วันอังคาร ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568
‘บิ๊กเล็ก’ชี้ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธ 26 ต.ค.เป็นเชิงสัญลักษณ์-จุดเริ่มต้น วางไทม์ไลน์ 6 สัปดาห์ 3 เฟส เผยทุ่นระเบิดจุด‘ปราสาทตาควาย’ให้ AOT ดูว่าเก็บกู้จริงหรือไม่
เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 28 ต.ค.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการถอนอาวุธหนักออกจากแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ว่า หากนับเวลาตั้งแต่มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เมื่อวันที่ 23 ต.ค.และในวันที่ 26 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้ลงนามปฏิญญาเพื่อนำไปสู่สันติภาพ ช่วงค่ำของวันที่ 26 ต.ค.ก็มีการเริ่มถอนอาวุธ ซึ่งอาวุธของทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา จุดที่ถอนออกมาไม่เหมือนกัน ขณะนี้กองทัพภาคที่ 2 อยู่ระหว่างการพูดคุยในรายละเอียดกับกัมพูชา จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากระทรวงกลาโหมยึดมั่นในอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ จะไม่ยอมให้ไทยเสียศักดิ์ศรีอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไทยมีการถอนอาวุธในช่วงค่ำวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมาใช่หรือไม่ เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ พล.อ.ณัฐพล ยอมรับว่า ใช่
เมื่อถามถึง BM 21 ที่ไทยคาดหวังให้กัมพูชาถอนออกไป เนื่องจากเป็นอาวุธที่อันตราย พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ถือเป็นสิ่งที่อยากให้กัมพูชาได้ดำเนินการถอน ซึ่งตามแผนการปฏิบัติการได้กำหนดกรอบเวลาเอาไว้ 6 สัปดาห์ ประมาณ 1 เดือนครึ่ง หรืออาจจะมากกว่านั้น และกัมพูชาเห็นพร้อง โดยจะมีอยู่ 3 เฟส คือเริ่มทันทีในคืนวันที่ 26 ต.ค. ส่วนเฟสที่ 2 จะเริ่มภายใน 3 สัปดาห์ และเฟสที่ 3 คือ สัปดาห์ที่ 6 ซึ่งจะมีการแบ่งการถอนอาวุธเป็นล็อต ส่วนแต่ละล็อตจะถอนอาวุธอะไรบ้างนั้น อยู่ระหว่างการพูดคุย และต้องถอนพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นเฟสไหนก็ตาม
เมื่อถามถึงการจัดตั้งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ใช้กรอบการทำงานระยะเวลาเท่าใด พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ประมาณ 3 เดือน และสามารถต่อได้อีก คาดว่าในห้วงเวลาดังกล่าวสามารถเห็นผลได้ใน 3 เรื่อง ทั้งถอนอาวุธหนัก เก็บกู้วัตถุระเบิดตามแนวชายแดน ในส่วนของบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 17 ธ.ค.68 รวมถึงพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ด้วย ขณะนี้เริ่มทำอยู่ โดยเริ่มทำแผนการดำเนินการส่งไปยังกัมพูชา
รมว.กลาโหม กล่าวว่า วันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นวันดีเดย์ อาวุธอะไรที่เริ่มถอนได้ก็ให้ถอน แม้จะเล็กน้อย แต่ถือว่าเป็นการเริ่มต้น เราก็ติดตามความคืบหน้าไป ปัจจุบันนี้ได้ขอนายกรัฐมนตรีตั้งคณะทำงานในเรื่องนี้ โดยมี พล.อ.อุกฤษฏ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน และมีหน่วยงานกระทรวงการต่างประเทศ สภาความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทยร่วม ขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนสบายใจ ส่วนเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดนั้น หากอยู่ในพื้นที่ของฝ่ายใดให้ฝ่ายนั้นเป็นผู้เก็บกู้ทุ่นระเบิด
เมื่อถามว่า จะมั่นใจได้อย่างไรว่าฝ่ายกัมพูชาจะเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ เช่น ในพื้นที่ปราสาทตาควายและพื้นที่โดยรอบ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า คณะ AOT ต้องลงไปดูในพื้นที่ปราสาทตาควายว่ามีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดจริงหรือไม่ เบื้องต้นเริ่ม 13 พื้นที่
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี