วันที่ 20 ตุลาคม 2568 ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ Dr. Suvit Maesincee” ระบุว่า Rebirth of a Principle: ภารกิจใหม่ของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ถ้าผมเป็นเพื่อนที่ได้เห็น “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” กำลังตัดสินใจกลับมาทำงานการเมืองอีกครั้ง
ผมคงอยากบอกอย่างตรงไปตรงมา —นี่ไม่ใช่เวลาของ “การหวนคืนอำนาจ” แต่นี่คือเวลาของ “การฟื้นคืนหลักการ”
จุดเปลี่ยนแห่งยุคการเมืองไทย
ประเทศไทยกำลังเดินอยู่บนหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของยุคการเมืองใหม่ ระบบเดิมเริ่มแตกร้าว แต่ระบบใหม่ก็ยังไม่ลงหลัก เรามี “พลังแห่งการเปลี่ยนแปลง” ที่กำลังล้น แต่ยังขาด “พลังแห่งหลักการ” ที่จะพาไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
สนามเลือกตั้งปี 2569 จึงไม่ใช่แค่ศึกแย่งอำนาจ —แต่คือศึกชี้ทิศทางของประเทศ ว่าเราจะไปต่ออย่างไร
วันนี้ สมการการเมืองไทยดูแคบและตื้นเกินไป
• น้ำเงิน (ภูมิใจไทย) — พรรคของทุนอำนาจใหม่ ที่เล่นเกมอำนาจได้ แต่ยังขาดวิสัยทัศน์ระดับชาติที่ชัดเจน
• ส้ม (ก้าวหน้า/ประชาชน) — พรรคของพลังคนรุ่นใหม่ ที่กล้าท้าทาย แต่บางครั้งไร้หลักยึด
• แดง (เพื่อไทย) — พรรคของอดีต ที่พลังถดถอย และอุดมการณ์เลือนราง
แต่หาก “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” กลับมานำพรรคประชาธิปัตย์ สมการนี้จะเปลี่ยนทันที — จาก “น้ำเงิน vs ส้ม โดยมีแดงเป็นตัวแปร” สู่ “น้ำเงิน vs ส้ม โดยมี ฟ้า เป็นตัวแปรแห่งหลักการ”
และในจังหวะแบบนี้ การกลับมาของคุณอภิสิทธิ์ จะมีความหมาย ก็ต่อเมื่อมันไม่ใช่ Return of a Person แต่คือ Rebirth of a Principle
Reset พรรค เพื่อ Reset ประเทศ
ถ้าผมเป็นที่ปรึกษา ผมคงไม่แนะนำให้ “หวนกลับ” ไปเป็นพรรคเก่าในรูปใหม่ แต่ต้อง “รีเซ็ต” ให้เป็นพรรคต้นแบบของ Principled Politics — การเมืองที่มีหลัก และใช้หลักนั้นสร้างผล
เพราะวันนี้ ประเทศไทยไม่ต้องการพรรคที่ “ใหญ่ที่สุด” แต่ต้องการพรรคที่ “ยืนหยัดในหลักการ” ได้มากที่สุด
การ Reset พรรคประชาธิปัตย์ ต้องเริ่มจากการเปลี่ยนในสามมิติสำคัญ:
1. จากพรรคแห่งอดีต สู่พรรคแห่งอนาคต
ฟื้นจิตวิญญาณของความเป็น “พรรคอุดมการณ์” แต่ปรับยุทธศาสตร์ให้ตอบโจทย์อนาคต จากพรรคที่เน้น “การเมืองแบบผู้แทน” สู่พรรคที่เป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” (Transformative Party) ไม่ใช่แค่แข่งขันในระบบเดิม แต่เป็นผู้ตั้ง “มาตรฐานใหม่ของการเมืองไทย”
2. จากพรรคของคนรุ่นเดิม สู่พรรคของทุกเจเนอเรชัน
เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ที่ “คิดแบบมีหลัก” และ “ทำแบบมีผล” ไม่ใช่แค่เปลี่ยนหน้า แต่เปลี่ยน “โครงสร้างความคิดทางการเมือง” ให้พรรคเก่ากลายเป็น Platform ของผู้นำรุ่นใหม่ ไม่ใช่พรรคที่กลัวการเปลี่ยนแปลง แต่เป็นพรรคที่กล้านำการเปลี่ยนผ่าน
3. จากพรรคของผลประโยชน์ สู่พรรคของหลักการ
กำหนดยุทธศาสตร์พรรคด้วย “สามเสาหลักของการเมืองที่ดี” คือ Good Policy × Good Politics × Good People และชูแนวทาง “เดินด้วยหลัก แต่ทำให้เกิดผล” (Principled Pragmatism)
Rebirth of a Principle
คุณอภิสิทธิ์ ไม่ควรกลับมาเพื่อแข่งขันกับใคร แต่กลับมาเพื่อยกระดับสนามการเมืองไทยทั้งหมด เพราะประเทศนี้ ไม่ได้ต้องการ “ฝ่ายค้านที่เก่ง” หรือ “รัฐบาลที่แน่” แต่ต้องการ “พรรคที่มีหลัก” ที่จะพาประเทศพ้นวังวนความแตกแยก
ประชาธิปัตย์ในยุคใหม่ จึงต้องตั้งเป้าเป็น “พรรคสร้างความหวังแห่งชาติ” (National Hope Party) ไม่ใช่พรรคที่ชนะเพราะคู่แข่งอ่อน แต่เป็นพรรคที่ชนะใจคน เพราะสร้างความหวังให้ประเทศได้จริง
จาก Return สู่ Rebirth
หากคุณอภิสิทธิ์เลือกกลับมาในภารกิจนี้จริง มันจะไม่ใช่ “การกลับมาของอดีตนายกฯ” แต่คือ “การเริ่มต้นของการเมืองยุคใหม่” ที่ประเทศไทยยังไม่เคยมี และถ้าพรรคประชาธิปัตย์สามารถเชื่อม “จารีต × ปฏิรูป” เข้าด้วยกันได้อย่างมียุทธศาสตร์ ประเทศไทยจะได้เห็น “Third Way” ทางการเมืองของตัวเอง — ไม่ใช่จารีตสุดโต่ง ไม่ใช่ก้าวหน้าสุดขั้ว แต่คือเส้นทางของ “การเปลี่ยนผ่านด้วยหลักการ” (Principled Progress)
บทสรุป
ประเทศไทยไม่ขาดคนดี หรือคนเก่ง แต่เราขาด “ผู้นำที่กล้ารีเซ็ตระบบ ด้วยหลักการ”ถ้าวันนี้ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” กลับมาในบทบาทนี้จริง มันจะไม่ใช่เพียงการกลับมาของคนๆหนึ่ง แต่คือการฟื้นคืนความหวังของการเมืองไทยทั้งระบบเพราะสุดท้ายแล้ว “พรรคแห่งอนาคต” ไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครจะมีเสียงมากที่สุด แต่ขึ้นอยู่กับว่า ใคร “ยืนอยู่บนหลักการ” ได้มั่นคงที่สุด“Rebirth of a Principle” —ภารกิจใหม่ของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
• จาก Return สู่ Rebirth
• จากอดีตผู้นำ สู่ผู้นำการเปลี่ยนผ่าน
• จากพรรคแห่งอดีต สู่พรรคแห่งความหวังของอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี