รอชี้ขาดโหวตวาระ3
รองนายกฯไม่ห่วงร่างปชน.แตะหมวด1-2
‘ปชน.’โวการต่อสู้เพิ่งเริ่มต้น
หวังทุกพรรคร่วมมือแก้รธน.
“บวรศักดิ์”รองนายกฯชี้ถ้ายุบสภาก่อน 4 เดือน แก้รธน.ก็จบ ย้ำก.ม.ประชามติฉบับใหม่-เก่า กระทบไทม์ไลน์แก้รธน.แค่ 1 เดือน บอกอย่าห่วงร่างปชน.แตะหมวด 1-2 หรือไม่ ให้ดูลงมติวาระ 3 ชี้ที่มาส.ส.ร.โยงปชช.เลือกทางอ้อมได้เช็คเสียง“สส.-สว.” หนุนร่างปชน. ทำรัฐบาลหน้าแหก“สภาสูง”ยกมือโหวต 27 เสียง พบ “เพื่อไทย” ตบเท้าสางแค้นสำเร็จ สว.เสียงหาย 37 สส.ไม่ลงมติอื้อ “ชทพ.” พร้อมใจหายยกพรรค‘พริษฐ์’ขอบคุณสภาหนุนร่างปชน.ผ่านวาระ 1เป็นร่างหลัก ยันเดินหน้าจะทำเต็มที่ถกกมธ.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่รีบนำเสนอรัฐสภาวาระที่2-3ก่อนสิ้นปี’ช่อ’ลั่นการต่อสู้เพิ่งเริ่มแก้รธน.ใช้ร่างปชน.เป็นหลัก หวังทุกพรรคร่วมมือเดินหน้าช่วยปชช.ได้เลือกผู้ร่างด้วยตนเองด้าน สว.พิสิษฐ์’ยันไม่ลากปชน.เข้าเกมการเมือง หลังรับร่าง ปชน.รับได้เป็นกลไกปชต.ชี้ประเด็นเสี่ยงถกแก้ชั้นกมธ.
เมื่อวันที่ 16ตุลาคม2568 นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีมีข้อสังเกตหากรัฐบาลอยู่ไม่ครบ 4 เดือนจะกระทบกับไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า ไม่เกี่ยวกัน เป็นเรื่องของสภา แต่ถ้ามีการยื่นยุบสภาก่อน รัฐธรรมนูญถึงจะชักงัก แต่ถ้ารัฐธรรมนูญอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ(กมธ.)แล้วมีเหตุอื่น เปลี่ยนรัฐบาล สภาก็ดำเนินเรื่องไป แต่ถ้ายุบสภาก็จบ แต่รัฐบาลใหม่ ที่มาหลังจากการเลือกตั้ง สามารถขอให้สภาหยิบขึ้นมาพิจารณาได้ภายใน 60 วัน
ชี้กม.ประชามติใหม่-เก่ากระทบแก้รธน.
ส่วนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติฉบับใหม่ที่นำขึ้นทูลเกล้าฯไปแล้วซึ่งจะครบ 90 วันในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 จะมีการโปรดเกล้าฯใด เราไปเดาไม่ได้ เป็นพระราชอำนาจ อย่าไปบังอาจเดาทีเดียว รู้แต่ว่าถ้าใช้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2564 ไทม์ไลน์ก็เร็วขึ้น แต่ถ้าใช้ ถ้าใช้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติฉบับใหม่ และลงมาก่อนวันที่ 3 พฤศจิกายนไทม์ไลน์ก็เปลี่ยน สภาจะมีเวลามากขึ้นอีกเดือน
นายบวรศักดิ์กล่าวว่าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องรัฐบาลสนับสนุนหรือไม่สนับสนุน หากจะถามเรื่องเนื้อหาการเมือง ให้ไปถามพรรคการเมือง หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) วุฒิสภา
ยันหน้าที่รบ.ขอประชามติ เปรย2คำถาม
“รัฐบาลมีหน้าที่เดียวคือ เมื่อร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญผ่านรัฐสภาแล้ว รัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญบังคับให้รัฐบาลต้องไปขอประชามติว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ คำถามแรกเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และคำถามที่สอง เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับรูปแบบ ขั้นตอนกระบวนการและหลักการพื้นฐานที่ปรากฎในร่างรัฐธรรมนูญที่ส่งมานี้หรือไม่ ถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่เสร็จประชามติก็เหลือคำถามเดียวคือ เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ส่วนคำถามที่สอง จะทำได้ต่อเมื่อรัฐสภาเห็นชอบรัฐธรรมนูญแล้ว”นายบวรศักดิ์ ย้ำ
