ดีเดย์20ตุลาคมนี้  ลงทะเบียนใช้สิทธิคนละครึ่งพลัส  รบ.เตือนอย่าเชื่อลิงก์ปลอมดูดข้อมูล

ดีเดย์20ตุลาคมนี้ ลงทะเบียนใช้สิทธิคนละครึ่งพลัส รบ.เตือนอย่าเชื่อลิงก์ปลอมดูดข้อมูล

วันจันทร์ ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

รัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียน “คนละครึ่ง พลัส” สำหรับประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิ 20 ตุลาคมนี้ เตือนอย่าหลงเชื่อลิงก์ปลอม หลอกเอาข้อมูลส่วนตัว ดัน “เดินทางทั่วไทยจ่ายครึ่งเดียว” ครอบคลุมขนส่งสาธารณะ

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันกระแสโครงการคนละครึ่งพลัส ของรัฐบาลประชาชนและผู้ประกอบการให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยความคืบหน้านับตั้งแต่เริ่มลงทะเบียนในส่วนผู้ประกอบการร้านค้าฯ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม-17 ตุลาคม 2568 เวลา 12.00 น.พบว่ามีร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ สำเร็จแล้ว 123,960 ราย แบ่งเป็น 1.ร้านค้ารายเดิม 72,185 ราย และ 2.ร้านค้ารายใหม่ 51,775 ราย ส่วนร้านค้าที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการสมัคร 98,064 ราย แบ่งเป็น 1.รอให้ร้านค้าเข้ามากดยอมรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการฯ 91,917 ราย และ 2. รอดำเนินการตรวจสอบ 6,147ราย


ทั้งนี้ ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจและมีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขที่โครงการฯ กำหนด สามารถทยอยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้อย่างต่อเนื่อง เพราะโครงการฯ จะเปิดให้เริ่มสแกนรับเงินจากประชาชนได้จริงในวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ซึ่งร้านค้าสามารถลงทะเบียนได้จนกว่ากระทรวงการคลังจะปิดรับสมัครร้านค้าในวันที่ 19 ธันวาคม 2568

ในส่วนของประชาชน โครงการคนละครึ่งพลัสจะเปิดให้เริ่มลงทะเบียนผ่านแอปฯ ‘เป๋าตัง’ ตั้งแต่วันที่ 20-26 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.โดยผู้ที่ได้รับสิทธิร่วมโครงการฯ จะเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2568 โดยปัจจุบันกระแสความนิยมของประชาชนและผู้ประกอบการร้านค้า ที่มีต่อโครงการฯ ได้รับความสนใจทั่วประเทศ จึงเป็นเหตุให้เหล่ามิจฉาชีพพยายามฉวยโอกาสหลอกลวงประชาชนหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการส่งลิงก์ปลอมมาหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวและดูดทรัพย์ของประชาชน ซึ่งปัญหาดังกล่าว รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ได้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

เบื้องต้นขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของตำรวจไซเบอร์ ดังนี้ 1.อย่ากดลิงก์จาก SMS/ข้อความแปลกปลอม เนื่องจากโครงการรัฐ จะไม่ส่งลิงก์ลงทะเบียนผ่านข้อความ 2.อย่าหลงเชื่อเพจ/บัญชีโซเชียลที่ไม่เป็นทางการ และขอให้ประชาชน ตรวจสอบว่ามีเครื่องหมายยืนยัน (✔Verified) และผู้ติดตามจริงหรือไม่ โดยการลงทะเบียนที่ถูกต้องนั้น ทำได้เฉพาะแอปฯ ‘เป๋าตัง’และ ‘ถุงเงิน’ 3.อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว อาทิ เลขบัตรประชาชน, วันเกิด, PIN, OTP, ข้อมูลบัญชีธนาคาร 4.อย่าเชื่อสายโทรศัพท์ที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ โดยหน่วยงานรัฐและธนาคาร ไม่มีนโยบายโทรขอ OTP หรือให้โอนเงิน และ 5.ตรวจสอบข้อมูลทุกครั้ง หากมีความสงสัยให้โทร.สอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง และอย่าแชร์ข้อมูลจากข่าวลือ/เพจที่ไม่น่าเชื่อถือ

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนได้รับลิงก์ปลอม ขอให้พิจารณา ตั้งสติ และไม่กดลิงก์ส่วนกรณีประชาชนเผลอกดลิงก์ปลอมและได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงออนไลน์ ขอให้แจ้งความออนไลน์ได้ที่ https://www.thaipoliceonline.go.th/login หรือโทร. สายด่วนที่ 1441 เพื่อระงับบัญชีคนร้ายภายใน 72 ชั่วโมง และรีบเข้าพบพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน

ด้าน น.ส.ลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่รัฐบาลขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอย่างต่อเนื่องและตรงจุด ด้วยการขยายผลโครงการคนละครึ่ง พส ให้ครอบคลุมการใช้จ่ายในระบบขนส่งสาธารณะทั่วประเทศ ว่ารัฐบาลเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการลดภาระค่าครองชีพด้านการเดินทางของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิต จึงปรับปรุงโครงการฯ เพื่อตอบโจทย์โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งพลัส ในส่วนระบบขนส่งสาธารณะถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการดูแลประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เป็นการใช้กลไกของรัฐในการหมุนเวียนเม็ดเงินไปสู่ผู้ประกอบการรายเล็กอย่างแท้จริงขณะนี้บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้เข้าร่วมโครงการฯ อย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิ์ชำระค่าตั๋วรถ บขส.ทุกเส้นทางทั่วประเทศ ที่ช่องจำหน่ายตั๋วทุกสถานี ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม–31ธันวาคม2568 โดยจำกัดวงเงินใช้สิทธิ์สูงสุดที่ 200บาทต่อวัน เพื่อให้เกิดการกระจายการใช้จ่ายอย่างเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม โครงการนี้เปิดกว้างสำหรับรถสาธารณะทุกประเภท อาทิ จักรยานยนต์สาธารณะ, รถตุ๊กตุ๊ก, รถแท็กซี่, รถสองแถว, รถตู้โดยสารและรถโดยสารประจำทาง โดยกรมการขนส่งทางบก เปิดรับผู้ประกอบการเข้าร่วมลงทะเบียนได้ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม–19 ธันวาคม 2568 โดยเน้นการเข้าถึงสิทธิ์สำหรับผู้ประกอบการที่มี ใบอนุญาตถูกต้อง และ นิติบุคคลรายเล็ก (รายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี) รัฐบาลเชื่อมั่นว่ามาตรการนี้จะช่วยฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าสู่ระบบ และพัฒนาบริการให้เป็นระบบดิจิทัลมากยิ่งขึ้น นี่คือการลงทุนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย และสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top