‘รมช.คลัง’แจง สว.ขอ‘แบงก์กรุงไทย’เร่งแก้สารพัดปัญหาลงทะเบียน-ยันตัวตนผ่านระบบออนไลน์ ลดคนแห่รอคิวใช้บริการที่ธนาคารสาขา ชี้ร้านค้าต้องใช้เวลาตรวจสอบนาน เพื่อความโปร่งใส ป้อง‘สแกมเมอร์-แฝงบัญชีม้า’
20 ต.ค.2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมโดยนายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง ชี้แจงกระทู้ถามสดของ นายพละวัต ตันศิริ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ต่อการแก้ปัญหาการลงทะเบียนคนละครึ่ง พลัส ซึ่งวันนี้ (20 ต.ค.) เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้ารับสิทธิเป็นวันแรกว่า จากการเปิดรับลงทะเบียน ตั้งแต่ 06.00 น. ตนได้รับข้อมูลเมื่อ 06.30 น. ว่ามีผู้ลงทะเบียนแล้ว 11 ราย และเวลานี้ที่มาตอบกระทู้มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 17 ล้านราย จึงเหลือสิทธิลงทะเบียน 3 ล้านราย จะครบจำนวน 20 ล้านคน
ทั้งนี้ยอมรับต่อข่าวที่มีประชาชนแห่ไปเข้าคิวที่สาขาของธนาคารกรุงไทยว่าเป็นเรื่องจริง เพราะมีประเด็น 2 ส่วน คือ ประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิ แต่ไม่สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ เพราะต้องสมัครแอปเป๋าตังก่อน จากนั้นจึงจะสมัครเข้าโครงการคนละครึ่งพลัสได้ โดย 3 วันที่ผ่านมา มีประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิแต่ต้องลงทะเบียนใหม่ 4.6 แสนราย เนื่องจากเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ ทำให้การยืนยันตัวตนต้องทำผ่านสาขาของธนาคารกรุงไทย และอีกส่วน คือ 4.5 แสนราย ที่ลืมรหัสทำให้จำเป็นต้องเข้าไปใช้บริการที่สาขาของธนาคารกรุงไทย อย่างไรก็ดีการเปลี่ยนพินโค้ด สามารถแก้ไขผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ดังนั้นต้องขอให้ธนาคารกรุงไทย ประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนว่าสามารถแก้ไขผ่านระบบออนไลน์ได้
นายวรภัค กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่พบปัญหาว่ามีร้านค้าไม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ ต้องยอมรับว่าในช่วงเวลา 3 ปีที่ร้านค้าเว้นจากโครงการคนละครึ่ง ทำให้ต้องตรวจสอบว่าร้านค้ายังทำกิจการจริงหรือไม่ เพื่อให้การใช้เงินแผ่นดินเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ดังนั้นต้องให้กระทรวงมหาดไทยตรวจสอบรายละเอียด โดยกลุ่มแรก ต้องมีใบอนุญาตจากหน่วยงานรัฐ เช่น ร้านสปา ร้านนวด ร้านธงฟ้า เป็นต้น ส่วนสอง คือ ร้านค้าทั่วไปที่ต้องได้รับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่
“เรื่องนี้ต้องทำให้ชัดเจน เพราะกังวลว่าจะเป็นแก๊งสแกมเมอร์ บัญชีม้า ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน อย่างไรก็ดีในข้อมูลที่จะได้รับจากการใช้จ่ายในโครงการ เป็นเรื่องสำคัญที่จะนำไปใช้ประโยชน์และต่อยอดในอนาคต ซึ่งโครงการนี้ตั้งเป้าประชาชนได้สิทธิ 20 ล้านคน และร้านค้า 9 แสนร้านค้า ในเฟสหนึ่ง และเฟสสอง ซึ่งร้านค้ายังเปิดให้ลงทะเบียนถึง19 ธ.ค. เชื่อว่าจะใช้สิทธิเต็ม” รมช.คลัง กล่าว
ขณะที่นายพละวัต กล่าวว่า ตนขอเสนอให้ปรับปรุงข้อมูลและนำข้อมูลการใช้จ่ายเงิน ปริมาณหมุนเงิน ไปวางแผนนโยบายเศรษฐกิจต่อเนื่องในระยะยาว เชื่อว่ารัฐบาลจะนำไปใช้ประโยชน์และเชื่อมโยงข้อมูลร้านค้าขนาดย่อยด้วย ทั้งนี้ ตนมาจากสภาอุตสาหกรรมในการทำโครงการคนละครึ่งที่ผ่านมา พบปัญหา เช่น ให้สแกนและจ่ายเงิน ซึ่งเป็นความเสี่ยงของระบบที่รัฐบาลต้องหาวิธีป้องกัน
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี