วันอังคาร ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568
‘หนู’ชงไอเดีย3เสา
ความมั่นคง‘การเงิน-ดิจิทัล-มนุษย์’
ขับเคลื่อนอาเซียนบวกสาม
‘ชาดา’เย้ยพท.ขู่ซักฟอกรบ.
แค่เกมการเมือง-จ้องอาฆาต
‘สมคิด’ดัน‘จาตุรนต์’หน.พท.
นายกฯ“อนุทิน”เสนอแนวทางความมั่นคง 3 เสา ความมั่นคง“การเงิน-ดิจิทัล-มนุษย์”ขับเคลื่อนความร่วมมืออาเซียนบวกสาม เสริมความเข้มแข็งให้อาเซียนและพันธมิตรเอเชียตะวันออก“จีน เกาหลีใต้และญี่ปุ่น” ด้าน“สมคิด-วรชัย”หนุน“จาตุรนต์”นั่งหัวหน้าเพื่อไทย เหมาะสมในสถานการณ์ มั่นใจจะฉายแสงออกมาแน่นอน
เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 27 ตุลาคม 2568 (ตามเวลาท้องถิ่นเร็วกว่ากรุงเทพฯ1ชั่วโมง) ณ ศูนย์การประชุม KLCC กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม (ASEAN Plus Three Summit APT) ครั้งที่ 28 พร้อมผู้นำ/ผู้แทนประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศคู่เจรจาบวกสาม ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี
โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงย้ำถึงความสำคัญของกลไกอาเซียนบวกสาม ในการเป็นเวทีหลักที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมแก่ประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วิกฤตการณ์การเงินในปี1997 จนถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19และภัยพิบัติทางธรรมชาติ
นายกฯแนวทางความมั่นคง3เสา
นายกรัฐมนตรีชี้ให้เห็นว่าโลกในปัจจุบันมีความซับซ้อนและเปราะบางมากขึ้น อาเซียนและประเทศบวกสามจึงจำเป็นต้องเสริมสร้างความร่วมมือให้เข้มแข็งและเท่าทัน เพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่อย่างครอบคลุมและทันการณ์ โดยนายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวคิด”3Securities Approach”หรือ”ความมั่นคง 3ด้าน”เพื่อเป็นทิศทางขับเคลื่อนความร่วมมืออาเซียนบวกสามในอนาคต ได้แก่ 1.ความมั่นคงทางการเงิน (Financial Security)
นายกฯย้ำความสำคัญของการยกระดับข้อริเริ่มเชียงใหม่ (Chiang Mai Initiative Multilateralisation :CMIM)ไปสู่การจัดตั้งกลไก “Rapid Financing Facility” เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินได้อย่างทันท่วงทีในยามเกิดวิกฤต พร้อมชื่นชมถ้อยแถลงว่าด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเงินระดับภูมิภาค ซึ่งจะช่วยสร้างระบบรองรับความมั่นคงทางการเงิน (Financial Safety Net) ที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น 2.ความมั่นคงทางดิจิทัล (Digital Security) นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลควรเกิดขึ้นอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในระดับชุมชนฐานรากและผู้ประกอบการ MSMEs เพื่อให้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนการเติบโตอย่างครอบคลุม พร้อมสนับสนุนการจัดทำความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน(ASEAN Digital Economy Framework Agreement: DEFA) ที่จะเป็นโอกาสใหม่ของการค้า การลงทุน และนวัตกรรมในภูมิภาค
โดยนายกรัฐมนตรียังเสนอให้อาเซียนบวกสามเร่งความร่วมมือในด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์(AI)อีคอมเมิร์ซและการพัฒนาแรงงานดิจิทัล พร้อมทั้งเข้มงวดป้องกันอาชญากรรมไซเบอร์ เพื่อสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ปลอดภัยและยั่งยืน
3.ความมั่นคงของมนุษย์ (Human Security) นายกฯเน้นย้ำความเป็นอยู่ของประชาชนคือหัวใจของความร่วมมืออาเซียนบวกสาม จึงเสนอให้อาเซียนและพันธมิตรที่สำคัญกับอาเซียนทั้ง 3ประเทศ ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและจริงจังยิ่งขึ้นในการปราบปรามScammer ซึ่งกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนโดยตรง นอกจากนี้ควรเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารผ่านการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) และการพัฒนาองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม (ASEAN Plus Three Emergency Rice Reserve- APTERR) ให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประเทศสมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งขยายการให้ความช่วยเหลือไปยังสินค้าเกษตรประเภทอื่น
รับรองแถลงการณ์อาเซียนบวกสาม
นอกจากนี้ นายกฯเสนอให้ใช้ประโยชน์จากศูนย์อาเซียนในประเทศไทย เช่นศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงวัยอย่างมีศักยภาพและมีนวัตกรรม (ASEAN Centre for Active Aging and Innovation-ACAI) และศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (ASEAN Centre for Sustainable Development Studies and Dialogue- ACSDSD) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน การเงินสีเขียว และการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด นายกฯได้แสดงความชื่นชมประเทศคู่เจรจาบวกสามที่มีบทบาทเชิงรุกและสร้างสรรค์ต่ออาเซียน
พร้อมยืนยันว่าไทยสนับสนุนความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ระหว่างประเทศบวกสาม เพื่อเสริมความเข้มแข็งภูมิภาคเอเชียตะวันออกอย่างแท้จริง หลังการประชุม ที่ประชุมได้ร่วมรับรองแถลงการณ์ผู้นำอาเซียนบวกสามว่าด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเงินระดับภูมิภาค (ASEAN Plus Three Leaders’ Statement on Strengthening Regional Economic and Financial Cooperation)
‘สมคิด’หนุน‘จาตุรนต์’หน.คนใหม่
นายสมคิด เชื้อคง อดีตสส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพรรค พท.เตรียมหารือเพื่อสรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่หลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรค พท.ที่ลาออกจากหัวหน้าพรรค ว่า มีการเสนอชื่อหัวหน้าพรรคคนใหม่หลายชื่อ หนึ่งในนั้นคือ นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งตนมองว่า นายจาตุรนต์ เหมาะสมกับสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน เนื่องจากนายจาตุรนต์ ถือเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมากมาย มีความเหมาะสม มีความเป็นผู้นำ เป็นคนที่คิดอะไรตรงไปตรงมา
การนำเสนอครั้งนี้ยังไม่คุยกับ นายจาตุรนต์และไม่ได้ปรึกษาใครในพรรค เป็นความเห็นของตนในฐานะสมาชิกพรรคคนหนึ่ง ที่กำลังจะเลือกหัวหน้าพรรควันที่ 31ตุลาคม โดยขอเสนอ นายจาตุรนต์ เป็นหัวหน้าพรรค ด้วยเหตุผลเป็นนักการเมืองที่มีจุดยืนชัดเจนทางการเมืองมาตลอดและเดินในแนวทางประชาธิปไตยมาตลอดชีวิตการเมือง เป็นสิ่งที่จับต้องได้ รวมทั้งเป็นคนมีความรู้ความสามารถไม่เป็นสองรองใคร มั่นใจว่า นายจาตุรนต์ จะฉายแสงของตัวเองออกมาอย่างแน่นอน แต่ตนเป็นเพียงเสียงเล็กๆ เพียงเสียงเดียว ส่วนใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็เป็นสิทธิ์แต่ละท่าน ตนเพียงบอกว่า หากตนมีสิทธิ์เลือกหัวหน้าพรรค ตนจะเลือก นายจาตุรนต์อย่างแน่นอน
‘วรชัย’เชื่อเชื่อมต่อปชต.เก่า-ใหม่ได้
นายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีพรรค พท.เตรียมสรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่หลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรค พท.ที่ลาออกจากหัวหน้าพรรคว่า พรรคเพื่อไทยมาจากรากเหง้าของพรรคไทยรักไทย ซึ่งยืนหยัดต่อสู้กับอำนาจเผด็จการและอำนานนิยมมาตลอด เป็นตัวแทนของประชาชนที่ต้องการระบบประชาธิปไตยอุดมการณ์ไม่เคยเปลี่ยน ถูกยุบถูกกระทำถูกยึดอำนาจปลดนายกฯถึง 6 คน มาวันนี้พรรคเพื่อไทยแม้บางครั้งอาจถูกมองว่าจุดยืนเปลี่ยนไปบ้าง แต่พรรคเพื่อไทยก็ยังคงยืนหยัดกับการสู่กับอำนาจนิยม เมื่อถึงวาระเลือกหัวหน้าคนใหม่ที่มีการพูดถึงกันหลายชื่อ
“แต่ส่วนตัวมองว่าคนที่เหมาะสมคือนายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ยืนอยู่กับพรรคไทยรักไทยจนถึงวันนี้ ผ่านเหตุการณ์ต่อสู้ร่วมกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ที่สำคัญประวัติส่วนตัวก็ต่อสู่เพื่อประชาธิปไตยร่วมกับคนเดือนตุลา ตนจึงมองว่าสถานการณ์ในวันนี้ นายจาตุรนต์ สามารถเชื่อมคนรักประชาธิปไตยกับคนรุ่นใหม่ได้อย่างแนบเนียน จึงเหมาะสมกับการนำพรรคเพื่อไทยในสถานการณ์นี้ ไม่มีใครเหมาะสมเท่านายจาตุรนต์ หวังว่าคนในพรรคทั้งคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ จะประสานกันเลือกนายจาตุรนต์มานำพรรค เพื่อให้ภาพของพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยกับประชาชนต่อไป”นายวรชัย ย้ำ
ปชป.คึกคักแห่สมัครสมาชิกพรรค
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเจะอามิง โตะตาหยง อดีต สส.นราธิวาส และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะอดีต สส.อดีตผู้สมัครและผู้นำท้องถิ่นภาคใต้เข้าพบ กก.บห.ชุดใหม่ เพื่อประกาศเจตนารมณ์ ยืนยันร่วมอุดมการณ์กับพรรคปชป.โดยระบุว่า รอคอยวันที่พรรคจะกลับมาแข็งแกร่งภายใต้การนำของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค โดยมี นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ ให้การต้อนรับ
นายชัยชนะกล่าวขอบคุณว่า เป็นมิติใหม่ ที่พรรคกำลังเดินหน้าเปิดรับผู้สนใจเข้าสู่กระบวนการสรรหาผู้สมัคร สส.ซึ่ง กก.บห.ชุดใหม่กำลังเร่งยกร่างนโยบายสำคัญที่เป็นปัญหาของประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ยาเสพติด การศึกษา สาธารณสุข โดยเฉพาะปัญหาความมั่นคงชายแดนใต้ โดยยืนยันหลักการของนายอภิสิทธิ์ว่าการแก้ปัญหาจะไม่ทำแบบชั่วคราว แต่ต้องทำอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการทำลายวงจรยาเสพติด การรับมือกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เช่นสแกมเมอร์ การเลือกตั้งครั้งหน้าจะยังให้ความสำคัญกับเรื่องกระจายอำนาจ ต้องไม่เป็นวาทะกรรม ต้องพูดและทำจริงๆเชื่อว่าการเลือกตั้งวันข้างหน้าเป็นการแข่งขันทางด้านความคิด ถ้าเรานำเสนอนโยบายที่ประชาชนชาวไทยจับต้องได้ และเชื่อมั่นว่าเราและมีความหวังกับเขาได้ เราจะกลับมาเป็นพรรคขนาดใหญ่ได้อีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดทั้งวันบรรยากาศที่สำนักงานใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ ยังคงคึกคักไปด้วยสมาชิกพรรคทั้งเก่าและใหม่จากทั่วประเทศเดินทางเข้ามาสมัครสมาชิกพรรคอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
‘ชาดา’ชี้ซักฟอกรบ.แค่เกมการเมือง
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจะยื่นซักฟอกรัฐบาล ทำให้อาจมีการยุบสภาภายในปลายปีนี้ ว่า เป็นเกมการเมือง การจะยื่นซักฟอกอยู่ที่ความเหมาะสมประชาชนดูอยู่ จะอาฆาตไปหรือไม่ เพราะรัฐบาลเพิ่งทำงาน คนอื่นเขาทำมาเป็นปี เราทำเพียงแค่ไม่กี่วันก็มีผลงานมากมายยังไม่มีอะไรบกพร่อง แต่ก็เป็นสิทธิ์ฝ่ายค้านที่จะยื่น อยู่ที่ประชาชนว่า จะยอมรับหรือไม่ ส่วนฝ่ายรัฐบาลจะทำอย่างไรก็ต้องปรึกษานายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่า การยื่นซักฟอกเป็นแรงกดดันทางการเมือง จะทำให้นายกฯตัดสินใจยุบสภาก่อนหรือไม่ นายชาดากล่าวว่า การยุบสภาเป็นอำนาจนายกคนเดียว ต้องไปถามนายกฯ
เมื่อถามว่า หากยื่นซักฟอกจริงวิปรัฐบาลจะทำอย่างไร นายชาดา กล่าวว่า ก็เตรียมการไปตามสภาพรัฐมนตรีก็เตรียมชี้แจงในสิ่งที่ทำไป แต่อย่าลืมว่า ทำงานมา 2ปีต้องดูว่า ใครทำงานมากกว่ากัน การเมืองก็เป็นเรื่องของการเมือง แต่การเมืองที่สำคัญ คือ ผลประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่า ส่วนผู้ที่จะยื่นซักฟอกนั้นเพิ่งลุกจากโคลนมาแป๊บๆ ถ้าคิดว่าตัวท่านเกลี้ยงก็ว่าไป เมื่อถามว่า ทำงานร่วมกับฝ่ายค้านเป็นอย่างไรบ้าง นายชาดา กล่าวว่า ประสานงานกันธรรมดาทางพรรคเพื่อไทยก็พูดคุยกันได้อยู่ ทางพรรคประชาชนก็ทำงานตามสไตล์ของเขา เขามีจุดยืนของเขาเราก็มีจุดยืนของเรา ก็มาดูว่าอันไหนที่ไปกันได้ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ซึ่งคงไม่มีใครที่จะกล้าไปทำลาย
‘อิ๊งค์’เยี่ยม’แม้ว’ครั้งที่11อาการดีขึ้น
เวลา 10.40น.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เดินทางมาเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งวันนี้ถือเป็นครั้งที่ 11 นับตั้งแต่ถูกคุมขังตามคำสั่งบังคับโทษ เมื่อวันที่ 9ก.ย.ที่ผ่านมา โดยวันนี้ น.ส.แพทองธารและนายปิฎก ได้สวมชุดสีดำไว้ทุกข์ จากนั้น น.ส.แพทองธารและนายปิฎก เข้าเรือนจำเพื่อเยี่ยมบิดาประมาณ1ชม.กระทั่งเวลา 11.30น. น.ส.แพทองธาร พร้อมนายปิฎก เดินออกจากเรือนจำกลางคลองเปรม
โดย น.ส.แพทองธาร เผยว่า คุณพ่อได้กล่าวผ่านมายังตนว่า รู้สึกเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระพันปีหลวง รวมทั้งเสียใจที่ไม่มีโอกาสได้ไปกราบพระบรมศพ เนื่องจากคุณพ่อก็เคยถวายงานรับใช้พระองค์ท่านอยู่หลายครามาหลายปี คุณพ่อรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเสียดายอย่างมาก ส่วนเรื่องสุขภาพตอนนี้โอเคขึ้น อาการเจ็บปวดตามร่างกายหรือเรื่องความดันก็ดีขึ้น แต่ตัวยังคงมีอาการเครียดอยู่บ้าง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี