วันเสาร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ใช้งบ9พันล้าน
เลือกตั้งสส.ควบทำประชามติ
ปธ.กกต.ชี้ประหยัดกว่า
หากแยกทำใช้งบหมื่นล.
รบ.ส่ง‘บวรศักดิ์-ภราดร’
ทำรายละเอียดร่วม‘กกต.’
“อนุทิน” ยกคณะรัฐมนตรี-เลขาฯ ครม.พูดคุย “กกต.” ปมทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ พ่วงยกเลิก MOU43-44 ในวันเลือกตั้ง กกต.แจงรวบลงประชามติ แก้รธน.-MOU-เลือกสส.คาดใช้งบ 9 พันล้าน ประหยัดกว่าแยกทำ ใช้งบกว่า 1 หมื่นล้าน ด้าน “อนุทิน” ส่ง’บวรศักดิ์-ภราดร’ตั้งคณะทำงานร่วมกกต.กำหนดรายละเอียดทำประชามติ นายกฯไม่ตอบ มีโอกาสยุบสภาฯ12ธ.ค.หรือไม่ ด้าน ’สุชาติ-ธนกร‘สวมเสื้อซบ‘ภูมิใจไทย’’อนุทิน‘มาต้อนรับชื่นมื่น โวได้บุคลากรมีคุณภาพ เสริมแกร่งรับเลือกตั้งใหญ่รอบหน้า ขณะ’สุชาติ‘ ให้คำมั่น ’เพื่อนสส.รทสช.กลุ่ม16‘รักษามารยาทการเมืองช่วงนี้ รอเข้าสมทบช่วงโหมดเปลี่ยนแปลงเคลื่อนย้าย แย้มอาจมีไหลมามากกว่านั้น ด้าน‘ธนกร‘หยอดยาหอมนายกฯในอนาคตไม่พ้น‘เสี่ยหนู’
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 24 ต.ค.2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พร้อม นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาคณะรัฐมนตรี และนายอนันต์ แก้วกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เข้าประชุมกับกกต.นำโดย นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. และคณะกรรมการกกต.เพื่อหารือแนวทางจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญและการยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา (MOU 2543) และ (MOU 2544) ในวันลงคะแนนเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น
‘อิทธิพร’ชี้กาบัตร4ใบทำสับสนแน่
หลังประชุม นายอิทธิพร ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการหารือเบื้องต้นเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติในวันเดียวกันกับวันเลือกตั้งทั่วไป หากจะมีขึ้นในวันใด กระบวนการทำงาน งบประมาณที่เกี่ยวข้องจะเป็นอย่างไร และปัจจัยในการจัดวันเดียวกันขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง โดยทั่วไปเป็นการคุยกันกว้างๆมากกว่า ไม่ได้ลงรายละเอียดที่จะต้องตัดสินใจอะไรในขณะนี้ ส่วนจำนวนบัตรจากการหารือจะต้องมีบัตรเลือกตั้ง 2ใบ สำหรับสส.แบ่งเขต และสส.ระบบบัญชีรายชื่อ ส่วนบัตรที่จะใช้ในการทำประชามติ ณ ขณะนี้ได้วางแนวไว้ว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิก MOU 43 และMOU 44 ก็จะมีบัตรประมาณ 4 ใบ ซึ่งปัจจัยพวกนี้จะต้องดูวิวัฒนาการที่จะมีขึ้นเวลาตั้งแต่ปัจจุบันจนถึง ณ เวลาหนึ่ง ซึ่งมีการพูดคุยกันว่า ต้องมีบัตรเพิ่มขึ้นแน่ๆ ทั้งนี้ คิดว่าน่าจะมีปัญหากับประชาชนในเรื่องการจดจำบัตรที่เพิ่มขึ้นบ้าง ดังนั้นเราจะต้องมีวิธีบริหารจัดการให้มั่นใจที่สุดว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิออกเสียงและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน จะไม่สับสน ซึ่งเราจะทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า กกต.มีความพร้อมที่จะปฏิบัติหรือมีความเห็นอย่างไรกับ พ.ร.บ.ประชามติฉบับใหม่ หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า แม้เป็นฉบับเก่ากกต.ก็พร้อมจะปฏิบัติตาม และเมื่อมีฉบับใหม่ประกาศใช้เราก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามนั้น ส่วนจะนับคะแนนอย่างไร ยังไม่ได้คุยในรายละเอียด รวมถึงยังไม่ได้คุยในวิธีบริหารจัดการ จะนับสส.ก่อนหรือนับประชามติก่อน จะต้องรอพูดคุยกัน
คาดงบ9พันล้านทำประชามติควบลต.
เมื่อถามถึงงบประมาณที่จะใช้สำหรับการทำประชามติ และการเลือกตั้งควบคู่กันไป อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ นายอิทธิพร กล่าว ตัวเลขกลมๆที่ประมาณการอยู่ณขณะนี้ หากทำพร้อมกัน ตัวเลขจะอยู่ที่ประมาณ 9,000 กว่าล้านบาท ส่วนถ้าทำแยกกันจะใช้งบประมาณรวม 10,000 กว่าล้านบาท โดยคำนวณจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งในปี 2569 จำนวน 53 ล้านคน เพราะฉะนั้นการทำควบคู่กันประหยัดกว่าแน่นอน
‘หนู’ไม่ตอบยุบสภา12ธ.ค.หรือไม่
ด้าน นายอนุทิน ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนว่ายังยืนยันจะทำประชามติ MOU ฉบับที่ 43 และ 44 หรือไม่เนื่องจาก มีเสียงนักวิชาการและนักการเมืองหลายคนได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องนี้ โดยนายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว เมื่อถามว่า การทำประชามติเหล่านี้จะมีความชัดเจนเมื่อใด นายอนุทิน กล่าวว่า จากนี้จะมีการหารือผ่านคณะทำงานที่ตั้งร่วมกันซึ่งมีนายบวรศักดิ์ และนายภราดร ที่จะต้องมาทำงานร่วมกันกับ กกต.ส่วนจะทราบความชัดเจนในกรอบการทำงานอย่างไรนั้น ขอย้ำว่าก็ต้องทำให้เร็วที่สุด ภายในวันที่ 31 ม.ค.2569 ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ถามว่าจะมีโอกาสยุบสภาในวันที่ 12 ธันวาคมหรือไม่ นายอนุทินไม่ตอบและเดินหันหลังกลับไปทันที
’สุชาติ-ธนกร‘สวมเสื้อ‘ภูมิใจไทย’
เสริมแกร่งรับเลือกตั้งใหญ่รอบหน้า ขณะ’สุชาติ‘ ให้คำมั่น ’เพื่อนสส.รทสช.กลุ่ม16‘รักษามารยาทการเมืองช่วงนี้ รอเข้าสมทบช่วงโหมดเปลี่ยนแปลงเคลื่อนย้าย แย้มอาจมีไหลมามากกว่านั้น ด้าน‘ธนกร‘หยอดยาหอมนายกฯในอนาคตไม่พ้น‘เสี่ยหนู’
เมื่อเวลา12.30น. ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้การต้อนรับนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายธนกร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม ที่ทั้ง2คนลาราชการ นำคณะเดินทางเข้าสมัครพรรคภูมิใจไทย รวม 4 คนประกอบด้วยนายสุชาติ นายธนกร และนายฐาปกร กุลเจริญ เลขานุการรมว.อุตสาหกรรม อดีตสส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ และนายฤทธิรงค์ ภูมิสวัสดิ์ ที่ปรึกษาของรมว.อุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังมีสส.ที่แสดงความประสงค์จะร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยในอนาคตจากพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาให้กำลังใจ อาทิ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช น.ส.กุลวลี นพอมรบดี สส.ราชบุรี นายสันต์ แซ่ตั้ง สส.ชุมพร พ.ต.ต.สุรพล บุญมา สส.นครนายกฯ นายอนันต์ ปรีดาสุทธิจิตต์ สส.ชลบุรี นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.ชลลุรี นายวัชระ ยาวอะหะ สส.นราธิวาส นายพิพิธ รัตนรักษ์ สส.สุราษฎร์ธานี นายพันธ์ศักดิ์ บุญแทน สส.สุราษฎร์ธานี นายศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ
’อนุทิน‘รับชื่นมื่น-โวบุคลากรมีคุณภาพ
โดยนายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สมาชิกใหม่ที่มีคุณภาพ นำโดยนายสุชาติ และนายธนกร ทั้ง2คนเป็นน้องรักของตน ทำงานการเมืองมาระยะหนึ่ง เมื่อถึงเวลาสมควรในวันนี้ จึงตัดสินใจที่จะมาสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เพื่อที่เราจะได้ทำงานด้านการเมือง เตรียมการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ และบริหารพรรคร่วมกัน ซึ่งทีมงานของนายสุชาติ และนายธนกรที่มาในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลการเมืองที่มีคุณภาพ ใกล้ชิดประชาชน มีความทุ่มเททำงานเพื่อบ้านเมือง พรรคภูมิใจไทยรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทุกคน และคณะทั้งหมดมาเป็นสมาชิกพรรคฯ หวังว่าจะสามารถทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศ และประชาชนจากการทำงานการเมืองของพวกเรา
‘สุชาติ’แย้มขนพรรคพวกมาอีกเพียบ
ด้าน นายสุชาติ กล่าวว่า ขอบคุณนายอนุทินที่มาให้การต้อนรับตนในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีและเป็นนักการเมืองได้ติดตามรู้จักกับนายอนุทินมาอย่างยาวนาน ทำการเมืองด้วยกัน ซึ่งวันนี้ตนมาพร้อมกับนายธนกร ตัดสินใจที่จะสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเพื่อผลักดันทางการเมือง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า วันนี้ตนมาพร้อมกับสจ.หลายจังหวัดและเพื่อนสส.ปัจจุบันประมาณ 15-16คนแต่ด้วยมารยาททางการเมือง ต้องรอให้ถึงโหมดที่จะเคลื่อนย้ายถ่ายเทเปลี่ยนแปลงได้ก่อน ถึงวันนั้นพวกเราจะมาครบทุกคน และอาจมีมากกว่านั้นอีก ยืนยันว่ากลุ่มของตนมีอุดมการณ์เดียวกันตั้งใจทำงานการเมืองให้กับประเทศชาติเชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีความรู้ความสามารถมีความซื่อสัตย์สุจริตนำพาประเทศชาติสู่ความรุ่งเรืองและประสบความสำเร็จได้แน่นอน อีกทั้งพื้นที่การทำงานของพวกเราไม่ได้มีปัญหาทับซ้อนกัน วันนี้เราอยู่บ้านเดียวกันเป้าหมายเดียวกันคือทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองเจริญก้าวหน้า
“ยืนยันว่ามาครบทุกคนแต่ด้วยการเป็นสส.วันนี้จึงสมัครได้เพียงเท่านี้ก่อน ผมเคยเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยมาก่อนในช่วงปี2551 แต่เนื่องจากการเมืองในช่วงปี54 ผมจำเป็นต้องย้ายไปพรรคอื่นก่อน ตอนนี้ก็กลับมาอยู่พรรคภูมิใจไทยอีกครั้ง” นายสุชาติ กล่าว
‘ธนกร’หยอดอนาคตนายกฯชื่อ’หนู’
ขณะที่ นายธนกร กล่าวว่า ตนก็เคยเป็นสมาชิกพรรค และเคยจะลงสมัครสส.พรรคภูมิใจไทย ตนให้ความเคารพนายอนุทิน รู้จักกันมานาน รวมถึงทำงานตั้งแต่สมัยเป็นโฆษกรัฐบาล เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่านายอนุทินเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถครบเครื่อง มีความรู้ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และเป็นคนที่สามารถประสานได้ทุกทิศ เป็นคนที่มีความอ่อนหวานและเด็ดขาด ที่สำคัญที่สุดที่ตนตัดสินใจมาร่วมงาน คือนายอนุทินยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เชื่อว่าจะสามารถนำพาประเทศไปสู่วันข้างหน้าได้ และสิ่งหนึ่งที่ประทับใจคือเมื่อนายอนุทินมาเป็นนายกฯ นโยบายต่างๆที่ดีก็ทำต่อ มีสปิริตทางการเมือง ตนคิดว่าวันนี้นายกฯในอนาคตคงจะเป็นชื่อนายอนุทิน นอกจากนี้ยังขอบคุณนายสุชาติที่ให้โอกาสตนในหลายด้านด้วย
จากนั้นนายอนุทิน ได้สวมเสื้อแจ๊คเก็ตพรรคภูมิใจไทยให้นายสุชาติ และนายธนกร รวมถึงคณะทีมงาน ทั้งนี้ ระหว่างที่นายอนุทินสวมเสื้อให้นายธนกร นายอนุทินได้ลงอักขระ หลังเสื้อแจ็คเก็ตพรรคภูมิใจไทยและทุบหลังนายธนกรอีกด้วย ทั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น
‘สุวัจน์’ชี้แก้ รธน.เรื่องดี-แต่ทำไม่ง่าย
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ใกล้จะมีการเลือกตั้ง ว่า การเลือกตั้ง สส.ครั้งต่อไปประชาชนมีความคาดหวังต่อนโยบายด้านเศรษฐกิจของแต่ละพรรคการเมือง ที่จะนำมาเสนอต่อประชาชนในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเป็นอย่างมาก สำหรับพรรคชาติพัฒนาจะได้มีการหารือ และเตรียมตัวในการสู้ศึกตั้งในช่วงปี2569 ซึ่งยังพอมีเวลาเตรียมความพร้อม เมื่อถามว่า จะเข้าร่วมกับพรรคการเมืองใดหรือไม่นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคการเมืองใด ต้องหารือกับกรรมการบริหารพรรคก่อน ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ส่วนตัวมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีขั้นตอนที่เยอะ เพราะขั้นตอนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งทำให้การแก้ไขไม่ใช่เรื่องง่าย กุญแจดอกแรกที่จะนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญคือการแก้ว่าด้วยวิธีการแก้ ฉะนั้น วิธีการแก้ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญคือมาตรา 256 ซึ่งจะต้องไปแก้ไขมาตรา 256 ไปแก้ไขวิธีการแก้รัฐธรรมนูญ ให้สามารถที่จะแก้ไขได้โดยกระบวนการแก้ต้องส่งผลดีต่อประเทศ ทั้งนี้ ขั้นตอนต่างๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าที่จะเข้าไปถึงการแก้ไขเนื้อหาคาดว่าจะใช้เวลานาน หลังการเลือกตั้ง
“เชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่ดี เพราะว่าเหตุการณ์บ้านเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น หากประเทศมีรัฐธรรมนูญที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ก็สามารถแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ทันสถานการณ์มากขึ้น ตนคาดว่าน่าจะไปถึงสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่จึงจะรู้ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จหรือไม่” นายสุวัจน์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี