วันอังคาร ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ไทยขอจัดประชุม
ปราบสแกมเมอร์นานาชาติ
กต.เดินหน้าประสานทันที
ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพประชุมปราบปรามสแกมเมอร์ กลางเวทีประชุมอาเซียนที่กัวลาลัมเปอร์ หลายชาติขานรับ “อนุทิน” มอบ กต.ดำเนินการแล้ว ขณะเดียวกัน ไทยยื่นหนังสือประท้วงทหารเมียนมา ระเบิดเคเคปาร์คขับไล่แก๊งคอลฯ ชาวบ้านฝั่งไทย โดนลูกหลงเพียบ
เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 27 ตุลาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 26 (26th ASEAN-Republic of Korea Summit) และการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม (ASEAN Plus Three Summit: APT) ครั้งที่ 28 ในวันเดียวกันนี้ว่า ประเทศไทย ยืนยันจะให้ความร่วมมือทำให้เกิดการร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์หรือสแกมเมอร์
โดยไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเพื่อหาพลังของภูมิภาคในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้เป็นรูปธรรมและจริงจัง ซึ่งเป็นการร่วมมือกันในระดับนานาชาติ ตนได้เจอประธานาธิบดีเกาหลีใต้ พูดคุยวิธีการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ได้มอบหมายกระทรวงการต่างประเทศไปดำเนินการแล้ว ซึ่งหน่วยงานที่รับข้อสั่งการก็จะนำไปดำเนินการ
นายอนุทิน ยังให้สัมภาษณ์ด้วยว่าได้มีโอกาสสนทนากับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ในเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้สิ้นซากเร็วที่สุด
นายกฯ กล่าวด้วยว่าที่ผ่านมาได้รับรายงานจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)อย่างต่อเนื่อง ว่าได้ดำเนินการดำเนินคดียึดทรัพย์จับกุมอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมวงเงินกว่า 10,000 ล้านบาทแล้ว และมีหลายร้อยคดี สามารถจับตัวผู้ต้องหาและดำเนินคดีได้ รวมทั้งสืบหาเส้นทางเงิน เพื่อขยายผลให้ไปสู่นายทุนใหญ่ให้ได้ และเมื่อ2-3วันที่แล้ว ได้เซ็นเพิกถอนสัญชาตินายลียง พัด ที่ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รายงานว่าเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจประเภทนี้ และมีเครือข่ายที่เชื่อได้ว่าใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการฟอกเงิน
วันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้ทำการประท้วงไปยังทหารเมียนมา กรณีถล่ม KK ปาร์ค แหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมย จังหวัดเมียวดี ชายแดนไทย-เมียนมา ตรงข้ามบ้านแม่กุท่าซุง อ.แม่สอด จ.ตาก โดยหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกองกำลังกะเหรี่ยง BGF(Karen Border Guard Force) กับกองทัพเมียนม่า เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีการปราบปรามสแกมเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามแรงระเบิดได้ทำให้สะเก็ดเหล็กและปูนลอยข้ามไปยังบ้านเรือนฝั่งไทย 4 จุด ซึ่งบ้านเรือนของคนไทย
ขณะที่ศูนย์สั่งการชายแดน ไทย - เมียนมา จังหวัดตาก ได้ออกแถลงการณ์สถานการณ์ชายแดน โดยเนื้อหาบางส่วนระบุว่า เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ทหารเมียนมา กับ กองกำลังชนกลุ่มน้อย (BGF) ได้ทำการระเบิดทำลายอาคารภายในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษจีน KK Park บ้านเองจีเหมี่ยง อำเภอเมียวดี จังหวัดเมียวดี ด้านตรงข้าม บ้านแม่กุใหม่ท่าซุง ตำบลแม่กุอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ห่างจากแนวชายแดน ประมาณ 500 เมตร จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้พื้นที่ฝั่งไทยได้รับผลกระทบบางส่วน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ศูนย์สังการชายแดนฯระบุว่ากองกำลังนเรศวรติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อม ในการรองรับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบ ต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย ขณะที่หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดน และลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ตามแนวชายแดน จัดกำลังพลชุดเคลื่อนที่เร็ว พร้อมอาวุธยิงสนับสนุนเข้าที่ตั้งยิงตามแผนเผชิญเหตุ เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทยในพื้นที่ และทำหนังสือประท้วงผ่านคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย -เมียนมา (TBC) ให้ระมัดระวังการปฏิบัติ การทำลายภายในอาคารสำนักงาน และวัสดุอุปกรณ์ภายในพื้นที่โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษจีน KK Park เพื่อไม่ให้กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของ
ศูนย์สั่งการชายแดนฯระบุว่า กองทัพอากาศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมขึ้นบินลาดตระเวนรบ หากมีอากาศยานรุกล้ำน่านฟ้าไทย
และในการเดินทางลงพื้นที่ชายแดนของ พล.ท.วรเทพ บุญญะ แม่ทัพภาคที่ 3 และ พล.ต.ท.กิตติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค6 และนายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา รองผวจ.ตาก รักษาการผวจ.ตาก ได้เดินทางไปที่หน่วยเฉพาะกิจราชมนู เพื่อร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก รวมทั้งหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง จากนั้นคณะเดินทางไปยังจุดตรวจบ้านห้วยหินฝน ถนนสายตาก แม่สอด ตำบลแม่ปะ โดยได้พบกับเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย เพื่อคุยกันถึงปัญหาการค้ามนุษย์ และขอความร่วมจากทางประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นเหยื่อมากกว่าชาติอื่นๆ ให้ป้องกันไม่ประชาชนอินหลังเชื่อไปที่ฝั่งเมียนมาด้วย
พล.ท.วรเทพ บุญญะ แ ม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ได้มาพูดคุยกับส่วนที่เกี่ยวข้อง ภาคีเครือข่ายทุกฝ่าย ร่วมกันปฎิบัติผ่านศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก โดยมีผวจ.ตาก ซึ่งมีการสกัดกั้นคนเข้าทางบก ทางอากาศ ณ ท่าอากาศยาน ทางเดินเท้า และสกัดกั้นคนต่างชาติที่มาจาก 5 อำเภอชายแดน โดยยังยึดติดกับมาตรการ 3 ตัดเหมือนเดิม และมีบุคคลต่างชาติ 28 สัญญาติรวมสัญชาติไทยด้วย จำนวน 1,280 คน
“หากฝ่ายเมียนมายังคงปราบปรามกวาดล้าง คาดว่ายังมีการข้ามมาฝั่งประเทศไทยอีก ถ้าหนีมาจำนวนมาก ทางจังหวัดตากได้เตรียมแผนรองรับไวแล้วโดยมีพื้นที่พักคอยรองรับไว้ 2 แห่ง และยังจะต้องไปหารือกับหน่วยเหนือในเรื่องงบประมาณในการดูแล ทางทหารมีการประสานกับทางคณะกรรมการชายแดนไทย เมียนมาส่วนท้องถิ่น (อาร์บีซี.)แม่สอด เมียวดีอยู่ หากอันไหนไม่ถูกต้องก็จะทำหนังสือประท้วงไป สำหรับระเบิดที่เกิดขึ้นในฝั่งเมียนมา 3 วันนั้น เป็นการทำลายของฝั่งเมียนมาเอง และห่างจากชายแดน0.5 กิโลเมตร ไม่ได้มีการใช้โดรนทิ้งระเบิดเป็นการวางระเบิดทำลายเท่านั้น” แม่ทัพภาค 3 กล่าว
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)ให้สัมภาษณ์กรณีรัฐบาลอาจจะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ กรณีนายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีตรมช.คลังว่า จะผิดจะถูกตนไม่ทราบ แต่สิ่งที่ต้องชื่นชมคือท่านมีสปิริตทางการเมือง ซึ่งไม่มีในนักการเมืองทั่วไป ส่วนตัวชื่นชมนายวรภัค ตนไม่มีความรู้เรื่องสแกมเมอร์ เรื่องบริษัทต่างๆท่านจะผิดหรือถูก ตนไม่ทราบ แต่สิ่งที่เราเรียกร้องมาตลอด นายวรภัคก็ได้ทำแล้ว ตนว่าสื่อมวลชนก็ต้องชื่นชมท่านด้วยในความเป็นสุภาพบุรุษ
เมื่อถามว่าคนไม่เชื่อมั่นเรื่องการตั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและรมว.เกษตร มาเป็นประธานปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ นายชาดา กล่าวว่าตนไม่ทราบ พร้อมย้อนถามว่า ใครตั้ง รัฐบาลตั้งหรือ ตนไม่ทราบจริงๆ
“ก็ทำไม ถ้าคุณเข้าใจแบบนั้น ทำไมคุณไม่เข้าใจว่าเอาโจรไปปราบโจรดีไหมล่ะ ขอให้คุณธรรมนัสรู้เรื่องจริงเถอะ ผมว่าเขาก็ต้องทำได้ อันนี้อยู่ที่ตัวท่าน อย่าเพิ่งไปวิพากษ์วิจารณ์อะไร ผมก็ไม่ทราบ บอกตรงๆ ผมเสพข่าวน้อยมาก เสพเฉพาะเรื่องสำคัญ เพราะกลัวเข้าไปอยู่ในกระแสลมปั่นป่วน แล้ววิธีคิดของเราจะเสียไป ผิดไป” นายชาดา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี