‘กลุ่มสว.สำรอง’ยื่นฟ้อง‘ประธานกกต.’กับพวก ผิด ม.157 ปม‘ฮั้ว’คดีเลือกสว.

‘กลุ่มสว.สำรอง’ยื่นฟ้อง‘ประธานกกต.’กับพวก ผิด ม.157 ปม‘ฮั้ว’คดีเลือกสว.

วันพฤหัสบดี ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 11.49 น.

‘กลุ่มสว.สำรอง’ยื่นฟ้อง‘ประธานกกต.’กับพวก ผิด ม.157 ปม‘ฮั้ว’คดีเลือกสว. ซัดพฤติกรรมชัดเข้าข่ายยื้อเวลา ศาลนัดฟังคำสั่ง 3 พฤศจิกายน 68

16 ตุลาคม 2568 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ  ตลิ่งชันนายวิเชียร ศรีสุดและสมาชิกชมรมสภาเที่ยงธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพล เรืองเกตุพันธุ์ สว.สำรอง และอดีตผู้สมัครสว.ที่เข้ารอบสุดท้าย กับพวกรวม2 คนเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.กับพวกรวม 8 คน ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฯ


กรณีสืบเนื่องเมื่อเดือน กันยายน 68นายวิเชียร ศรีสุด ประธานสภาชมรม "สภาเที่ยงธรรม"หรือภาคีเครือข่ายเพื่อการปฏิรูปสถาบันนิติบัญญัติ หรือ "ภปน." ได้รับร้องเรียนจาก สว.สำรองและอดีตผู้สมัคร สว.ว่า กกต.ได้ทำสำนวนการยื่นถอดถอน สว.จำนวน 138 คน เป็นระยะเวลานานเกิน 1ปีโดยประธาน กกต.คณะกรรมการ  และเลขาธิการ  กกต.ไม่ได้ควบคุม กำกับ ดูแล ตรวจสอบและเร่งรัด การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ทำให้สำนวนการถอดถอน สว.เกิดความล่าช้า จนกกต.ไม่สามารถยื่นคำร้องและส่งสำนวนการยื่นถอดถอนสว.ไปยังศาลฎีกา แผนกเลือกตั้งได้ ทำให้ สว.สำรองและอดีตผู้สมัคร สว.ได้รับความเสียหายเนื่องจากเมื่อไม่มีการยื่นสำนวนถอดถอน สว.ไปยังศาลฎีกาฯแล้วทำให้ สว.สำรองไม่อาจเลื่อนขึ้นไปแทนที่ สว.ที่ถูก ยื่นถอดถอนได้ และหากจำนวนสว. ที่เหลือไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ซึ่งจะทำให้อดีตผู้สมัคร สว. มีการเลือกตั้งซ่อมขึ้นแทนตำแหน่งของสว.ที่เหลืออยู่ได้ตาม พ.ร.ป./สว/61มาตรา 62,มาตรา 45

นายวิเชียร ศรีสุดจึงได้มอบคดีที่ กกต.ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 ประกอบด้วย พ.ร.ป/ป.ป.ช. มาตรา172 ให้ พ.ต.อ.สมพล เรื่องเกตุพันธุ์ทนายความประจำชมรม " สภาเที่ยงธรรม" รับคดีไปดำเนินการยื่นฟ้อง กกต.ทั้ง8 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯดังกล่าว

ด้านพ.ต.อ.สมพล  ทนายความประจำชมรมสภาเที่ยงธรรม เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจากสภาเที่ยงธรรมให้ดำเนินการยื่นฟ้อกกต. ทั้ง 8 คน หลังพบพฤติกรรมเข้าข่ายยื้อกระบวนการสอบสวนคดีฮั้วสว.  เพราะส่วนตัวมองว่าคดีดังกล่าวควรต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนตั้งแต่วันที่มีการประกาศผลเลือกตั้ง วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 โดยคดีนี้ตามหลักแล้วจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี แต่พบว่าล่วงเลยมากว่า3เดือนแต่ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งคดีนี้การสอบสวนอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกกต.และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอสืบสวนสอบสวนแล้วเสร็จและได้ส่งเรื่องให้กกต.ตรวจสอบภายในกรอบระยะเวลา 60 วันนับแต่ที่ได้รับสำนวน เพื่อส่งสำนวนต่อไปให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเพื่อพิจารณาตัดสิน แต่กลับพบว่ากกต. ได้ตั้งหลักเกณฑ์ใหม่ โดยส่งสำนวนไปยังคณะต่าง ๆ ของกกต. ที่ตั้งขึ้นมาเอง จึงมองว่าเป็นการยื้อเวลา เพราะหากนับรวมทุกขั้นตอนจะต้องใช้เวลามากกว่า 8 เดือน จึงจะสามารถส่งสำนวนให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้ จุดนี้ตนมองว่า ไม่น่าจะต้องใช้ระยะเวลานานขนาดนั้น

ศาลคดีอาญาทุจริตฯได้รับคำฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.182/2568 ไว้พิจารณาโดยนัดฟังคำสั่งในชั้นตรวจคำฟ้องว่าจะรับคดีไว้ไต่สวนหรือไม่วันที่ 3 พฤศจิกายน นี้  เวลา 09.30 น.

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top