‘มาร์ค’จัดทัพปชป.

ชูนโยบายศก.โต-แก้ปัญหาปชช.

‘หนู’ลั่นพร้อมเลือกตั้ง

บิ๊กป้อมดันพปชร.สู้ต่อ

“อนุทิน” ปลื้ม ประชาชนเชื่อมั่น ภท.ชนะเลือกตั้งซ่อมกาญจนบุรี ปัดพูดยุบสภาก่อน 4 เดือน แต่พร้อมเลือกตั้งตลอดเวลา อ้างอะไร ก็เกิดขึ้นได้ ด้าน“มาร์ค” เอาฤกษ์เอาชัย นำทีมกก.บห.สักการะพระแม่ธรณีฯก่อนประชุมวางแผนทำงาน เชิญผู้รู้’สุวิทย์-บรรยง-จรีพร’ให้คำชี้แนะสถานการณ์บ้านเมือง28ต.ค.ยอมรับสส.บางส่วนไม่ไปต่อ เข้าใจดี-เป็นสุภาพบุรุษพอ ไม่ถือเป็นอุปสรรค มั่นใจเดินหน้าฟื้นพรรคได้ ลุยเฟ้นผู้สมัครเลือกตั้ง ชูนโยบาย‘กระตุ้นศก.โตยั่งยืน’ยกเครื่องเกษตร ลดเหลื่อมล้ำ เข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว-ดิจิทัล ลั่นใช้การเมืองแก้ปัญหาประชาชน ไม่ใช่เวทีต่อรองผลประโยชน์

เมื่อวันที่ 20ต.ค.นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรค ภท.ชนะการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต4กาญจนบุรี สะท้อนอะไรทางการเมืองหรือไม่ ว่า อย่างน้อยก็เป็นนิมิตรหมายที่ดีว่า นโยบาย หรือการทำงานพรรคได้รับความเชื่อมั่นในสายตาพี่น้องประชาชนใน จ.กาญจนบุรี หวังว่าสิ่งที่เราทำให้พี่น้องประชาชนไม่มีผลเฉพาะพี่น้องใน จ.กาญจนบุรี เท่านั้น แต่มีผลดีกับประชาชนทั่วประเทศ ผู้สื่อข่าวถามว่า การชนะพรรคเพื่อไทย (พท.) ในการเลือกตั้งซ่อม สส.2เขต คือที่ จ.ศรีสะเกษและที่ จ.กาญจนบุรี ทำให้กระแสพรรคภท.ดีกว่าพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราพยายามทำงานให้มากที่สุด ให้ดีที่สุด

‘หนู’ย้ำพร้อมเลือกตั้งแต่มิถุนายน

เมื่อถามว่า ตอนนี้พร้อมเลือกตั้งแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พร้อมมาตั้งแต่ถอนตัวมาจากพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อเดือนมิถุนายนแล้ว ถึงอย่างไรก็ต้องพร้อม เพราะวันที่ 31มกราคม2569 นั่นคือช้าที่สุด อะไรก็เกิดขึ้นได้ เมื่อถามย้ำว่า ที่บอกว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้ยุบสภาก่อนวันที่ 31 มกราคม2569 นายอนุทิน กล่าวว่า มันก็มีหลายๆเรื่อง เมื่อถามอีกว่า จะยุบสภาก่อนวันที่ 31มกราคม2569 หรือไม่ นายอนุทิน ไม่ตอบ ก่อนขึ้นรถยนต์เดินทางออกจากทำเนียบฯไปประชุมคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรที่ กอ.รมน.เขตดุสิต ทันที

‘พท.’น้อมรับแพ้เลือกซ่อมกาญจนบุรี

สำหรับท่าทีพรรคเพื่อไทย หลังทราบผลเลือกตั้งซ่อม จ.กาญจนบุรี เขตเลือกตั้งที่4ได้โพสต์ข้อความระบุว่า พรรคขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่พี่น้องประชาชนมอบให้ แม้ผลการเลือกตั้งจะไม่เป็นไปตามความคาดหวัง แต่ทุกคะแนนเสียงคือความไว้วางใจอันมีค่าที่สุดสำหรับพรรคเพื่อไทย พรรคจะยังมุ่งมั่นทำงานเพื่อสร้างโอกาสที่ดีขึ้นให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยต่อไป

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและอดีตนายกรัฐมนตรี ระบุเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงและทุกความไว้วางใจที่พี่น้องประชาชนมอบให้กับเพื่อไทย แม้ผลการเลือกตั้งจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่ทุกเสียงคือกำลังใจอันมีค่า ที่จะผลักดันให้เราเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนอย่างไม่หยุดยั้ง ขอขอบคุณ พลเอกชินวัฒน์ แม้นเดชและทีมงานทุกท่าน ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างเต็มที่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคจะนำทุกบทเรียนมาเป็นพลังเพื่อพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นเพื่อพี่น้องประชาชน

‘มาร์ค’เชิญ’สุวิทย์-บรรยง-จรีพร’ชี้แนะ

เวลา 09.00น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ เข้าสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม หลังจากได้รับตำแหน่ง จากนั้น นายอภิสิทธิ์ พร้อมคณะเข้าร่วมประชุม เพื่อวางแนวทางการทำงานของพรรค โดยยอมรับว่า มีเวลาน้อยและมีวาระประชุมหลายเรื่องเนื่องจากใกล้จะเลือกตั้ง

จากนั้นเป็นการประชุมร่วมกันของกก.บห.โดย นายอภิสิทธิ์ เป็นประธาน พร้อมกล่าวว่า ตนได้เชิญบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ โดยตอบรับแล้วคือ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายก นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรและน.ส.จรีพร จารุกรสกุล รองประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จะมาพูดคุยกับกก.บห.ทุกคนในวันที่ 28ตุลาคม เวลา 09.30น.ที่พรรคปชป.ทั้ง 3ท่านตอบรับแล้ว ผมเชื่อว่ามีอะไรหลายอย่างจะมาบอกกับเราในวันนั้น พูดง่ายๆว่าจะเป็นการบ้านที่ดีของพวกเราทุกคน

นักการเมืองต้องฟังเสียงปชช.

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ที่อยากทำเช่นนี้ เพราะอยากให้สังคมเห็น 2อย่าง คือ 1.ภารกิจสำคัญของพรรคการเมืองทุกวันนี้ เราได้ยินน้อยมากที่พรรคการเมืองอื่นๆ พูดถึงภาพใหญ่ของประเทศ ตนมั่นใจว่าพวกเขาจะมาบอกกับเราว่า ขณะนี้สถานการณ์ประเทศจะไปข้างหน้าอย่างไร เราจะได้มีโอกาสรับรู้รับทราบ 2.ในวันนั้นเราไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์และไม่ต้องบอกว่า เรื่องนี้ทำอยู่แล้ว หรือเรื่องนี้ทราบอยู่แล้ว อยากให้คนเห็นว่า นักการเมืองฟังคนเป็น เราอยากได้คนข้างนอกมาสะท้อนให้เห็นความจริง ซึ่งล้วนเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ในฐานะผู้นำทางความคิดของสังคม

ชูนโยบาย‘กระตุ้นศก.โตยั่งยืน’

เวลา 10.40น.นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ ยหลังประชุม กก.บห.ชุดใหม่ ว่า เป็นการประชุมครั้งแรกที่ได้รับเลือกเมื่อวันที่ 18ต.ค.ที่ผ่านมา เราต้องรอการรับรองของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนทํางานอย่างเป็นทางการ แต่ได้ปรึกษาหารือกันแล้วว่า เรามีเวลาน้อยมาก สําหรับเรื่องหลักที่ได้พูดคุยกันในวันนี้ คือ 1.นโยบาย เพราะสิ่งสําคัญที่สุดในการทํางานของ กก.บห.ชุดนี้ คือ 1.ต้องสร้างความหวังให้ประชาชนให้ได้หัวใจหลักของนโยบายของพรรคนั้น เรายืนยันว่า มีสิ่งดีๆและความคิดดีๆ มากมาย แต่วันนี้ประเทศไทยยังทําไม่ได้ ถ้าเศรษฐกิจไม่โต เพราะเศรษฐกิจไทยติดหล่มมานานแล้ว เพราะฉะนั้น แนวคิดที่เราจะผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโต ซึ่งจะเกี่ยวพันไปถึงการยกเครื่องภาคการเกษตร การทําให้เศรษฐกิจไทยไปสู่เศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงลดความเหลื่อมล้ํา ลดการผูกขาด จะเป็นเรื่องที่เราต้องเร่งผลักดัน โดยได้มีการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่จะมาให้ความคิดเห็นกับเรา ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ซึ่งเรามีการตั้งโจทย์ให้กับผู้ทรงคุณวุฒิเหล่านี้ว่า ประเทศไทยต้องการอะไรจากการเมือง ซึ่งกระบวนการดังกล่าว นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค นี้จะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนโยบายของพรรค

เฟ้นหาชิงสส.-ไขก๊อกไม่ใช่อุปสรรค

หัวหน้าพรรคปชป.กล่าวอีกว่า 2.การเตรียมตัวผู้สมัคร ขณะนี้มีความไม่แน่นอนทางการเมือง และต้องทํางานแข่งขันกับเวลา โดยพรรคประชาธิปัตย์จะเคร่งครัดเรื่องการทําตามกฎระเบียบและกฎหมายเกี่ยวกับการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้นที่ประชุมได้พูดคุยกันแล้วว่า คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครจะต้องประชุมเลือกประธาน รวมถึงทํางานกับรองหัวหน้าพรรคแต่ละภาคและบรรดาสาขาตัวแทนจังหวัดของพรรคทันที “ผมเรียนตามตรงว่าผมใช้เวลาในช่วง 3สัปดาห์ที่ผ่านมา พูดคุยกับบุคลากรของพรรคเยอะ มีสส.หลายท่านที่ให้การสนับสนุนผมเมื่อวันเสาร์ พูดกับผมมาก่อนวันเสาร์แล้วว่า ท่านอาจไม่ได้ร่วมงานกับผมต่อ ซึ่งผมก็เข้าใจข้อเท็จจริงทางการเมือง แต่เราต้องพยายามให้ดีที่สุด เพราะเมื่อเรามาตั้งต้นกันใหม่วันนี้ ก็พยายามพูดคุย เพราะอยากจะรักษาบุคลากรทางการเมืองของเราทุกคนแต่ธรรมชาติของการเมือง เมื่อมีการไปพูดคุยเจรจาอะไรกัน ผมเข้าใจได้ เพราะผมก็ทํางานการเมืองแบบสุภาพบุรุษ เข้าใจดีว่าบางทีใครไปตกลงอะไรไว้ เราเห็นใจ เข้าใจเขา แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรค เราคิดเพียงอย่างเดียวว่าเราจะนําเสนอทางเลือกดีที่สุด ให้กับประชาชน ทั้งนโยบายและบุคลากร ท่ามกลางข้อจํากัดด้านเวลา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

มุ่งแก้ปัญหา-ไม่ใช่หาผลประโยชน์

เมื่อถามว่า ได้ทาบทามบุคคลอื่นมาร่วมเป็นทีมเศรษฐกิจหรือไม่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีเรื่องเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องมิติด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม การสร้างความเป็นธรรมและการเมือง เช่น สิ่งที่ฉุดรั้งบั่นทอนการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะเรามีการคอร์รัปชั่นมาก จึงทําให้มีกฎเกณฑ์มากตามมา ส่งผลให้ธุรกิจเดินไม่ได้ เมื่อถามว่าการกลับมาครั้งนี้ ถือว่าเป็นการให้ความหวังหรือเป็นตัวเลือกใหม่แก่ประชาชนได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นั่นคือหน้าที่ของพรรคการเมืองอยู่แล้ว แต่ตนรู้สึกเสียดายว่า ในช่วงหลัง นักการเมืองเหมือนอยู่กันคนละโลกกับประชาชน เพราะข่าวการเมืองที่เราเห็นทุกวันนี้ ดูแล้วไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับประชาชน ตนจึงต้องการทําให้การเมืองเป็นเรื่องการแก้ปัญหาให้ประชาชนจริงๆ และอยากขอความร่วมมือสื่อมวลชนว่าเราให้มาคุยกันเรื่องที่เป็นปัญหาของประชาชนซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตเขาจริงๆ นี่คือหน้าที่ของพรรคการเมือง ไม่ใช่เรื่องการมาเล่นเกมต่อรองหรือแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน

รับมีคนไม่ไปด้วย-ต้องอุดช่องโหว่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนจะสรรหาผู้ลงสมัครได้ตั้งเป้าหมาย หรือคาดหวังการเลือกตั้งข้างหน้าอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า ตนอยากได้เก้าอี้ให้มากที่สุด เมื่อถามต่อว่าประเมินเป้าหมายพื้นที่ใดเป็นพิเศษ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคปชป.เป็นพรรคของทุกคนทั้งประเทศ ส่วนจะส่งผู้สมัครลงครบทุกเขตหรือไม่ คงต้องขอดูประเมินจากความเป็นจริง เพราะเราต้องทำงานแข่งขันกับเวลา โดยเฉพาะมีสส.หลายคนกระซิบว่า อาจจะไม่ทำงานด้วยกับเรา ก็ต้องมาเร่งอุดช่องว่างในพื้นที่ต่างๆ

“ผมบอกกับทุกคนว่า ผมเห็นคุณค่าของบุคลากร ใครที่ร่วมงานกับประชาธิปัตย์มาผมก็ยินดีที่จะทำงานด้วยต่อไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเขาด้วย ว่าแนวทางที่ผมทำกับสิ่งที่เขาตั้งใจ มันสอดคล้องกันทั้งหมดหรือไม่อย่างไร เราต้องเคารพการตัดสินใจของกันและกัน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่ามีสส.ที่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไปมากน้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ ไม่ตอบเพียงแต่หัวเราะ เมื่อถามว่า หรือว่าไปหมดเลย แต่หลายคนขอใช้คำว่า มีการพูดคุยมันลึกไปแล้วอยู่หลายคน เราก็ต้องยอมรับว่า มันเกิดสิ่งนั้นก่อนที่จะประชุมพรรคในวันเสาร์ที่ผ่านมา

พปชร.เปิดตัว80ว่าที่ผู้สมัครชิงสส.

เวลา 13.30น.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เปิดที่ทำการพรรคใหม่ ตั้งอยู่เลขที่267/1 ถนนประชาราษฎร์สาย1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ซึ่งย้ายจากอาคารรัชดาวัน ถนนรัชดาภิเษก พร้อมกับมีการประชุม กก.บห.โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค , นายภัครธรณ์ เทียนไชย รักษาการเลขาธิการพรรค , น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.แรงงาน ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และสส.สระแก้ว , นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค , พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เหรัญญิกพรรคและนายทะเบียนพรรค มล.กรณสิวัฒน์ เกษมศรี กก.บห.,นายวัน อยู่บำรุง กก.บห.รวมถึง นายไพศาล พืชมงคล อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี

จากนั้นเวลา 13.30น.พล.อ.ประวิตร แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.80คน โดย นายภัครธรณ์ เทียนไชย รักษาการเลขาธิการพรรค กล่าวว่า มีนักการเมืองที่มีประสบการณ์มาอยู่กับเราเยอะ ขณะเดียวกัน หัวหน้าพรรคได้ลงนามแต่งตั้งประธานที่ปรึกษาพรรคคือ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ซึ่งท่านเป็นผู้มีประสบการณ์การเมือง จะมาให้คำแนะนำกับพวกเราที่เป็น กก.บห.ในการที่จะสร้างสรรค์พรรคให้เติบโตขึ้นไปตามแนวนโยบายที่หัวหน้าพรรคมอบหมายไว้ เมื่อถามถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายภัครธรณ์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคต้องเป็นแคนดิเดตอยู่แล้ว เพราะเป็นหัวหน้าพรรค ต้องมีชื่อท่านอยู่แล้ว

ตั้งเป้ากวาดสส.อย่างน้อย50-60คน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า จะส่งกี่เขต และตั้งเป้ากี่ที่นั่ง นายภัครธรณ์ กล่าวว่า เป้าหมายของเราอย่างน้อยอยากมี 50-60 คนขึ้นไป เพื่อจะได้สามารถทำให้บ้านเมืองดีขึ้นได้ เพราะถ้ามี 50-60 คน อย่างน้อยเราก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลค่อนข้างแน่นอน เราเน้นเรื่องคุณภาพ ทั้งนี้ นโยบายของหัวหน้าพรรคคือ ส่งผู้สมัคร ครบสส.ทุกเขต

‘บิ๊กป้อม’ลั่นพรรคยังอยู่-สู้กันต่อไป

ด้าน พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ว่า“ฝากบอกถึงสมาชิกพรรคทุกคน ไม่ต้องห่วง ทำเต็มที่ พรรคยังอยู่ สู้กันต่อไป พร้อมสู้อยู่แล้ว”