ยกภัย‘สแกมเมอร์’เป็นวาระโลก  ‘อนุทิน’ลั่นเอาจริง  ยืนกรานไม่ได้ดำเนินการช้า  แต่ไม่ให้ข่าวกลัวคนร้ายไหวตัว

ยกภัย‘สแกมเมอร์’เป็นวาระโลก ‘อนุทิน’ลั่นเอาจริง ยืนกรานไม่ได้ดำเนินการช้า แต่ไม่ให้ข่าวกลัวคนร้ายไหวตัว

วันจันทร์ ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ยกภัย‘สแกมเมอร์’เป็นวาระโลก

‘อนุทิน’ลั่นเอาจริง

ยืนกรานไม่ได้ดำเนินการช้า

แต่ไม่ให้ข่าวกลัวคนร้ายไหวตัว

‘7นักการเมืองไทย’เอี่ยวข่าวปลอม

พท.ได้ทียกผลงานยุคอิ๊งค์เกทับ

“อนุทิน”สั่งบัวแก้วตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังข่าวสะพัดนายกฯเกาหลีใต้จ่อเปิดชื่อ 7 นักการเมืองไทยเอี่ยวแก๊งสแกมเมอร์ในเขมร ลั่นหากพบผิดจริงไม่มียกเว้นแน่ เผยคุยกับปธน.แล้วไม่มีเรื่องนี้ เปิดทาง ‘โรม’มาให้ข้อมูลเป็นการส่วนตัว ขณะที่สถานทูตโสมขาวโต้เป็นข่าวปลอมด้าน พท. ได้ทีจี้รัฐบาลเอาจริงอย่าสร้างภาพหวังแค่คะแนนนิยม พร้อมยกผลงานในยุคอุ๊งอิ๊งค์เกทับ

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวในโลกออนไลน์ว่า นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ จะเปิดชื่อนักการเมืองไทย 7 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งแสกมเมอร์ในประเทศกัมพูชา โดยนายอนุทิน ย้อนถามสื่อว่า เรื่องมาจากเพจใช่หรือไม่ ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่า ใช่


ลั่นถ้าผิดจริงต้องลงโทษไม่มียกเว้น

นายอนุทิน จึงกล่าวว่า ตนได้ให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และทีมงาน ไปสืบหาข้อเท็จจริงแต่ไม่ต้องกังวลอะไร จะมีรายชื่อหรืออะไรมาเราก็ต้องดำเนินการตรวจสอบ และหากมีหลักฐานการกระทำที่ผิดกฎหมาย เราก็ต้องดำเนินคดีอยู่แล้ว ไม่มีข้อยกเว้น

เมื่อถามถึงกรณีที่นายอนุทิน เคยต่อสายพูดคุยทางโทรศัพท์ กับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านไม่ได้พูดเรื่องนี้กับตนเลย ถึงบอกว่าต้องตรวจสอบก่อน เพราะเมื่อข่าวนี้มาจากเพจออนไลน์ก็ต้องตรวจสอบ เพราะตอนที่ตนหารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ท่านก็ไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา

“แต่หากมีจริง ผมจะมีโอกาสพบกับท่านในการประชุมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ประเทศเกาหลีใต้ ในอีก 2 สัปดาห์นี้”นายอนุทิน กล่าว

สั่งทูตไทยในโซลตามเช็คข้อมูลแล้ว

เมื่อถามว่าต้องให้กระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบก่อนที่จะมีการพบกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า สั่งแล้ว เดี๋ยวเอาไลน์ให้ดูว่าสั่งแล้ว โดยได้ให้สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโซล ติดตามข่าวเรื่องนี้

เมื่อถามว่า มีการเรียกร้องให้รัฐบาลปราบปรามดำเนินการเรื่องสแกมเมอร์เชิงรุก นายกฯ กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังจากที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงานก็มีรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมว่า มีการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง 37 ราย และยังมีการขยายผลต่างๆอีกมากมาย

ทั้งนี้ในวันที่ 20 ต.ค.นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 1/2568 โดยจะมีการมอบหมายให้แต่ละหน่วยงานไหนว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งเป็นการต่อยอดจากที่เขาได้ทำไว้อยู่แล้ว

พร้อมร่วมปราบสแกรมเมอร์ทุกรูปแบบ

เมื่อถามว่า ตอนนี้หลายประเทศจับมือกันคว่ำบาตรมาตรการทางการเงินกับบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เรื่องนี้จะมีการนำเข้าที่ประชุมในวันที่ 20 ต.ค. เลยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทุกเรื่องอยู่ในนี้หมด สแกมเมอร์ต้องเป็นวาระแห่งภูมิภาคนี้แล้ว หรือวาระของโลกด้วย ประเทศไทยต้องเป็นส่วนหนึ่งและให้ความร่วมมือในการปราบปรามสแกมเมอร์อย่างทุกวิถีทางทุกรูปแบบ

เมื่อถามว่า มาตรการที่มีการดำเนินการก่อนหน้านี้ทั้งการตัดไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตบริเวณชายแดนไทย- เมียนมา นายกฯ กล่าวว่า แล้วเราตัดไหม ไฟฟ้าถูกตัดหรือไม่ ทุกวันนี้ถ้าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เราต้องดำเนินการอยู่แล้ว

โฆษกฯแจง7นักการเมืองไทยข่าวปลอม

ขณะที่นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกระแสข่าว 7 นักการเมืองไทยเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชาว่า กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง และไม่มีแหล่งข่าวหรือถ้อยแถลงใดจากทางการเกาหลีใต้ที่กล่าวเช่นนั้น

ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการแล้ว โดยระบุชัดว่า “บทความของสำนักข่าวฐานเศรษฐกิจ ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2568 ซึ่งรายงานว่านายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้กล่าวถึงนักการเมืองไทย 7 คนที่เกี่ยวข้องกับคดีสแกมเมอร์ในกัมพูชา ไม่เป็นความจริง”

ยันนายกฯหนูเอาจริงแก๊งสแกรมเมอร์

พร้อมทั้งยืนยันว่ารัฐบาลเกาหลีใต้จะดำเนินการตามความเหมาะสมต่อข่าวปลอมดังกล่าว เพื่อปกป้องความถูกต้องของข้อมูลและชื่อเสียงของบุคคลที่ถูกพาดพิง ขอยืนยันว่า รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีนายอนุทิน ให้ความสำคัญ ในการปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์และอาชญากรรมข้ามชาติทุกรูปแบบอย่างจริงจัง โดยแถลงต่อรัฐสภาให้เป็น 1 ใน 4 นโยบายเร่งด่วน และจะดำเนินตามกฎหมายกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการอาชญากรรมนี้ อย่างเด็ดขาด

สถานทูตเกาหลียันซ้ำไม่เป็นความจริง

เวลาต่อมา เพจเฟซบุ๊กEmbassy of the Republic of Korea in Thailand โพสต์ข้อความระบุว่า ขอชี้แจงให้ทราบว่า บทความของสำนักข่าว ฐานเศรษฐกิจ ลงวันที่ 19 ตุลาคม ที่รายงานว่า ‘นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้เปิดเผยถึง นักการเมืองไทย 7 คนที่พัวพันและมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา’นั้น ไม่เป็นความจริง สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี จะดำเนินการตามความเหมาะสมต่อข่าวปลอมดังกล่าว

นายกฯลั่นประเด็นนี้ไม่ต้องถามแล้ว

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังสถานทูตเกาหลีใต้ออกมายืนยันว่า ไม่ได้มีการให้ข่าว 7 นักการเมืองไทย เชื่อมโยงเครือข่ายสแกมเมอร์ นายอนุทิน ย้อนถามว่าก็ถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว ซึ่งเกาหลีใต้ก็ออกมาแถลงแล้วว่าไม่เป็นความจริง ก่อนที่อนุทินจะรีบส่ายหัว พร้อมกล่าวว่า ไม่ๆ ไม่ใช่ความจริงต้องไม่ถาม และย้ำต่อว่าถามไม่ได้ ถามไม่ได้ เราปราบจริงจังอยู่แล้ว

“สัปดาห์ที่แล้วก็จับกุมวงเงินหลายหมื่นล้าน ขอให้ไปถามผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะได้รายงานผมมาเป็นชุดเลย และจะให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้แถลง เพราะจะได้ให้ตัวเลขเป็นที่แม่นยำ”นายอนุทิน กล่าว

ไม่มีละเว้นไม่ว่านักการเมืองหรือใครก็ตาม

ส่วนเรื่อง 7 นักการเมือง ทางสถานทูตเกาหลีใต้ก็ได้ออกมายืนยันชัดเจนแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นที่ สปป.ลาว ตนก็ได้โทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้เกือบครึ่งชั่วโมง ก็ไม่ได้การหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา แสดงว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้น แต่ถ้าหากเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลนี้ไม่มีละเว้นไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือใครก็ตาม เพราะสแกมเมอร์ถือว่าเป็นศัตรูสำคัญของประเทศและของโลก มีผู้เสียหายจากเครื่องนี้จำนวนมาก

เมื่อถามต่อว่า มั่นใจได้ใช่หรือไม่ว่าไม่มีคนในรัฐบาลนี้เข้าไปเกี่ยวข้อง นายกฯ กล่าวว่า ต่อให้มีหรือไม่มี ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า ใครที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

เปิดทาง‘โรม’มาให้ข้อมูลเป็นการส่วนตัว

เมื่อถามว่า หาก นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) นำข้อมูลเรื่องสแกมเมอร์มาให้ก็ยินดีรับฟังใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยินดี แต่ต้องมีหลักฐาน เพื่อนำไปขยายผล พูดกันลอยๆ ไม่ได้ ต้องมีหลักฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถนำไปดำเนินคดีต่อได้ ส่วนตัวก็อยากเชิญนายรังสิมันต์ มาหารือเป็นการส่วนตัว เพราะเป็นคนที่ให้ข้อมูลตั้งแต่เรื่องที่แม่สอดแล้ว

นัดประชุมวอร์รูมสแกรมเมอร์จันทร์นี้

นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนที่บอกว่าช้าตั้งแต่เรื่องการตัดไฟ ยืนยันว่าตั้งแต่ทันทีที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ มีมติให้ตัดไฟก็ดำเนินการทันที แต่อย่างไรก็ตามต้องดำเนินการระเบียบและกฎหมายที่มี และยืนยันว่าไม่ได้ช้า ตนเข้าใจถึงความคาดหวังและความเดือดร้อนของประชาชนดี วันนี้ภัยคุกคามต่างๆ เกิดขึ้นแล้ว การจับสแกมเมอร์ก็เกิดขึ้นตลอดเวลา

“รายละเอียดนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็กำลังออกมาแถลง และผมได้มีการตั้งคณะกรรมการปราบปรามสแกมเมอร์ขึ้นมา ซึ่งวันนี้ (20 ต.ค.)จะประชุมชุดใหญ่เพื่อแบ่งงานให้ดำเนินการ เรื่องนี้ถือว่าเป็นภัยความมั่นคงของชาติ”นายกฯกล่าว

ไม่อยากบอก กลัวคนร้ายไหวตัวทัน

นายอนุทิน กล่าวว่า หากผู้สื่อข่าวถามถึงแผนงาน จะดำเนินการอย่างไรถึงไหนแล้ว ถ้าบอกหมดทุกอย่าง เขาก็แก้ทัน แต่อะไรที่เราเปิดเผยได้เราก็ทำ แต่ตอนนี้สิ่งที่พูดได้อย่างมั่นใจคือ ไม่มีนโยบายไหนที่จะยอมลดลาวาศอกกับสิ่งที่ผิดกฎหมาย ตนพูดได้แค่นี้ และปล่อยให้คนทำไปทำ หากตนไปพูดก่อนก็อาจจะถูกตำหนิ จะทำให้คนร้ายไหวตัวสามารถแก้เกมได้ อย่างเช่นเรื่องยาเสพติด ตอนนี้ก็อ้อมไปทางเมียนมา แสดงว่าเส้นทางเดิมใช้ไม่ได้ จึงต้องมีการเปลี่ยนวิธีการ

พท.ได้ทีจี้รบ.จับจริง-ปราบจริงแก๊งคอลฯ

ทางด้านนายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินมาตรการอย่างจริงจังต่อกรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์สแกมเมอร์ และเครือข่ายการพนันออนไลน์ ซึ่งยังคงสร้างความเสียหายต่อประชาชนอย่างกว้างขวาง และรัฐบาลต้องเร่งแสดงผลงานจับจริง ปราบจริง ไม่ใช่เพียงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาให้เป็นข่าว หวังคะแนนนิยม แต่กลับเงียบหายไร้ผลงาน

ยกผลงานยุครัฐบาลเพื่อไทยเกทับ

นายดนุพร กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยได้ติดตามความคืบหน้าการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และพบว่ายังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดแผนปฏิบัติการอย่างเป็นรูปธรรม ที่ผ่านมาจึงได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการอย่างเร่งด่วน 7 ประการ ซึ่งเป็นการสานงานต่อจากรัฐบาลเพื่อไทย ซึ่งเคยทำอย่างมีประสิทธิภาพมาแล้ว จนกระทั่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์สแกมเมอร์เริ่มกลับมาอีกครั้งหลังมีการเปลี่ยนรัฐบาล

อย่าสร้างภาพหวังแค่คะแนนนิยม

นายดนุพรกล่าวด้วยว่า ในส่วนของคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่นายกฯ ได้ตั้งขึ้นมาใหม่นั้น ทางพรรคเพื่อไทยหวังที่จะได้เห็นการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ มีการบูรณาการร่วมมือกันจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มากกว่าการตั้งขึ้นมาเพื่อภาพลักษณ์ในทางการเมืองเท่านั้น

“ต้องอย่าลืมว่า การหลอกลวงและอาชญากรรมออนไลน์ที่มีศูนย์กลางในประเทศเพื่อนบ้านของเรานี้เป็นปัญหาที่นานาประเทศให้ความสนใจ มีความละเอียดอ่อนต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทำให้ประเทศไทยอยู่ในสถานะศูนย์กลางความร่วมมือปราบปรามฯในระดับภูมิภาค ซึ่งเราจะติดตามการทำงานของรัฐบาลในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง”นายดนุพร กล่าว

อดีตสว.จี้ถามนายกฯจะเอาจริงกี่โมง

ส่วนนายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (อดีต สว.) โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า “เกาหลีใต้ สหรัฐ อังกฤษ จีน จัดหนักเขมร ปฏิบัติการลุยยึดจับ กวาดล้างสแกมเมอร์ ทุนเทา แก๊งฟอกเงิน คอลเซนเตอร์ ฯลฯ คนไทยรอลุ้น นายกอนุทิน กล้าเอาจริง ลุยกวาดล้าง กี่โมง”

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top