วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568
วันที่ 20 ตุลาคม 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า อนุทิน อยู่ไม่ครบ4เดือน
ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศไว้ล่วงหน้าว่า รัฐบาลชุดนี้จะบริหารประเทศไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2569 และจะยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน ซึ่งเป็นข้อตกลงตามMOA ที่ให้ไว้กับพรรคประชาชน ในการโหวตสนับสนุนให้นายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี
แต่มีการวิเคราะห์กันอย่างกว้างขวางว่า รัฐบาลชุดนี้อาจจะบริหารประเทศได้ไม่ครบ4เดือน อาจจะมีการยุบสภาก่อนวันที่ 31 มกราคม 2569 เหตุผลของการทำให้รัฐบาลชุดนี้ยุบสภา หรือนายอนุทิน นายกรัฐมนตรีชิงยุบสภาเสียก่อนนั้น ก็น่าจะมาจากการที่พรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ซึ่งถ้าหากว่ามีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีจริง รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ฝ่ายค้านมีเสียงมากกว่าเยอะมาก สามารถล้มรัฐบาลนี้ได้อย่างง่ายดาย
ถ้าดูการให้สัมภาษณ์ของนายอนุทินในลักษณะแบ่งรับแบ่งสู้ ว่าพร้อมจะยุบสภาก่อนกำหนด ก็มีความเป็นไปได้ แต่รัฐบาลของนายอนุทิน ก็พยายามจะ บริหารประเทศให้ครบตามกำหนด4เดือน โดยใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน เพราะถ้าหากยุบสภาก่อนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมีผลสำเร็จ หรือผ่านมติของที่ประชุมรัฐสภา จะสร้างความเสียหายทางการเมือง ซึ่งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ต่างก็ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ เพื่อจะนำไปสู่การทำประชามติ
ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้กังวลเรื่องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมากนัก เพราะเชื่อว่าปัญหาสำคัญของพรรคเพื่อไทย คือต้องการล้มรัฐบาลชุดนี้ให้ได้เร็วที่สุดมากกว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น่าจะเป็นเงื่อนไขเดียว และถ้าดูท่าทีความเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคเพื่อไทยหลายคน ก็เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแน่นอน
ส่วนพรรคประชาชน ที่อยากผลักดันให้ร่างแก้ไขได้ธรรมนูญประสบความสำเร็จ เพื่อจะนำมาเป็นข้ออ้างในการอธิบายกับสังคม ประเด็นการโหวตให้นายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี ว่าไม่ได้สูญเปล่าือย่างน้อยก็มีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นความสำเร็จ ในแลกเปลี่ยนกับการโหวตสนับสนุนนายอนุทินไปแล้ว พรรคประชาชนก็คาดหวังจะให้รัฐธรรมนูญประสบความสำเร็จ และอยากจะให้รัฐรัฐบาลชุดนี้อยู่ครบ4เดือนก็เป็นไปได้
แต่ถ้าหากพรรคเพื่อไทยชิงยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเสียก่อน พรรคประชาชนก็มีเหตุจำเป็นจะต้องยื่นไม่ไว้วางใจด้วยเช่นเดียวกัน เพราะถ้าดูท่าทีจากสมาชิกพรรคประชาชนบางคน ก็มีแนวโน้มว่า จะนำเอาประเด็นเรื่องคุณสมบัติของรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ หรือความล้มเหลวในการปราบแก๊งสแกมเมอร์ของรัฐบาล เป็นประเด็นในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
เพราะฉะนั้นรัฐบาลชุดนี้โดยนายอนุทิน คงจะรู้ว่ามีเงื่อนไขเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้รัฐบาลรอดพ้นจากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ต้องสร้างกระแสให้สังคมต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญสูงมาก เพื่อทำให้พรรคฝ่ายค้านไม่กล้าฝืนกระแสสังคม ที่อยากเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประสบความสำเร็จ ถ้าเป็นเช่นนี้รัฐบาลก็จะอยู่ครบ4เดือน เพื่อแลกกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะนำไปทำประชามติในวันเลือกตั้ง
ส่วนตัวเชื่อว่าแม้พรรคภูมิใจไทยหรือรัฐบาลชุดนี้ จะนำเอาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกันก็ตาม แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถฝืนกระแสเรียกร้องการยุบสภาได้ หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีก่อน จึงเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้ จะมีอายุไม่ครบ4เดือน จะมีการยุบสภาก่อนวันที่ 31มกราคม 2569 แน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี