"นายกฯ"ลั่น!ไม่ต้องถามแล้ว หลัง"เกาหลีใต้"บอกข่าวปลอม 7 นักการเมืองไทยเอี่ยวสแกมเมอร์ ยันไม่ได้ดำเนินการช้า แค่ไม่ได้บอก กลัวคนร้ายไหวตัวทัน บอกอยากเชิญ"โรม"มาให้ข้อมูล แต่ต้องมีหลักฐาน
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีรายงานข่าวว่า ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไม่ต้องการลงนามสันติภาพและเจรจาหยุดยิง ว่า ตนยังไม่ทราบข่าวเรื่องนี้ เพราะขณะนี้ข้อตกลงดังกล่าวก็ยังเดินหน้า ประเทศไทยมีจุดยืน 4 ข้อ ส่วนเรื่องการประชุม JBC ถือเป็นคนละเรื่องไม่ส่งผล เพราะเป็นเรื่องของการปักเขตแดน ซึ่งขณะนี้ดำเนินการมาได้เกินครึ่งแล้ว ก็ยังคงเดินหน้าเจรจา แต่ต้องใช้เวลา ส่วนการประชุม GBC ก็ยังคงเดือนหน้า เช่นเดียวกันกับการเจรจาของระหว่างกระทรวงการต่างประเทศระหว่างสองประเทศ
เมื่อถามถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังยืดเยื้อมาถึงขณะนี้ นายกฯ กล่าวว่า มีความคืบหน้าหลายอย่าง การที่เราไม่ถูกคุกคามยั่วยุ และยิงข้ามฝั่งมา เกือบ 2 เดือนแล้ว ถือว่าเป็นหนึ่งในความคืบหน้าอย่างหนึ่ง ซึ่งเราก็ได้แสดงให้เขาเห็นว่าประเทศไทยรับไม่ได้และพร้อมจะโต้ตอบอย่างเต็มที่ และแสดงเห็นว่าเขารับทราบข้อมูลข่าวสารจากฝั่งเรา จะเอาความสนุก ความสะใจอย่างเดียวไม่ได้ สิ่งที่ยังยืนยันได้คือตอนนี้จะไม่ยอมให้เขามาละเมิดอธิปไตยและทำร้ายคนของเราอีกต่อไป
เมื่อถามถึงกรณีที่ล่าสุดสถานทูตเกาหลีใต้ออกมายืนยันว่า ไม่ได้มีการให้ข่าว 7 นักการเมืองไทย เชื่อมโยงเครือข่ายสแกมเมอร์ นายอนุทิน ย้อนถามว่าก็ถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว ซึ่งเกาหลีใต้ก็ออกมาแถลงแล้วว่าไม่เป็นความจริง ก่อนที่อนุทินจะรีบส่ายหัว พร้อมกล่าวว่า ไม่ๆ ไม่ใช่ความจริงต้องไม่ถาม และย้ำต่อว่าถามไม่ได้ ถามไม่ได้ เราปราบจริงจังอยู่แล้ว สัปดาห์ที่แล้วก็จับกุมวงเงินหลายหมื่นล้าน ขอให้ไปถามผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะได้รายงานตนมาเป็นชุดเลย และจะให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้แถลง เพราะจะได้ให้ตัวเลขเป็นที่แม่นยำ ส่วนเรื่อง 7 นักการเมือง ทางสถานทูตเกาหลีใต้ก็ได้ออกมายืนยันชัดเจนแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นที่ สปป.ลาว ตนก็ได้โทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้เกือบครึ่งชั่วโมง ก็ไม่ได้การหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา แสดงว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้น แต่ถ้าหากเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลนี้ไม่มีละเว้นไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือใครก็ตาม เพราะสแกมเมอร์ถือว่าเป็นศัตรูสำคัญของประเทศและของโลก มีผู้เสียหายจากเครื่องนี้จำนวนมาก เมื่อถามต่อว่า มั่นใจได้ใช่หรือไม่ว่าไม่มีคนในรัฐบาลนี้เข้าไปเกี่ยวข้อง นายกฯ กล่าวว่า ต่อให้มีหรือไม่มี ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า ใครที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
เมื่อถามว่า หาก นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) นำข้อมูลเรื่องสแกมเมอร์มาให้ก็ยินดีรับฟังใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยินดี แต่ต้องมีหลักฐาน เพื่อนำไปขยายผล พูดกันลอยๆ ไม่ได้ ต้องมีหลักฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถนำไปดำเนินคดีต่อได้ ส่วนตัวก็อยากเชิญนายรังสิมันต์ มาหารือเป็นการส่วนตัว เพราะเป็นคนที่ให้ข้อมูลตั้งแต่เรื่องที่แม่สอดแล้ว
นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนที่บอกว่าช้าตั้งแต่เรื่องการตัดไฟ ยืนยันว่าตั้งแต่ทันทีที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ มีมติให้ตัดไฟก็ดำเนินการทันที แต่อย่างไรก็ตามต้องดำเนินการระเบียบและกฎหมายที่มี และยืนยันว่าไม่ได้ช้า ตนเข้าใจถึงความคาดหวังและความเดือดร้อนของประชาชนดี วันนี้ภัยคุกคามต่างๆ เกิดขึ้นแล้ว การจับสแกมเมอร์ก็เกิดขึ้นตลอดเวลา ย้ำว่ารายละเอียดนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็กำลังออกมาแถลง และตนได้มีการตั้งคณะกรรมการปราบปรามสแกมเมอร์ขึ้นมา ซึ่งพรุ่งนี้ (20 ต.ค.) ก็จะมีการประชุมชุดใหญ่เพื่อแบ่งงานให้ดำเนินการ เรื่องนี้ถือว่าเป็นภัยความมั่นคงของชาติ
นายอนุทิน กล่าวว่า หากผู้สื่อข่าวถามถึงแผนงาน จะดำเนินการอย่างไรถึงไหนแล้ว ถ้าบอกหมดทุกอย่าง เขาก็แก้ทัน แต่อะไรที่เราเปิดเผยได้เราก็ทำ แต่ตอนนี้สิ่งที่พูดได้อย่างมั่นใจคือ ไม่มีนโยบายไหนที่จะยอมลดลาวาศอกกับสิ่งที่ผิดกฎหมาย ตนพูดได้แค่นี้ และปล่อยให้คนทำไปทำ หากตนไปพูดก่อนก็อาจจะถูกตำหนิ จะทำให้คนร้ายไหวตัวสามารถแก้เกมได้ อย่างเช่นเรื่องยาเสพติด ตอนนี้ก็อ้อมไปทางเมียนมา แสดงว่าเส้นทางเดิมใช้ไม่ได้ จึงต้องมีการเปลี่ยนวิธีการ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี