‘ภราดร’ชี้ร่างหลักของ‘พรรคประชาชน’เปลี่ยนแปลงในชั้นกรรมาธิการ ไม่ให้ขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญได้ ยอมรับ‘กฎหมายประชามติ’ประกาศใช้ทำให้สภามีเวลาทำงานมากขึ้น เหตุร่นเวลาทำความเข้าใจประชาชนเหลือ 60 วัน
เมื่อเวลา 12.48 น.วันที่ 21 ตุลาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 156 มาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ใช้ร่างของพรรคประชาชนเป็นร่างหลัก ประกอบกับประธานคณะกรรมาธิการฯก็มาจากพรรคประชาชน เป็นห่วงว่าการแก้ไขจะสุ่มเสี่ยงขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า เมื่อมติสภาให้ใช้ร่างของพรรคประชาชนเป็นหลักก็ต้องเป็นไปตามมติของสภา ส่วนจะผ่านสภาในวาระ 3 ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการฯ จะพิจารณาอย่างไร ตนเคยอภิปรายแล้วว่าทางรัฐสภามีข้อกังวลหลายส่วน แม้แต่ร่างของพรรคภูมิใจไทยเองรัฐสภาก็มีข้อกังวล แต่ประเด็นใดที่สมาชิกมีความกังวล เราก็จะไปแก้ไขในชั้นกรรมาธิการ
นายภราดร กล่าวว่า ขณะที่ ร่างของพรรคประชาชนที่สมาชิกรัฐสภาเป็นกังวล เช่น ประเด็นว่าขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จากการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคประชาชนบอกว่าการเลือกตั้งโดยตรง แต่การทำหน้าที่ไม่ใช่เป็นผู้ร่างแต่เป็นเพียงที่ปรึกษาของผู้ยกร่างเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเรื่องที่ไม่มีการระบุไว้ ว่าห้ามให้ส.ส.ร.ที่กำลังจะจัดตั้งขึ้นแก้ไขในหมวด 1 และหมวด 2 นี่คือ 2 ข้อกังวลหลักๆที่พรรคภูมิใจไทยจะแสดงความเห็นในชั้นกรรมาธิการ ว่า 2 ประเด็นนี้อาจเป็นอุปสรรคใหญ่ในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ และจะทำให้ร่างผ่านหรือไม่ในวาระ 3 ดังนั้น กรรมาธิการต้องไปพิจารณาว่าหากมี 2 เรื่องนี้ก็จะเป็นข้อกังวลได้
เมื่อถามว่า แม้ร่างของพรรคประชาชนจะเป็นร่างหลัก แต่สามารถแปรญัตติให้คลายความกังวลได้ใช่หรือไม่ นายภราดร กล่าวว่า ทุกร่างมีการระบุว่าจะทำอะไร แต่เป็นเพียงหลักการกว้างๆว่าจะให้เพิ่มเติมหมวด 15/1
เมื่อถามว่า มีปัจจัยอื่นที่จะทำให้รัฐธรรมนูญไม่แล้วเสร็จตาม MOA หรือไม่ นายภราดร กล่าวว่านายกรัฐมนตรีระบุแล้วว่าจะยุบสภา 31 มกราคม 2569 ซึ่งเป็นไทม์ไลน์เดิมที่ตั้งเอาไว้ และเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน ไม่เกิน 60 วัน ดังนั้น คร่าวๆการเลือกตั้งจะมีขึ้นไม่วันที่ 22 มีนาคม 69 ก็เป็นวันที่ 29 มีนาคม 69 ซึ่งการทำประชามติต้องทำวันเดียวกับวันเลือกตั้ง ดังนั้น การลงประชามติก็จะนับย้อนหลังว่าจะทำวันไหน และรัฐบาลต้องออกคำถามประชามติวันที่เท่าไหร่ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายประชามติฉบับใหม่ ซึ่งได้แก้ไขใหม่เป็น 60 ถึง 150 วัน ซึ่งร่นมาจากเดิม 90 วัน ทำให้เวลาของรัฐสภาเพิ่มขึ้นอีก 2-3 สัปดาห์ จึงเชื่อว่าจะทำงานได้ทัน อย่างไรก็ตาม กรอบของการทำประชามติถ้าเป็นแบบนี้ ตนค่อนข้างมั่นใจว่าในชั้นกรรมาธิการจะพิจารณาแล้วเสร็จภายในกำหนดได้
ส่วนคำถามประชามตินั้น นายภราดร กล่าวว่า มีการกำหนดไว้อยู่แล้วด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และคิดว่าในส่วนของรัฐสภาไม่น่าจะมีปัญหา เพราะทุกส่วนเห็นพ้องกันว่าต้องเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ส่วนกระแสยุบสภาก่อนครบวาระ 31 ม.ค.69 ตามข้อตกลง MOA นั้น นายภราดร กล่าวว่า ยุบสภาน่าจะไม่มี เพราะนายกรัฐมนตรีประกาศแล้วว่าตามกำหนดเวลา 4 เดือน และนายกฯก็ไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร ท่านพูดถึงหากมีอุบัติเหตุเฉยๆ แต่ไทม์ไลน์เดิมคือ 31 มกราคม 2569
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี