“พรรคเพื่อไทย”กำลังเผชิญกับสถานการณ์“เลือดไหลออก” ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะล่าสุด ที่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตนได้ตัดสินใจลาออกการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ส่งผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อด้วย
นายสมพงษ์ยืนยันว่า การตัดสินใจนี้ไม่เกี่ยวกับที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านหรือกระแสตก แต่เหตุผลมาการบริหารจัดการภายในที่สะสมมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งปี 2566 เชื่อว่า สส.ส่วนใหญ่ก็อึดอัดกับสถานการณ์ในพรรคกับการจัดลำดับความสำคัญที่มีปัญหาค่อนข้างมาก แต่ผู้บริหารพรรคมองไม่เห็น ทั้งที่การเลือกตั้งทั้งในระดับ สส.หรือท้องถิ่น ก็ฟ้องอยู่ว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่ตนมีส่วนในการบริหารจัดการมาโดยตลอด ก่อนจะถูกลดบทบาท กระทั่งไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้เลย
ผู้อาวุโสของพรรควัย 84 ปี ผู้นี้ระบุว่า จุดแตกหักสุดท้ายกรณีที่พรรคมอบหมายให้เฟ้นหาผู้ที่มีศักยภาพ เพื่อเสนอตัวเป็นผู้สมัคร สส.ที่เขต 1 จ.ลำพูน เมื่อได้คนที่มีความเหมาะสม และเริ่มให้ทำพื้นที่ก็ได้กระแสดี แต่พรรคตัดสินใจเลือกคนอื่นโดยไม่แม้แต่จะนำชื่อคนที่ตนไปชักชวน เข้าไปเป็นตัวเลือกในการพิจารณาด้วยซ้ำ เพราะผู้มากบารมีในพรรคบางคนเข้ามาล้วงลูก สั่งการจะเอาคนนั้นคนนี้ลงโดยไม่ทำโพล เมื่อกระแสพรรคเป็นแบบนี้ การวางตัวผู้สมัคร สส.ย่อมต้องละเอียดมากที่สุด จะทำกันแบบเดิมๆ ไม่ได้
การตัดสินใจลาออกจากพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจเพียงลำพัง ไม่ได้หารือหรือแจ้งให้นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นบุตรชาย ทราบแต่อย่างใด ไม่อยากให้มองว่าตนทิ้งพรรคในวันที่พรรคตกต่ำ เพราะที่ผ่านมาทุ่มเทเต็มที่ให้กับพรรคและกับครอบครัวชินวัตรมาโดยตลอด ยอมรับว่าใจหายเเละเสียใจอย่างยิ่ง เพราะได้ร่วมบุกเบิกมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย
นายสมพงษ์ ทิ้งท้ายว่า หากมีใครเห็นความสำคัญ เห็นความรู้ประสบการณ์ของตน ที่อาจไปช่วยเสริมในบางมิติให้นักการเมืองร่นลูกรุ่นหลานในลักษณะที่ปรึกษา ก็พร้อมและยินดี แต่ยืนยันว่าไม่ได้ถูกพรรคไหนดูด เพราะแม้จะมีคนรู้จัก และสนิทสนมคุ้นเคยกับหลายพรรคการเมือง แต่คงไม่มีพรรคไหนกล้ามาดูดตนแน่นอน
ก่อนหน้านั้น นายโกศล ปัทมะ สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ก็ได้ไปเปิดตัวร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า และได้ตอบโต้กรณีที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.เลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ระบุว่ามีการใช้เงินดูด ส.ส.ออกไปว่า ส่วนตัวไม่มีเรื่องเงินใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น การออกจากพรรคเป็นเรื่องของความรู้สึก เหมือนกับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ได้ให้เหตุผลในการลาออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะ สส.รู้สึกอึดอัดในการบริหารจัดการพรรค
นายโกศลยังได้ฝากไปถึงผู้บริหารของพรรคเพื่อไทยว่า ควรดูแล สส.ให้ดี รับฟังเขา เพราะยังมี สส.ที่รู้สึกไม่อบอุ่น แล้วอนาคตอาจไม่ไปต่อกับพรรคเพื่อไทยอีกหลายคน
นอกจากนี้ ยังมีกรณีของ อดีต สส. หลายสมัยของพรรคเพื่อไทย อย่าง นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ที่ได้ทำหนังสือถึงนายทะเบียนสมาชิกพรรคเพื่อไทย แจ้งขอลาออก จากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2568 เป็นต้นไป หลังจากได้ย้ายมาสังกัดพรรคไทยรักไทยในปี 2544 ต่อด้วยพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ตามลำดับ
ทั้งนี้ เป็นที่น่าจับตาว่า เมื่อถึงการยุบสภาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ จะมี สส.ของพรรคเพื่อไทยทยอยลาออกมากยิ่งขึ้นหรือไม่ แล้วสถานการณ์โดยรวมของพรรคเพื่อไทยจะเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีเก่าไป ก็ต้องมีใหม่มา
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พรรคเพื่อไทย ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.เพิ่มเติมอีก 22 ราย โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทางพรรคเพื่อไทยเราตั้งเป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งหน้าจำนวน 200 คน เราได้เปิดตัวไปแล้ว 183 คน ดังนั้นเพื่อเป็นไปตามเป้าหมายจึงได้เปิดตัวเพิ่มอีก 22 ท่านใน 12 จังหวัด หน้าตาแต่ละคนมีความผ่องใส ราศีจับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีความตั้งใจที่จะนำนโยบายของพรรคเพื่อไทยซึ่งในอดีตประสบความสำเร็จต่อเนื่องมาตลอด ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบสนองจากพี่น้องประชาชน
และยังบอกด้วยว่า สส.ที่อยู่กับพรรค ตนเชื่อมั่นว่าเราจะชนะ ส่วนที่เคยย้ายไปในอดีต มีเรื่องที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเมื่อย้ายออกจากพรรคไปแล้วก็สอบตกไปหลายท่าน พี่น้องประชาชนคงจะเข้าใจในสิ่งที่ตนพยายามสื่อสาร
การเลือกตั้ง สส. ครั้งหน้า สู้กันดุเดือดแน่นอน ซึ่งบรรดาคู่แข่งของพรรคเพื่อไทยต่างระดมความพร้อมที่จะโกยคะแนนกันอย่างเต็มที่ โดยพรรคภูมิใจไทยในบทบาทพรรคแกนนำรัฐบาล กำลังเร่งทำผลงานแบบเน้นๆ เพื่อให้เข้าตาประชาชนอย่างที่สุด ส่วนพรรคประชาชน แม้ตอนนี้จะเป็นฝ่ายค้าน แต่ผลสำรวจโพลหลายสำนักชี้ว่า คะแนนนิยมมาแรง ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคคนเก่า กลับเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ที่ประกาศฟื้นฟูอุดมการณ์ 10 ข้อ ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2489 ก็น่าจะปลุกกระแสของพรรคได้มากยิ่งขึ้น
ดังนั้น ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจึงถือเป็นศึกหนักที่พรรคเพื่อไทย ต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่ หากหวังจะทำให้ได้ตามเป้าที่วางไว้ ซึ่งดูแล้วก็ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
- ทีมข่าวแนวหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี