‘เลขาฯกฤษฎีกา’แจง‘แรร์เอิร์ธ’ผ่านครม.นัดพิเศษแล้ว ไม่ผูกพัน-ไม่ใช่คู่สัญญา แค่ความร่วมมือ

‘เลขาฯกฤษฎีกา’แจง‘แรร์เอิร์ธ’ผ่านครม.นัดพิเศษแล้ว ไม่ผูกพัน-ไม่ใช่คู่สัญญา แค่ความร่วมมือ

วันอังคาร ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 10.03 น.

‘เลขาฯกฤษฎีกา’แจงลงนาม‘แรร์เอิร์ธ’ผ่านครม.นัดพิเศษแล้ว​ การันตีไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย-ไม่ใช่คู่สัญญา เป็นเพียงความร่วมมือ

เมื่อเวลา​ 09.05 น.​วันที่ 28 ต.ค.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปกรณ์​ นิลประพันธ์​ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา​ กล่าวถึงการลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาของห่วงโซ่อุปทานของแร่สำคัญ แรร์เอิร์ธ ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา​จะเป็นข้อผูกมัดหรือไม่​ ว่า​ จากกรณีที่ เว็บไซต์ทำเนียบขาวเผยแพร่รายละเอียดของ MOU ดังกล่าว ไม่ผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฉะนั้น ไม่ถือเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 เป็นเพียงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่มีอะไรมากมาย และเป็นไปตามที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทยให้สัมภาษณ์ไว้


ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็นหนึ่งในการที่สหรัฐฯใช้เป็นมาตรการกดดันไทยหรือไม่​ นายปกรณ์ กล่าวว่า ความเห็นส่วนตัวคิดว่าไม่ เพราะคล้ายกับการตกลงกัน​ เป็นลักษณะการคล้ายว่าตกลงกันอย่างไรในเบื้องต้น​ และไม่มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ​ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายไทย​ และไม่ใช่แค่สหรัฐฯมาลงทุนที่ไทยอย่างเดียว ไทยก็มีโอกาสไปลงทุนที่สหรัฐฯ ด้วยเหมือนกันหากมีความสามารถ ฉะนั้น เป็นเหมือนการต่างตอบแทนซึ่งกันและกัน ส่วนรายละเอียดต้องไปว่ากัน และต้องว่ากันตามกฎหมายแร่ของไทยที่ระบุไว้ว่าจะต้องมีการเปิดประมูลและการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ยืนยันว่ากฎหมายไทยครอบคลุมในเรื่องนี้

ส่วนข้อกังวลนี้จะมีการรับไว้พิจารณา แต่ในทางปฏิบัติจะพยายามไม่ให้เกิดปัญหา ซึ่งการลง MOU ในครั้งนี้คล้ายกับที่ไทยไปลงนามกับประเทศอื่น และเขาไม่ได้ทำกับเราประเทศเดียว ทำทั้งกัมพูชา มาเลเซีย เมื่อถามว่า MOU ดังกล่าวสามารถยกเลิกได้ใช่หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า สามารถยกเลิกได้ เพราะมีข้อยกเลิกไว้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า MOU ดังกล่าวเคยนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ เลขาฯกฤษฎีกา กล่าวว่า เคยนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมครม.นัดพิเศษฯแล้ว​ ซึ่งมีการพิจารณากันอย่างละเอียด และรมว.ต่างประเทศได้ช่วยดูในเรื่องของถ้อยคำ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่วนกฤษฎีกาดูในเรื่องกฎหมาย เราดูครบในทุกมิติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากต้องการยกเลิก MOU ดังกล่าวจะต้องได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่ายหรือไม่ นายปกรณ์​ กล่าวว่า มีรายละเอียดในการยกเลิกไว้ ขออย่าดูรายละเอียดโดยใช้ AI สรุป เนื่องจากไม่ตรง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้เคยทดลองแล้ว​ ใน MOU ดังกล่าวไม่ได้ใช้คำว่า​ คู่สัญญา แต่ใช้ว่าว่า​ ความร่วมมือ ฉะนั้น เป็นความเท่าเทียมกันในการตกลงของทั้งสองฝ่าย  ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายภายใน

เลขาฯกฤษฎีกา กล่าวว่า ข้อก่อนสุดท้ายในMOU ระบุไว้ชัดว่าหากจะทำอะไรให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบภายในของแต่ละฝ่าย ยืนยันว่าข้อกังวลที่มีอยู่จะต้องรับไว้ และขออย่ากังวล เนื่องจากไม่ใช่หนังสือสัญญาที่มีข้อผูกมัด

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top