วันที่ 24 ตุลาคม 2568 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า  "ขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ รู้หรือสมควรรู้ว่าบุคคลที่ถูกแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามเป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ"

นี่อาจจะเป็นข้อกล่าวหาที่มีต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล กรณีที่ มีหนึ่งรัฐมนตรีช่วยที่เป็นข่าวในปัจจุบัน อาจะมีพฤติกรรมเข้าข่ายการขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม  แม้จะลาออกแต่ก็ถือว่าได้มีการแต่งตั้งไปแล้ว เป็นความผิดสำเร็จ

แต่วิเคราะห์จากทิศทางลม เรื่องนี้ น่าจะไปไม่ถึงการถอดถอนนายอนุทิน

ประเด็นเรื่องราวที่เกิด ยังอยู่ในต่างประเทศ ไม่มีคำพิพากษาของศาลไทย  จึงอาจเป็นเรื่องที่ยังไม่อาจเป็นหลักฐานในคำร้องให้ถอดถอนได้

ทางที่เร็วที่สุดในการยื่นคำร้องคือ ต้องใช้เสียง สส. หรือ สว. 1 ใน 10 ของแต่ละสภา ยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ  ซึ่ง หากดูองค์ประกอบในสภาผู้แทน จะมีแค่พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชนเท่านั้น ที่มีเสียงพอเข้าชื่อ

เมื่อพรรคประชาชน ปฏิเสธแนวทางการใช้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญมาตลอด ก็เหลือแค่พรรคเพื่อไทยพรรคเดียวที่สามารถดำเนินการได้

ทั้งนี้ จึงเป็นเกมวัดใจพรรคเพื่อไทยในภาวะขาดหัวว่า จะเปิดศึกโค่นอนุทิน หรือจะรอให้หัวใหม่ตัดสินใจว่าจะคบเป็นมิตรในอนาคตหรือสะบั้นความสัมพันธ์แบบไม่เผาผีแล้ว

ทั้งหมดนี้ เวลาแค่ 3 เดือน คงไม่พอที่จะทำอะไรได้ทั้งส้มและแดง  แค่ด่าเพื่อนเอาคะแนนเข้าตัวก็เพียงพอแล้ว ไม่คิดทำอะไรมากกว่านั้น