวด 2 ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ รัฐบาลชุดนี้มีจุดยืนจะโหวตให้ร่างที่ไม่ได้ห้ามแตะ หมวด 1 หมวด 2 หรือไม่ แต่ไม่ได้รับคำตอบ เพราะคำตอบที่ได้เป็นคำตอบในประเด็นอื่น จึงขอถามจุดยืนของรัฐบาลต่อประเด็นนี้อีกครั้งหนึ่ง เพราะเห็นว่ารัฐบาลต้องมีความชัดเจนในเรื่องนี้ซึ่งเป็นจุดยืนที่หลายพรรคการเมืองเคยยึดถือมาโดยตลอดรวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ว่าสนับสนุนให้มีการ จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย ส.ส.ร.ได้แต่ต้องไม่แตะหมวด1 หมวด2
“การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 14 ตุลาคม ทราบจากวิปว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้เวลาประมาณ 40 -45 นาที ซึ่งผมก็จะเป็นผู้หนึ่งที่จะขอร่วมอภิปราย โดยจะใช้เวลาเพียงสั้นๆ” นายจุรินทร์ กล่าว
ภท.มั่นใจคว้าชัยกาญจนบุรี
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทยให้สัมภาษณ์ที่วัดสระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ถึงความมั่นใจในการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดกาญจนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 4 ว่า มีเต็มเปี่ยมเพราะหลังจากเกษียณ ได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องและช่วงที่เป็นผู้แทนราษฎรก็ไม่เคยไปไหน อยู่กับประชาชนทุกวัน ยกเว้นมีงานที่สภาฯ ได้เห็นความลำบากทุกข์ยากของประชาชน ประสานหน่วยงานราชการเพื่อแก้ปัญหา และนำปัญหาของพี่น้อง 4 อำเภอไปพูดในสภาฯ เพื่อนำไปสู่การแก้ไข จึงมั่นใจว่า 2 ปีที่เป็นผู้แทนราษฎรได้ดูแลแก้ปัญหาให้ประชาชน ทั้งเรื่องน้ำ ถนน และปัญหาพืชผลทางการเกษตร
นายศักดิ์ดา ย้ำว่า“มั่นใจในตัวประชาชน เพราะได้ถามประชาชนเขาไม่เอาคนแปลกหน้าที่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ จึงมั่นใจว่าประชาชนจะเลือกคนที่อยู่กับเขา และมั่นใจว่าคะแนนของลูกสาวผม (วิสุดา วิเชียรศิลป์ ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย) จะมากกว่าผมแน่นอน”
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดไม่รอให้มีการยุบสภาแล้ว จึงเลือกตั้งทั้งหมดมากกว่าการเลือกตั้งซ่อมเขตเดียวนายศักดิ์ดา ตอบว่า ถ้ายุบสภา จะเสียเงินมากกว่านี้ แต่ถ้าเลือกตั้งเขตเดียวจะเสียแค่เขตเดียว และถ้าจะถูกโจมตีก็เป็นเรื่องธรรมดาทางการเมือง ไม่รู้สึกกดดันอยู่แล้ว
เชื่อรัฐบาลยุบสภาเร็วกว่า4เดือน
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชนเฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยเชื่อว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้พรรคเพื่อไทยเดินเกมการเมืองเร็วขึ้น เพื่อเร่งบีบกดดันให้ยุบสภาก่อน 31 ม.ค.2569 ดังนั้นรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ คงอยู่ไม่ครบ 4 เดือนตามสัญญาทำเอ็มโอเอกับพรรคประชาชน
นอกจากนี้ แกนนำพรรคเพื่อไทยตำหนิและกล่าวหา สส.ย้ายพรรคแต่ปล่อยลูกไว้เป็นไส้ศึกนั้น ยิ่งจะทำให้ สส.อยู่ในพรรคบางคนไม่กล้าเข้าร่วมกิจกรรมของพรรคด้วย เพราะยังมี สส.รอเวลาย้ายออกอีกจำนวนมากจะอึดอัดกับการตกเป็นเป้าการจับตา
นายจตุพร ประเมินว่า ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา มีความสำคัญกว่าการแก้รธน.ดังนั้น นายอนุทิน จะเน้นแก้ปัญหาชายแดนให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะเรื่องนี้เล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของคนไทย และจะมีผลต่อเสียงนิยมในการเลือกตั้งครั้งใหม่ด้วย ถ้าร่าง พ.ร.บ.แก้รธน.ผ่านสภา ไม่ถูกล้มกระดานกันเสียก่อน แม้การแก้ รธน.จะได้ทำประชามติ แต่คงไม่ผ่านประชามติกันง่ายๆ เพราะยังมีด่านสกัดกั้นอีกหลายขั้นตอน ดังนั้น ต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้งในช่วงทำประชามติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี