‘สภาฯ’ถกร่างกม.สันติสุข ‘ณัฐวุฒิ’แจงปมร้อน ปรับหลายมาตรา หวังนิรโทษกรรมทุกกลุ่ม-ทุกสี

‘สภาฯ’ถกร่างกม.สันติสุข ‘ณัฐวุฒิ’แจงปมร้อน ปรับหลายมาตรา หวังนิรโทษกรรมทุกกลุ่ม-ทุกสี

วันอังคาร ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 14.47 น.

‘สภาฯ’ถก‘ร่างกม.สันติสุข’วาระ2 ‘ประธานเต้น’ แจงปรับเนื้อหาหลายมาตรา หวังนิรโทษกรรม-ล้างผิดครอบคลุมคนทุกกลุ่ม-ทุกสี ที่ต้องคดีการเมือง ย้ำไม่มีใครได้ทั้งหมด-เสียทั้งหมด ด้าน ‘หมอทศพร’ โชว์แฟร์ ขอไม่ร่วมสังฆกรรม เหตุมีส่วนได้เสียร่วมชุมนุม-จะถูกมองออกกม.เพื่อตัวเอง

21 ต.ค.2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข  พ.ศ. .. ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)  วิสามัญ ที่มีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นประธาน กมธ. ได้พิจารณาแล้วเสร็จในวาระ2


นายณัฐวุฒิ นำเสนอรายงานต่อที่ประชุมสภาฯ ตอนหนึ่งว่า การทำงานของกมธ. ได้พิจารณาขยายพื้นที่การนิรโทษกรรมให้ครอบคลุมทุกกลุ่มบุคคล ทุกกลุ่มการเมือง ผู้เคลื่อนไหวที่มีแรงจูงในทางการเมือง ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาให้มากที่สุด โดยอยู่ในกรอบหลักการของร่างพ.ร.บ. ทั้ง3 ฉบับที่สภารับหลักการวาระแรก ทั้งนี้กมธ.ได้แก้ไขเนื้อหาหลายมาตรา เช่น การนิรโทษกรรมคดีอาญา เสนอเพิ่มความผิดพินัย ให้ชัดเจน ครอบคลุมมากขึ้น กรณีความผิดทางแพ่ง กมธ.เห็นชอบให้ยุติบังคับคดีทางแพ่ง ส่วนการคืนเงิน ทรัพย์สินที่ถูกยึดหรืออายัดนั้นตัดออก

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับองค์ประกอบของกรรมการสร้างเสริมสังคมสันติสุข ได้ปรับให้ให้มี นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกฯที่นายกฯมอบหมายเป็นประธาน และมีรมว.ยุติธรรม ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นกรรมการ ปลัดสำนักนายกฯ เป็นกรรมการและเลขานุการ และมีองค์ประกอบที่มาจากภาคประชาชจผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ที่เสนอชื่อจากวิปรัฐบาล มติวิปฝ่ายค้าน และการเสนอชื่อจากประธานสภา พร้อมกับปรับบทบาทของกรรมการให้ครอบคลุมหลายด้านทั้งนี้ได้ปรับให้ กรรมการ นัดประชุมครั้งแรกภายใน  30 วันนับจากที่กฎหมายบังคับใช้ เพราะมองว่าการลบเลือนเยียวยาบาดแผล การทำงานของกรรมการไม่ควรช้า

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า มีประเด็นที่พูดถึงต่อกรณีของเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งทำผิดกฎหมาย ที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ความขัดแย้งทางการเมือง กมธ.ได้เพิ่มให้มีสิทธิเสนอเรื่องทำสู่กรรมการ เพื่อขอเข้ากระบวนการรอการกำหนดโทษ หากกรรมการเห็นชอบ ส่งเรื่องไปที่พนักงานอัยการ หากเรื่องอยู่ในชั้นอัยการพิจารณาได้ หากอยู่ในนั้นศาลจะถูกส่งเรื่องให้พิจารณาเป็นรายกรณี ทั้งนี้ไม่ได้เติมหรือเพิ่มอำนาจให้ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร แทรกแซงฝ่ายตุลาการ แต่เป็นไปภายใต้กรอบกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญาเด็ก และเยาวชน ที่มีบทบัญญัติกำหนดไว้ ซึ่งกมธ.นำมาเขียนให้ชัดและให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเป็นรายกรณี โดยมีเงื่อนไข และวิธีการ ที่ผู้ที่ประสงค์เข้ากระบวนการอการกำหนดโทษรับปฏิบัติต่อไป

“ในบัญชีแนบท้ายของร่างพ.ร.บ. จากเดิมเสนอ 12 ฐานความผิด กมธ. พิจารณาหารือและแสวงหาข้อมูลจากรอบด้านได้ขยายเพิ่มฐานความผิดที่ได้รับนิรโทษกรรม อีกหลายฐานความผิด เพื่อครอบคลุมให้กว้างขวางที่สุด และแน่ใจวาการพิจารณาของกรรมการตามกฎหมาย น่าจะยื่นโอกาส และความพยายามเยียวยาบาดแผลจากความขัดแย้งไปสู่ทุกกลุ่ม ทุกค่าย ทุกสีได้” นายณัฐวุฒิ กล่าว

ประธานกมธ.ฯร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุขฯ กล่าวด้วยว่า สำหรับคนที่เคลื่อนไหวและต่อสู้ทางการเมืองที่คดีเดินเร็ว ถูกพิพากษาจำคุก เช่น คนเสื้อแดง  กมธ. เห็นชอบให้เพิ่มบทลบล้างประวัติอาชญากรรม ล้างให้ทุกขั้นตอนและจากหน่วยงาน ให้เป็นผู้ไม่เคยทำผิด ไม่เคยถูกดำเนินคดี ไม่เคยต้องโทษจากความเคลื่อนไหวขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งเรื่องดังกล่าวใครไม่เจอไม่เข้าใจ เพราะมีผลกระทบต่อชีวิต เพราะมีประวัติถูกบันทึกไว้ในแฟ้มอาชญากรรม

“การออกกฎหมายฉบับนี้ มีกมธ.พิจารณา  32 คน ซึ่งการทำกฎหมายไม่ได้ทำให้ความเชื่อทางการเมืองของแต่ละฝ่ายสลายลงไปได้  แต่สิ่งที่จะบอกสังคม คือกมธ.พูดคุยกันได้ และมีวิธีหาคำตอบสุดท้าย เพื่อให้งานสำเร็จ โดยไม่ปรากฏขัดแย้งจนคุยไม่ได้ ไม่มีวอร์กเอาท์ เสนอนับองค์ประชุม หรือทำให้การทำงานของกมธ.เดินหน้าไม่ได้ ทั้งนี้การทำหน้าที่ของกมธ. ไม่มีใครได้ทั้งหมด และไม่มีใครเสียทุกอย่าง แต่ละกลุ่มแต่ละฝ่ายมีเป้าหมายประเด็นข้อเสนอของตัวเอง ในที่สุดแล้วตามร่างกฎหมายมีได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่การทำงานสามารถทำมาจนขอความเห็นชอบจากสภาร่วมกันได้” ประธานกมธ.ฯ ชี้แจง

จากนั้นได้เข้าสู่การพิจารณารายมาตรา วาระสอง โดยช่วงหนึ่ง นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย แจ้งต่อที่ประชุมสภาฯว่า ไม่ขอร่วมพิจารณาร่างกฎหมายเนื่องจากเป็นผู้ที่มีส่วนได้เสีย เข้าร่วมการชุมนุมทางการเมืองมาหลายครั้งและมีคดีติดตัว เพื่อให้ร่างกฎหมายบริสุทธิ์ และไม่ถูกมองว่าเป็นการผ่านร่างกฎหมายเพื่อตนเอง

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top