‘ใจผมไม่เคยไปไหน’/ฉลุยนั่งหน.ไร้คู่แข่ง
‘มาร์ค’คืนรังปชป.
ขอผนึกคนรุ่นใหม่-รุ่นเก่าสู้
‘ชัยวุฒิ’ผงาดนั่งเลขาฯพรรค
‘ชัยชนะ’คุมใต้/‘สกลธี’ดูกทม.
‘ชวน’รับอาจไม่ฟื้นได้ทันที
ประชุมใหญ่ประชาธิปัตย์คึกคัก! โหวตหนุน “อภิสิทธิ์” นั่งหัวหน้าพรรคด้วยคะแนนท่วมท้น พร้อมเปิดใจ “ผมไม่เคยไปไหน” ขอบคุณสมาชิกมอบความไว้วางใจ รับหนักใจในช่วงที่เวลาจำกัด จะเติมกำลังให้พรรคยังไง ลั่นต้องเร่งผนึกคนรุ่นใหม่รุ่นเก่าขับเคลื่อนพรรค ตั้ง 8 รองหัวหน้าฯตามภารกิจ-“ชัยวุฒิ” นั่งเลขาฯ “ชวน” เชื่อ “อภิสิทธิ์” กลับมาคนส่วนใหญ่ ให้กำลังใจ ชี้เป็นคนมีพื้นฐานเป็นนักการเมือง ไม่ใช่นักธุรกิจการเมือง เข้ามาหาผลประโยชน์ รับอาจไม่ฟื้นศรัทธาพรรคได้ปุ๊บปั๊บ
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 ตุลาคม 2568 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ หลักสี่ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีสมาชิกพรรค อดีต ส.ส.ที่ลาออกไปแล้ว ได้ย้ายกลับมาสังกัดอีกครั้ง ทยอยเดินทางเข้าร่วมประชุมที่จะเริ่มขึ้นในเวลา 09.30น.
โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แคนดิเดตหัวหน้าพรรคเดินทางถึงในเวลา 08.35น.พร้อมกับ ว่าที่คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่(กก.บห.)นางการดี เลียวไพโรจน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอนาคตศาสตร์และสินทรัพย์ดิจิทัล ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมืองว่าที่โฆษกพรรคและนายวีระพงษ์ ประภา อดีตผู้แทนการค้าไทยที่มาเสริมพรรคใหม่
ทันทีที่นายอภิสิทธิ์มาถึงห้องประชุมได้เดินทักทายสมาชิกพรรคที่เป็นคนรุ่นเก่ารุ่นใหม่และยังมีองค์การนักศึกษารามคำแหง มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจและยังมีสมาชิกพรรคบางส่วนเข้ามาสวมกอดและยืนยันกับนายอภิสิทธิ์ว่าจะให้การสนับสนุนเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ได้กลับมาพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า“ใจไม่เคยไปไหน”
เลือดเก่า-เก๋าพร้อมหน้าพรึ่บ
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้เดินทักทายสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์รวมไปถึงแกนนำที่เคยร่วมอุดมการณ์กันมา อาทินายสาทิตย์ วงหนองเตย นายสกลธี ภัทธิยกุล นายกรณ์ จาติกวณิช นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เป็นต้น ซึ่งภายในห้องประชุมก็ยังมีสมาชิกหลายคน ชูป้ายสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่
ด้าย นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วย นายสุรบถ หลีกภัย บุตรชาย อดีต สส.บัญชีรายชื่อได้เดินทางมาถึง และเยี่ยมชมนิทรรศการภาพวาด”ชาวประชาธิปัตย์”จากลายเส้น..ชวน หลีกภัย โดยนายสุรบถได้กล่าวชมภาพวาดของนายชวนว่า ลายเส้นสวย
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ลาการประชุม ขณะที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการเลขาธิการพรรคได้เดินทางมาร่วมประชุมแล้ว และเป็นที่น่าสังเกตว่ามีอดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในยุคของนายอภิสิทธิ์ได้กลับมาสมัครสมาชิกพรรคอีกครั้ง ซึ่งบรรยากาศโดยรวมในการประชุมครั้งนี้มีความคึกคักมากเป็นพิเศษ
เชื่อคนส่วนใหญ่ให้กำลังใจ
นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ให้สัมภาษณ์ ก่อนการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ ถึงความคาดหวังในการประชุมวันนี้ ว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร คนส่วนใหญ่อยากให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้กลับมา ส่วนคณะกรรมการบริหารก็แล้วแต่ท่านจะพิจารณา สำหรับภารกิจที่จะให้พวกเราช่วยสนับสนุนนั้น ก็คิดว่าคงจะไม่น่ามีปัญหาอะไร
ส่วนเชื่อว่าจะสามารถฟื้นศรัทธาประชาชนได้หรือไม่นั้น นายชวน กล่าวว่าคงไม่ใช่เปิดปุ๊บติดปั๊บ ในเรื่องของความเชื่อมั่นแต่เท่าที่ติดตามส่วนใหญ่ชาวบ้านก็ดีใจ ยกเว้นสื่อที่วิจารณ์ สมมติว่าหากมีความเปลี่ยนแปลง นายอภิสิทธิ์กลับมา ส่วนใหญ่ก็จะให้กำลังใจ และหวังว่าจะได้กลับมาสนับสนุนพรรค แต่ผมขอเรียนว่าต้องช่วยสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ ที่ตนย้ำคำว่าไม่ใช่เปิดปุ๊บติดปั๊บเพราะไม่ใช่พอเปลี่ยนหัวหน้าปุ๊บ ทุกอย่างจะดีขึ้นหมดมันไม่ใช่อย่างงั้น ต้องใช้เวลาทำงาน
“แต่นายอภิสิทธิ์ ก็เป็นคนที่มีบทบาท มีพื้นฐานเป็นนักการเมือง ไม่ใช่นักธุรกิจการเมือง ไม่ได้เข้ามาเพื่อหาผลประโยชน์ ไม่มีธุรกิจแอบแฝง ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้ผมเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ประชาชนโดยทั่วไปที่ติดตามบทบาทพรรคการเมืองก็จะเห็นว่าประชาธิปัตย์ที่อยู่มาเกือบจะ80ปีแล้วที่ดำรงอยู่ได้ ไม่ใช่เพราะมีเงินซื้อ มีอำนาจ แต่อยู่ได้โดยการยึดความชอบธรรม ถูกต้อง นี่คือ สิ่งสำคัญ”นายชวน ย้ำ
“จุรินทร์”หวังปชป.ลุยอย่างเข้มแข็ง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมใหญ่ในวันนี้ว่า เราผ่านกระบวนการเลือกกรรมการบริหารบริหารพรรคมาแล้วยุคหลายสมัย ถือเป็นมิติประชาธิปไตยภายในพรรค ฉะนั้น ประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่ดำรงสิ่งนี้มายาวนานทุกคนเข้าใจภารกิจของตัวเองดีซึ่งหลังการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเราก็หวังว่าพรรคจะเดินไปข้างหน้าเป็นก้าวอีกก้าวที่จะเดินไปสู่เป้าหมาย ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เข้มแข็งเป็นสถาบันยิ่งขึ้น
“ผมเชื่อว่าสมาชิกทุกคนต้องหวังอย่างนั้น ผม นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้หารือกันอยู่ตลอดและพยายามทำหน้าที่เป็นหลัก ให้กับพรรคในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเพื่อให้พรรคดำรงอยู่คู่กับการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประเทศหวังว่าวันนี้จะเรียบร้อยและเป็นไปด้วยดีประชาธิปัตย์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการเมืองในประเทศต่อไป”นายจุรินทร์ ย้ำ
‘อภิสิทธิ์’นั่งหน.ปชป.ไร้คู่แข่ง
จากนั้น เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กทม.พรรคประชาธิปัตย์จัดประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)ชุดใหม่ โดยมี สส.อดีตสส. อดีตรัฐมนตรีและสมาชิกพรรค เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง
เมื่อเข้าสู่วาระการเลือกหัวหน้าพรรค นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้แสนอชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคคนที่ 7ขึ้นไปเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ แบบไร้คู่แข่ง
จากนั้นให้สมาชิกได้หย่อนบัตรลงคะแนนเสียงตามขั้นตอนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง แบ่งเป็นสส.40เปอร์เซนต์ และอดีตสส. 40 เปอร์เซนต์ และสาขา สมาชิกพรรค 20เปอร์เซ็นต์ ผลปรากฏว่านายอภิสิทธิ์ได้รับเลือก 96.1810 เปอร์เซนต์ ท่ามกลางเสียงปรบมือลั่นห้องประชุม
‘มาร์ค’เปิดใจขอบคุณสมาชิกไว้วางใจ
เมื่อเวลา11.20น. นายอภิสิทธิ์ลุกขึ้นกล่าวเปิดใจภายหลังได้รับการโหวตให้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่าสิ่งแรกต้องขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมประชุมวันนี้อย่างพร้อมเพรียงและมอบความไว้วางใจให้กับตนอีกครั้ง
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ตอนเดินเข้ามาสื่อมวลชนถามตนว่ารู้สึกอย่างไรที่กลับมาบ้าน ตนตอบสั้นๆว่า“ใจผมไม่เคยไปไหน”ตั้งแต่ที่มีเพื่อนสมาชิกหลายคนมาคุยกับตนให้กลับมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค สิ่งที่ตนหนักใจที่สุดคือเวลาที่จำกัด ตนจะเติมกำลังให้กับพรรคเราได้อย่างไรฉะนั้น ตนใช้เวลาเกือบทั้งหมดที่ผ่านมา เชิญชวนคนใหม่ๆเพื่อเข้ามาอยู่กับพรรค
“ผมต้องการให้ศิษย์ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่าผสมผสานกันขับเคลื่อนพรรค ตั้งแต่ตนทำงานมา เพื่อร่วมงานผมอายุมากกว่าผมตลอด ผมเลยขอว่า เที่ยวนี้ขอให้มีหลายๆคนอายุน้อยกว่าผมบ้าง ผมจะได้เป็นคนที่มีผมสีขาวอยู่คนเดียว ดังนั้นผมต้องเสนอชื่ออีกหลายคน ที่ไม่ได้เป็นองค์ประชุม บางคนต้องยกเว้นคุณสมบัติ จึงขอประธานที่ประชุมว่า เมื่อตนเอ่ยชื่อ จะให้ท่านนั้นมาแสดงตัวตามข้อบังคับพรรคฯ เพราะผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อต้องอยู่ในที่ประชุม”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ตั้ง8รองหน.ตามภารกิจ-ชัยวุฒิเลขาฯ
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ได้เสนอชื่อรองหัวหน้าพรรคตามภารกิจ 8 คน ได้แก่ 1.นายกรณ์ จาติกวณิช ดูแลด้านนโยบาย 2.นางการดี เลียวไพโรจน์ ดูแลด้านเศรษฐกิจดิจิทัล 3.นายจุรี นุ่มแก้ว ดูแลด้านการสื่อสารองค์กร 4.นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี ดูแลด้านสตรี เยาวชนและความยั่งยืน 5.นายวีระพงษ์ ประภา ดูแลด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ 6.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ดูแลยุทธศาสตร์การเมืองและการประสานงานกับภาคประชาชน 7.นายอิสรา สุนทรวัฒน์ ดูแลด้านการต่างประเทศ 8.นายอัมพร พินะสา ดูแลด้านการศึกษา
ขณะที่เลขาธิการพรรคคือ นายชัยวุฒิ บรรณาวัฒน์ ภายหลังนายอภิสิทธิ์เสนอรองหัวหน้าตามภารกิจ เป็นการลงคะแนนเลือกรองหัวหน้าตามภารกิจ ตามที่นายอภิสิทธิ์เสนอ
ขอบคุณปชป.ให้โอกาสรับใช้ปชช.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์โพสต์เฟซบุ๊กภายหลังจากที่ประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคประชาธิปัตย์ ลงมติเลือก ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ โดยระบุ “ขอบคุณพี่น้องประชาธิปัตย์ที่ให้โอกาสกลับมาทำงานรับใช้ประชาชนครับ”
นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ที่ตนกลับมาเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ว่า รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาสู่พรรคเริ่มต้นชีวิตทางการเมือง ตนก็เป็นหนึ่งคนที่เชื่อในศักยภาพของประเทศมาตลอดว่าชีวิตคนไทยต้องดีขึ้นได้ แต่ก็ตระหนักว่าจะเป็นไปได้ทั้งหมดนี้การเมืองต้องดีขึ้นเพราะปัญหาใหญ่ๆต้องแก้ด้วยการเมือง เพราะฉะนั้นเมื่อมีสัญญาณชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการที่จะกลับมาเป็นการเมืองที่ดี ที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ ตนจึงเป็นคนหนึ่งที่พร้อมที่จะกลับมามีส่วนร่วม
ทีมบริหารผสมผสานคนรุ่นเก่า-ใหม่
“คนอย่างผมแม้แต่รุ่นน้องอย่างนายสกลธี ภัททิยกุล หรือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผมคิดว่าสิ่งที่เรามีคือเรามีประสบการณ์ แต่เราก็ตระหนักว่าคนที่เราขาดคือความรู้ของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราก็เลยตั้งใจว่าการกลับมาของเราครั้งนี้กลับมาเพื่อที่จะเป็นกำลังให้กับคนรุ่นใหม่ๆที่จะเข้ามาในพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขับเคลื่อนพรรคแก้ปัญหาอขงประเทศได้ ตามความคาดหวังของประชาชน และความตั้งใจของเรา”นายกรณ์ กล่าว
นายกรณ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เราจะเห็นว่าจากโครงสร้างทีมบริหารที่จะเป็นการผสมผสานระหว่างคนที่มีประสบการณ์และคนรุ่นใหม่ แต่เพียงวันนี้ยังไม่พอ บอกได้เลยว่าจากวันนี้เป็นต้นไปเรามีความจำเป็นที่จะต้องเปิดรับ ทั้งในแง่ของผู้สมัครในอนาคต ทีมงาน ประชาชนที่มีความรู้ที่อาจจะมีข้อเสนอแนะ คำแนะนำที่ดีให้พรรค เราจะจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะเปิดรับข้อคิดเห็นจากทุกๆคน และเดินหน้าไปด้วยกัน เพราะเราเชื่อว่าในแง่ความหลากหลาย ประสบการณ์ของคนรุ่นใหม่ กับความรู้ความตั้งใจของคนรุ่นใหม่ เราสามารถที่จะทำให้การเมืองดีขึ้นไป และนำไปสู่โอกาสของประชาชนที่ดีขึ้นได้
จัดทัพ 5รองหน.ดูแลพื้นที่แต่ละภาค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงบ่าย ที่ประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังจากเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่และรองหัวหน้าพรรค 8 ตำแหน่งแล้ว ได้มีการเลือกรองหัวหน้าพรรครายภาค เพื่อให้สมาชิกลงคะแนน โดยผลปรากฎว่า นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร ได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าภาคเหนือ นายธนพร สมศรี รองหัวหน้าภาคอีสาน นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าภาคใต้ นายสกลธี ภัททิยกุล รองหัวหน้า กทม.
ขณะที่ภาคกลาง มีการเสนอชื่อแข่ง 2 คน คือนายสาธิต ปิตุเตชะ และนายเมฆินทร์ เอี่ยมสะอาด แต่สุดท้ายเมื่อลงคะแนน นายสาธิตได้ 35 %ส่วนนายเมฆินทร์ได้ 65%ได้เป็นหัวหน้าภาคกลาง
“สุขุม”เชื่อปชป.ยังไม่ฟื้น
ขณะที่ นายสุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงกล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมานั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งและมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่วันนี้ทำให้มีความหวังในสนามเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ว่า น่าจะดีกว่าเก่า ดีกว่าสมัยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรค แต่จะหวังคืนสู่สภาพเดิม เป็น 1 ใน 2 หรือ 1 ใน 3 เหมือนเก่าคงไม่ได้ และอาจจะไม่สามารถได้เท่าเดิมเพราะในช่วงหลังเสียหายมาก
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ระบุว่าหนักใจที่จะเติมกำลังให้พรรคประชาธิปัตย์อย่างไรใน เวลาอันสั้น นายสุขุมยอมรับว่าเลือกตั้งใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ยัง ไม่ทันฟื้น และในการเลือกตั้งครั้งหน้าตนยังไม่แน่ใจ ว่าถ้านายอภิสิทธิ์ลงรับสมัครเลือกตั้งสส. แบบบัญชีรายชื่อ จะชัวร์เหมือนการลงสมัครรับเลือกตั้งสส.เขตหรือไม่ โดยส่วนตัวเชื่อว่าในเขตกทม. นายอภิสิทธิ์ สามารถลงเขตไหนก็ชนะได้
สำหรับทีมงานกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์นายสุขุม กล่าวว่าไม่ได้ใหม่ หรือเป็นตัวตึงที่ตั้งความหวังได้ พร้อมระบุว่าบรรยายกาศรการเมืองสมัยก่อนเป็นการสู้กับเผด็จการซึ่งประชาธิปัตย์ถนัด เป็นผู้กล้าลุกขึ้นท้าทายมีวาทะ คมมีดโกนอาบน้ำผึ้ง และ การปะทะกับเผด็จการสะใจคนดู แต่โจทย์ตอนนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจปากท้อง ซึ่งต้องโชว์ฝีมือตรงนี้
“พอพูดถึงประชาธิปัตย์คนมีความทรงจำเกี่ยวกับวาทะความคมเฉียบ แต่มาเสียตรงที่แรงงานเคยบอกว่านายอภิสิทธิ์ดีแต่พูด ดังนั้น ยังไม่ง่าย”นายสุขุม กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี