‘พริษฐ์’เผย 20 ต.ค.ประชุมกมธ.แก้รธน. ลั่นประธานฯต้องของ‘ส้ม’ มั่นใจฝ่าด่าน‘สว.’ได้

‘พริษฐ์’เผย 20 ต.ค.ประชุมกมธ.แก้รธน. ลั่นประธานฯต้องของ‘ส้ม’ มั่นใจฝ่าด่าน‘สว.’ได้

วันศุกร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 15.43 น.

‘พริษฐ์’เผยเตรียมประชุมกมธ.ฯแก้รธน. 20 ต.ค.นี้ ลั่นเก้าอี้‘ประธานกรรมาธิการฯ’ควรเป็นของ‘พรรคส้ม’เพราะเป็นร่างหลัก ชี้ตัวแปรสำคัญคือ‘พ.ร.บ.ประชามติ’ที่ยังไม่ประกาศใช้ ย้ำที่มา‘ส.ส.ร.’ไม่ขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ หาก 3 พรรคหนักแน่นไม่มีใครไปร้องได้ ไม่หวั่นหากถูกตีตก‘วาระ 3’เชื่อแจง‘สว.’ได้

17 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ในฐานะผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพิ่มเติมหมวด 15/1 ในนามพรรคประชาชน ซึ่งเป็นร่างหลักการพิจารณา ในชั้นคณะกรรมาธิการฯ ว่า การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ นัดแรกจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 20 ต.ค. 68 เวลา 14.00 น. โดยจะพิจารณาเรื่องกรอบระยะเวลาเป็นหลัก เพราะกรรมาธิการต้องทำงานอย่างเต็มที่ให้เสร็จสิ้นภายใน 2 เดือน เพื่อส่งกลับมายังสภาพิจารณาต่อในวาระ 2 และ วาระ 3 ให้ทันตามกรอบเวลาและทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งได้ทัน


นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวคิดว่าการพิจารณาจะดำเนินไปด้วยดี ต้องเอาประเด็นทั้งหมดที่แต่ละฝ่ายเห็นต่างกันมาแลกเปลี่ยนความเห็นและหาข้อสรุปในแต่ละประเด็นในแต่ละประเด็นก่อน แล้วค่อยพิจารณาข้อความในแต่ละมาตราว่าจะต้องปรับปรุงหรือไม่ ส่วนการเสนอชื่อประธานกรรมาธิการฯ นายพริษฐ์ มองว่า เมื่อใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชนเป็นร่างหลักประธานก็ควรมาจากพรรคประชาชน แต่จะได้รับเลือกหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุม

เมื่อถามว่าหากตำแหน่งประธานมีการแข่งขันกันจะมีข้อยุติอย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่าจะมีพรรคอื่นเสนอชื่อหรือไม่ แต่ในมุมของพรรคประชาชนก็ย้ำว่า ในเมื่อร่างพรรคประชาชนเป็นร่างหลักก็เหมาะสมที่พรรคประชาชนจะนั่งเป็นประธาน ซึ่งจะมีการเสนอชื่อนายณัฐวุฒิ บัวปทุม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน  ถ้าเกิดมีพรรคอื่นเสนอเข้ามาด้วย ก็ต้องลงมติแต่เชื่อว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำงาน สิ่งที่สำคัญกว่าตัวประธานคือเนื้อหาสาระเพราะมีหลายประเด็นที่ยังเห็นต่างกันอยู่ ดังนั้นจึงต้องหาข้อสรุปในประเด็นที่เห็นต่างให้เร็วที่สุด

“ไม่ว่ารัฐสภาจะเห็นชอบร่างแบบไหนออกมา ก็ต้องไปถามประชาชนในการทำประชามติ ถ้าหากร่างที่ทำมาไม่ตอบโจทย์ประชาชนก็มีโอกาสที่จะไม่ผ่านประชามติ จึงอยากให้สมาชิกรัฐสภาตระหนักว่าควรมีร่างที่ประชาชนจะเห็นชอบด้วย” นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ตัวแปรสำคัญตอนนี้คือ พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประชามติฉบับใหม่ ว่าจะโปรดเกล้าฯหรือไม่ตนมองว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่โปรดเกล้าฯ ซึ่งเราจะรู้อย่างชัดเจนในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ถ้ามีการโปรดเกล้าฯลงมา ก็จะทำให้เป็นไปตามไทม์ไลน์ คือ ผ่านวาระ 3 ช้าสุดกลางเดือน ม.ค. 2569 แต่เราอยากให้ผ่านภายในปลายเดือน ธ.ค. 2568 ซึ่งแปลว่าวาระ 2 จะต้องเข้ากลางเดือนธ.ค. ถ้าเป็นเช่นนั้นกรรมาธิการจะมีเวลาพิจารณา 2 เดือนเต็ม แต่ถ้าเร็วกว่านั้นได้ก็ดี

เมื่อถามถึงคำถามประชามติ นายพริษฐ์ กล่าวว่า คำถามไม่มีอะไรที่ซับซ้อน ถ้าหากร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังพิจารณากันอยู่ผ่านวาระ 3 ประชามติรอบแรกก็จะมี 2 คำถาม ซึ่งถูกกำหนดไว้ในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ดังนั้นคำถามไม่มีอะไรที่ซับซ้อนแต่เวลานี้ สิ่งที่สำคัญ คือให้เรามีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15/1 ผ่านวาระ 3 ได้ทันและมีเนื้อหาที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน

เมื่อถามถึงข้อกังวลการได้มาซึ่ง สสร. ที่อาจขาดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อาจทำให้มีคนไปยื่นร้องต่อศาลแล้วทำให้กระบวนการล่าช้า นายพริษฐ์ กล่าวว่า ก่อนวันที่ 10 ก.ย. ซึ่ง3 พรรคหลัก เห็นตรงกันเรื่อง สสร. ที่มาจากการเลือกตั้ง แต่การที่ สสร. มาจากการเลือกตั้งไปต่อได้ยากเพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นถ้าทุกคนรักษาจุดยืนเดิมควรจะพยายามทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุดโดยไม่ขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

นายพริษฐ์ กล่าวว่า พรรคประชาชนยืนยันว่า สิ่งที่เสนอไม่ได้ขัดคำวินิจฉัยของศาลเพราะศาลระบุเพียงแค่ว่า "ไม่ให้ประชาชนเลือกผู้ร่างโดยตรง" เราจึงเลือกผู้ร่างโดยอ้อม จึงคิดว่าไม่มีอะไรที่ขัดคำวินิจฉัยของศาลแต่ทั้งนี้ก็ต้องรับฟังความเห็นอีกครั้งหนึ่ง  ส่วนจะมีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้นเรื่องนี้ไม่ใช่ว่าใครจะเดินไปร้องก็ได้จะต้องมี 2 ขั้นตอน 1. ต้องอาศัยมติเสียงข้างมากของรัฐสภา ถ้าหากไม่ได้มติตรงนี้ใครจะไปร้องได้ จึงควรใช้กลไกของฝ่ายนิติบัญญัติและกรรมาธิการมาช่วยกันตรวจสอบให้เนื้อหารอบคอบ และวินิจฉัยกันว่าขัดหรือไม่ขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างไร และ 2. หากผ่านวาระ 3 ไปแล้ว สส.หรือ สว. มีสิทธิ์ไปร้องได้โดยอาศัยเสียง 1 ใน 10 แต่นั่นคือปลายทางแล้วแต่เมื่อถึงจุดนั้นหวังว่าทุกคนจะเห็นตรงกันว่าไม่มีอะไรที่ขัดคำวินิจฉัยของศาล

"ผมเข้าใจด้วยระบบการเมืองที่เราอยู่แบบนี้ ภายใต้รัฐธรรมนูญ 60 ทำให้หลายคนกังวลใจ ยืนยันว่าเรื่องการร้องแต่ผมยืนยันว่า ถ้าทั้ง 3 พรรคหนักแน่นว่าไม่ร้องก็ไม่มีใครร้องได้" นายพริษฐ์ กล่าว

เมื่อถามถึงข้อกังวลเรื่องหมวด 1 หมวด 2 อาจทำให้ถูกคว่ำในวาระ 3 ได้นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภาและกรรมาธิการ ที่จะต้องหารือวาจะระบุไว้เหมือนรัฐธรรมนูญปี 60 หรือไม่ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับข้อกล่าวหาที่ระบุว่า การเปิดให้พิจารณาหมวด 1 หมวด 2 ได้เท่ากับการล้มล้างการปกครอง เพราะ รัฐธรรมนูญปี 60 ก็เปิดให้สามารถแก้ไขถ้อยคำในหมวด1 หมวด2 ได้ แต่จะต้องไปทำประชามติก่อน ดังนั้นมีความเห็นต่างกันได้แต่ไม่มีส่วนไหนที่เข้าข่ายการล้มล้างการปกครองเราต้องคุยกันด้วยเหตุผล ทั้งนี้หากในอนาคตรัฐธรรมนูญหมวดอื่น ๆ มีการปรับปรุงเนื้อหาอาจต้องปรับปรุง บางถ้อยคำในหมวด 1 หมวด 2 เพื่อให้สอดคล้องกับหมวดอื่น ๆ ซึ่งจะไม่กระทบสาระสำคัญระบอบการปกครอง ในรูปแบบรัฐ แต่อย่างใดซึ่งถูกล็อคไว้อยู่แล้วเพียงแต่ทำให้เนื้อหาในแต่ละหมวดสอดรับกันเท่านั้น จึงเห็นว่าไม่ควรหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็น เพื่อมาโจมตี

เมื่อถามว่าในวาระ 3 ต้องอาศัยเสียงของ สว. มั่นใจในร่างที่กรรมาธิการ ทำออกมาว่าสว.จะให้ความเห็นชอบหรือไม่นายพริษฐ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการชุดนี้ แน่นอนว่าวาระ 3 ต้องอาศัยเสียง สว. แต่เราก็ต้องตอบสังคมให้ได้ว่าหากร่างผ่านวาระ 3 แล้ว เนื้อหาในร่างประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่ ก็ต้องหาสมดุลให้ดีในทุกประเด็นตนเชื่อว่ากรรมาธิการจะทำด้วยเหตุและผล และเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำความเข้าใจกับสว.โดยตรง

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top