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีครบ 90 วัน แล้วยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติฉบับใหม่ลงมา จะเป็นอย่างไร นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ถ้า 90 วัน ไม่มีการพระราชทานลงมา เป็นเรื่องที่สภาต้องประชุมกันตามมาตรา 146 ของรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม อย่าไปตั้งสมมติอย่างนั้น รอความจริงก่อน และจากสถิติที่ผ่านมาส่วนใหญ่โปรดเกล้าฯลงมาทั้งหมด เว้นแต่มีข้อขัดข้องทางเทคนิคเช่นผิดพลาดทางถ้อยคำ
อย่าห่วงร่างส้มแตะหมวด1-2 รอดูวาระ3
เมื่อถามถึงกรณีที่สภาเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคปชน.เป็นร่างหลักมีความกังวลจะเปิดโอกาสให้แก้หมวด 1 และหมวด 2 นั้น นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดูร่างที่สภาผ่านในวาระ 3 ส่วน วาระ 1 และ 2 ไม่สำคัญ เพราะกว่าจะถึงวาระ 3 จะแก้อะไรก็แก้ได้ หมวด 1 หมวด 2 ที่กังวลว่าจะขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ต้องดูร่างสุดท้ายที่สภาลงมติในวาระที่ 3
ถ้ามียื่นตีความ-ทำประชามติไม่ได้
เมื่อถามถึงกรณีมีการไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ถ้ามีการร้องศาลรัฐธรรมนูญ และอยู่ระหว่างการวินิจฉัย จะเอาเนื้อหารัฐธรรมนูญไปทำประชามติในวันที่ 29 มีนาคม ไม่ได้ จะถามได้เพียงคำถามเดียวว่าเห็นชอบให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่
แนะเลือกสสร.ใช้เลือกตั้งโดยอ้อม
เมื่อถามถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ให้มีการเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.)โดยตรงจากประชาชน จะทำอย่างไรให้ยึดโยงประชาชน นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า มีหลายทาง ศาลบอกไม่ให้เลือกตั้งโดยตรงก็ใช้เลือกตั้งโดยอ้อม ส่วนที่มีวิจารณ์ว่าศาลวินิจฉัยเกินคำขอนั้น การห้ามศาลตัดสินเกินคำขอนั้นใช้ในกฎหมายแพ่งและกฎหมายอาญาซึ่งเป็นเรื่องบุคคล แต่จะมาใช้ในกฎหมายไม่ได้ เพราะกฎหมายมหาชนคุ้มครองสิทธิสาธารณะ เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก MOA มีการเปลี่ยนแปลง จะกระทบกับไทม์ไลน์แก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าMOAไม่เปลี่ยน ซึ่งไม่แน่ เพราะเหตุการณ์ทางการเมืองทั้งหมดเราไม่รู้ สื่อก็รู้ว่าการเมืองมันเปลี่ยนทุกวัน ไม่ได้เปลี่ยนทุกเดือน แต่วันนี้ก็คืออย่างนี้ ยังไม่มีเหตุให้เปลี่ยน
เช็คโหวตร่างปชน.เฉือนภท.3เสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่ที่ประชุมร่วมรัฐสภาลงคะแนนจะใช้ร่างรัฐธรรมนูญของพรรคใดเป็นร่างหลักในการพิจารณาชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญโดยร่างรัฐธรรมนูญฉบับพรรคประชาชนได้รับคะแนน 292 คะแนน ขณะที่ร่างของพรรคภูมิใจไทยได้รับคะแนน 295 คะแนน เฉียดฉิวกันเพียงแค่ 3 คะแนนนั้น ทำให้สมาชิกรัฐสภาขอให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาซึ่งทำหน้าที่ประธานขณะนั้น นับคะแนนใหม่ ผลปรากฏว่าที่ประชุมได้ดำเนินการลงมติแบบขานชื่อตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับพรรคปชน. เป็นของพรรคฝ่ายค้านได้รับคะแนนสนับสนุนมากกว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับของพรรค ภท. ซึ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล ด้วยคะแนน 300 ต่อ 287
เสียง27สว.ร่วมโหวตหนุนร่างปชน.
จากตรวจสอบ พบข้อมูลว่าเสียงที่ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญจากฝ่ายค้านชนะมาจากเสียงของพรรคปชน.พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคประชาชาติ (ปช.) เป็นธรรม(ปธ.)พรรคไทรวมพลัง (ทร.) พรรคชาติพัฒนา(ชพน.)นอกจากนี้ ยังมีเสียงของ สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่และกลุ่มสีขาว อีก 27คน ให้การสนับสนุน อาทิ นายชิบ จิตนิยม นายชูชีพ เอื้อการณ์ นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร น.ส.นันทนานันทวโรภาส นางประทุม วงศ์สวัสดิ์ นายประภาส ปิ่นตกแต่ง นาวาตรีวุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ นายเศรณี อนิลบลพล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง นางอังคณา นีละไพจิตร นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ และนายพรชัย วิริยะเลิศพันธ์ เป็นต้น
สส.เสียงหายอื้อ-สว.37คนไม่ลงมติ
สำหรับผู้ที่ไม่ลงมติในรอบการขานชื่อพบว่ามีหลายพรรคที่น่าสนใจ เริ่มตั้งแต่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)หายยกพรรคทั้ง 10 คน ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)15 คน อาทิ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ นายชัยชนะ เดชเดโช และ นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รวมถึงตระกูลขาวทอง จากสงขลาทั้ง 3 คน
พรรคกล้าธรรม (กธ.) หาย 3 คน ได้แก่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอรรธกร ศิริลัทธยากร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงนายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หาย 9 คน เช่น นายชัชวาล คงอุดม สส.บัญชีรายชื่อ พันโทสินธพ แก้วพิจิตร สส.นครปฐม นายอนุชา นาคาศัย สส.บัญชีรายชื่อ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง สส.บัญชีรายชื่อ น.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นต้น
ทั้งนี้จะมีสส.ขาดการประชุมและไม่มาลงมติเป็นขาประจำ ได้แก่ ร.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพท. และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
ส่วนสว.ที่ไม่ลงมติในรอบขานชื่อ มีจำนวน 37 คน หลายคนเป็นสว.สีน้ำเงินอาทิพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ นายอลงกต วรกี นายกมล รอดคล้าย นายพิศูจน์รัตนวงศ์ นายยะโก๊ป หีมละ นายเตชสิทธิ์ ชูแก้ว นอกจากนี้ยังมีสว.กลุ่มอื่นๆที่ไม่ร่วมลงมติ อาทิ นายบุญส่ง น้อยโสภณ นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย นายนพดล อินนา นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา นายมานะ มหาสุวีระชัย
‘พริษฐ์’โล่งร่างปชน.ผ่านวาระ 1
นายพริษฐ์ วัชสินธุ สส. พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า...ผมเพิ่งได้กลับถึงบ้านจากธุระทั้งหมดในวันนี้จึงขออนุญาตบันทึกความรู้สึกต่อเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในรัฐสภาในมุมหนึ่งวันนี้เป็น#ก้าวแรกที่สำคัญ ที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15/1 เกี่ยวกับกลไกในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สามารถผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาในวาระที่ 1 ไปได้ ซึ่งทำให้ความพยายามในการออกแบบระบบการเมืองที่ตอบโจทย์ประชาชนผ่านรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และการจัดประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญพร้อมกับการเลือกตั้งในต้นปี 2569 ยังคงเดินหน้าไปต่อได้
แต่ในอีกมุมหนึ่ง วันนี้เป็นเรื่อง #น่าผิดหวัง ที่รัฐสภามีมติรับหลักการเพียง2จาก 3 ร่าง (โดยปัดตกร่างที่เสนอโดยพรรคเพื่อไทย)เพราะผลลัพธ์ดังกล่าวไม่เพียงแต่สะท้อนการลงมติที่ทำความเข้าใจได้ยากในเชิงตรรกะเนื่องจากหลักการของ 3 ฉบับ มีความใกล้เคียงกัน แต่ผลลัพธ์ดังกล่าวยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่ดีนักในการสร้างบรรยากาศของการแสวงหาความร่วมมือและฉันทามติซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ขอบคุณสภายึดร่างปชน.เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอ#ขอบคุณจากใจจริง เพื่อนๆ สส. และสว.จากหลายภาคส่วน ที่ร่วมกันลงมติสนับสนุนให้ร่างที่เราพรรคประชาชนเสนอ ถูกใช้เป็น“ร่างหลัก”ในการพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการ รวมถึง สส. พรรคเพื่อไทย ที่หันมาสนับสนุนร่างของพรรคประชาชนอย่างแข็งขัน เนื่องจากมีจุดร่วมหลายประการกับร่างของพรรคเพื่อไทย
ยันลุยถกกมธ.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่
หลังจากนี้ผมและตัวแทนจากพรรคประชาชนทั้ง9คนจะเดินหน้า#ทำงานหนัก ต่อไปในชั้นคณะกรรมาธิการร่วมกับสส.จากทุกพรรคและสว.เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เราจะกลับมานำเสนอต่อรัฐสภาในวาระที่2และ3ก่อนสิ้นปี โดยเราจะทำเต็มที่เพื่อให้กลไกในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ (1) เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมได้มากที่สุด โดยไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญและ(2)ป้องกันความเสี่ยงที่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะถูกผูกขาดโดยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
‘ช่อ’ลั่นการต่อสู้เพิ่งเริ่มต้น-หวังร่วมมือ
ด้านน.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์แชร์ภาพที่ระบุโควทคำพูดของตนตอนหนึ่งว่า”ขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่โหวตให้ร่างพรรคประชาชน เป็นร่างหลัก จากนี้ไปช่วยกันผลักดันร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริงกัน”
โดยได้ระบุแคปชั่นเพิ่มเติมว่า “ภารกิจร่วมจากนี้ คือร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปลดพันธนาการประเทศจากมรดก คสช. การต่อสู้เพิ่งเริ่มต้น ต้องมีการเจรจา ต่อรอง ถกเถียงกันอีกมากในชั้นกรรมาธิการ ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วง 2 เดือนนับจากนี้ หวังว่านักการเมืองทุกพรรคจะร่วมมือกัน เดินหน้าการร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยให้ประชาชนได้เลือกผู้ร่างด้วยตัวเอง เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นกฎหมายของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง”
สว.ยอมรับได้เป็นกลไกปชต.
ด้านนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.)ให้สัมภาษณ์ถึงภายหลังที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติรับหลักการร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับที่ พ.ศ… โดยใช้ร่างของพรรคประชาชนเป็นร่างหลักในการพิจารณาในขั้นแปรญัตติของคณะกรรมาธิการว่าต้องยอมรับว่าตามกติการัฐสภา ในระบบประชาธิปไตย เมื่อเสียงของร่างพรรคประชาชนมากกว่าร่างของพรรคภูมิใจไทยก็ยอมรับได้ เพราะเป็นกติกาประชาธิปไตย
สว.ชี้ประเด็นสุ่มเสี่ยงถกชั้นกมธ.
เมื่อถามว่ามีบางส่วนกังวลว่าร่างของพรรคประชาชนจะเปิดทางให้ไปแตะหมวด 1 หมวด 2 นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า อย่างที่ตนอภิปรายซึ่งห่วงอยู่ 6 ประเด็น ตนจะเข้าไปเป็นกรรมาธิการร่วมด้วยจะพยายามไม่ให้ความสุ่มเสี่ยงที่ขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องคุยกันในกมธ.ว่าเขาพอจะแก้ไขหรือปรับปรุงตรงไหนได้บ้าง ต้องไปว่ากันในวาระ 2
เมื่อถามว่าหากตกลงในกมธ.ไม่ได้แล้วเนื้อหาสุดโต่งมากเกินไปจะเปิดช่องให้คนไปร้องได้หรือไม่ นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า ตราบใดที่อยู่ในวาระ2ยังอยู่ในขั้นการพิจารณา ตนมีอำนาจสงวนคำแปรญัตติ แล้วไปว่ากันในวาระ 3 ซึ่งวาระ3จะเป็นวาระตัดสินว่าจะรับร่าง หน้าตาเป็นอย่างไรได้หรือไม่
ยันไม่ลากปชน.เข้าเกมการเมือง
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนก็รู้สึกแปลกใจได้ผ่านเป็นร่างหลักและกังวลว่าจะโดนหลอกเข้าไปในเกมอะไรหรือไม่ นายพิสิษฐ์ร้อง“โห ไม่มีหรอก ในความคิดเห็นผมมันไม่มีโดนหลอก จริงๆต้องตามกติกาของประชาธิปไตย”
นายพิสิษฐ์กล่าวว่า พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยก็โหวตสนับสนุนเลยชนะไปซึ่งท่าทีของ สว.เอาจริงๆก็เห็นตามที่โหวต ไม่ได้คุยอะไรกัน เสียงโหวต จะเห็นว่าส่วนใหญ่โหวตให้ร่างของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี