ยกฟ้อง กอล์ฟ อดีต ส.ส.ข้ามเพศ ปมถือหุ้นสื่อ ชี้โจทก์ยังนำสืบไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนา ทำผิด เจ้าตัวเผยโล่งใจกับคำตัดสิน อุบกลับมาลงสมัคร ส.ส.อีกครั้ง ชี้มีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่มากอยู่แล้ว อาจจะขออยู่เบื้องหลังแทน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 ตุลาคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ห้องพิจารณา 714 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำอ.1400/2567ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา4 เป็นโจทก์ฟ้องนายธัญญ์วาริน หรือกอล์ฟ สุขะพิสิษฐ์ นักแสดง ผู้กำกับภาพยนตร์ อดีตสส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่(อนค.) เป็นจำเลยในความผิดฐานรู้อยู่แล้วว่าตน ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งสส.หรือเป็นผู้ต้องห้ามมิให้สมัครรับเลือกตั้งหรือยินยอมให้พรรคการเมือง อื่นเสนอชื่อในการสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ
กรณีที่จำเลยได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่(อนค.) โดยไม่มีสิทธิ์ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นผู้ถือครองหุ้นในบริษัท เฮดอัพ โปรดักชั่น และบริษํท แอมฟายน์ โปรดักชั่น จำกัด ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์และสื่อมวลชน โดยในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นวันที่พรรค อนค. ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายธัญญ์วาริน ผู้ถูกร้องสิ้นสุด ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบกับมาตรา 98 (3) นับตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์2562 ในวันยื่นสมัครรับเลือกตั้ง จำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าบริษัทของจำเลยทั้งสองบริษัทเป็นโปรดักชั่น รับจ้างผลิตไม่ได้ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน โดยรับจ้างผลิตละครโฆษณาหรือตาม ที่ผู้ว่าจ้าง กำหนดมา และไม่มีช่องทางเผยแพร่เพราะผลงานเป็นสิทธิ์ของผู้ว่าจ้าง ซึ่งจำเลยยืนยันว่า เป็นบริษัทร้างไม่มีรายได้มาตั้งแต่ปี 2557 เมื่อตรวจสอบ กับนายทะเบียนพบว่าบริษัทถูกขีดชื่อออกไป เพราะไม่มีการส่งงบการเงิน
ทางนำสืบของโจทก์ไม่อาจชี้ให้เห็นว่าจำเลยมีช่องทางการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่มีผลต่อการรับรู้ต่อประชาชนอย่างไร หรือทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองอย่างไร การที่จำเลยลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เพราะเข้าใจว่าตนเองมีคุณสมบัติที่สามารถลงสมัครได้ ทางนำสืบของจำเลยไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำผิด ยังมีความสงสัยว่าจำเลยกระทำผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยพิพากษายกฟ้อง
ต่อมานายธัญวารินทร์ ให้สัมภาษณ์ว่า การที่ตนโดนกล่าวหาว่ามีความผิดเรื่องการถือหุ้นสื่อมาโดยตลอดทำให้ตนมองว่าการใช้ชีวิตทำไมถึงยากลำบากแบบนี้ ตนรู้ดีว่าไม่ได้ทำอะไรผิดจนต้องต่อสู้กับเรื่องนี้มานานหลายปีตั้งแต่ปี 2563และยังมีหนี้ที่ต้องใช้คืนเป็นเงินจำนวนมากรวมทั้งชื่อเสียงที่ตนโดนกล่าวหา จนกระทั่งศาลมีคำพิพากษายกฟ้องคดีนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจมากขึ้น
เมื่อถามว่าสิ่งที่ศาลอ่านคำพิพากษาเกี่ยวกับความเห็นของ กสทช. ได้มีการนำสืบในศาลรัฐธรรมนูญไปบ้างหรือไม่ นายธัญวารินทร์ กล่าวว่า ได้มีการนำสืบไปบ้างแล้วว่าบริษัททั้งสองไม่ได้มีหนังสือขออนุญาตเป็นสื่อมวลชนตั้งแต่ชั้นศาลรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ถึงศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินออกมาในรูปแบบดังกล่าว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องยืนตามคำตัดสินดังกล่าวไปในทุกศาล
เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะกลับมาในเส้นทางการเมืองอีกครั้งหรือไม่ นายธัญญ์วารินทร์ กล่าวว่า ส่วนนี้ยังตอบยาก เพราะระหว่างทางที่โดนตัดสินคดีนี้จนไม่ได้เป็นส.ส.ตนก็ยังร่วมกิจกรรมกับพรรคก้าวไกลจนมาถึงพรรคประชาชนอยู่ ไม่ได้หายไปไหน แค่ทำงานในเบื้องหลัง ทั้งนี้ตนไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกหรือไม่ เพราะรู้สึกว่ามีส.ส.รุ่นใหม่ที่มีคุณภาพเข้ามาทำหน้าที่มากขึ้น โดยตำแหน่ง ส.ส.ไม่ได้คิดไม่ฝันว่าจะเป็นอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นลงสมัครเพราะ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ บอกกับตนว่าสิ่งที่ตนอยากเปลี่ยนแปลงทั้ง สมรสเท่าเทียม ความเท่าเทียมทางเพศ ถ้าตอนนั้นไม่ได้เข้ามาเป็นส.ส.อาจจะไม่มีตัวแทนผลักดันในส่วนนี้ จึงเป็นสาเหตุที่เข้ามาลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนั้น พอหลังจากที่สิ่งเหล่านี้สำเร็จเป็นรูปธรรมในปัจจุบัน ตนจึงรู้สึกว่าประสบความสำเร็จตามที่วางเป้าหมายตอนที่เข้าไปเป็นส.ส.ในครั้งนั้นแล้ว หลังจากนี้ตนอาจจะโฟกัสการทำงานเบื้องหลังมากกว่า.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี