ทำยังไงถึงจะชนะ?! ‘สุวิทย์’ตอบ หลัง‘อลงกรณ์’โพล่งถามกลางวงเสวนา‘ปชป.’

ทำยังไงถึงจะชนะ?! ‘สุวิทย์’ตอบ หลัง‘อลงกรณ์’โพล่งถามกลางวงเสวนา‘ปชป.’

วันอังคาร ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 13.31 น.

ทำยังไงถึงจะชนะ?! "อลงกรณ์"โพล่งถามกลางวงเสวนา"ประชาธิปัตย์"ต้องทำอย่างไร หลังแพ้เลือกตั้งมา 33 ปี ด้าน"สุวิทย์"ตอบนอกจากรีเซ็ตพรรคแล้ว ต้องรีเซ็ตประเทศด้วย ขอใจเย็นๆ มองไกลๆให้บาลานซ์ ยันเปิดเวทีคนรุ่นใหม่มีส่วนร่วม อย่าให้พรรคการเมืองครอบงำ ขณะที่"หัวหน้ามาร์ค"รับ"ดร.เอ้-คุณหญิงกัลยา"ไปไกลแล้วคงไม่กลับ ฝากการบ้านพรรคไหน"ประชานิยม"เกินจริง ขอ"นักวิชาการ"ออกมาตอบโต้

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีการจัดเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประเทศไทยต้องการอะไร จากพรรคการเมือง โดยเชิญ นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร , นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม , น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะ กรรมการบริหารและซีอีโอกลุ่ม WHA คอร์ปอเรชั่น


โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเปิดเสวนา ว่า ที่มาของการจัดงานในวันนี้ คือตอนที่มีการประชุมใหญ่เลือกคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคชุดใหม่มาได้ครึ่งทางแล้ว เราพักกินข้าวกล่องกัน และเราพูดว่าสิ่งที่เราต้องการมาทำงานคือ การเปลี่ยนแปลงสภาพการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน สำคัญ 2 เรื่อง คือ ประการแรก เรามองว่าทุกวันนี้เวลาเราอ่านข่าวการเมืองกับข่าวเรื่องอื่น มันเหมือนมี 2 โลกไม่เชื่อมโยงกัน ในขณะที่ทุกคนมีความทุกข์มีความกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจสังคมไทย แต่การเมืองกลับไม่มาถกเถียงในประเด็นเรื่องที่มีความสำคัญ เราอยากให้การเมืองกลับมาสนใจในเรื่องของภาพใหญ่ของประเทศที่วันนี้ถือเป็นความท้าทายที่สุด เพราะเราต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วไป และประกันที่ 2 เราอยากแสดงให้เห็นว่า การเมืองนั้นต้องพร้อมที่จะรับฟัง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ไม่น่าเชื่อว่าวันนั้นที่สนทนากันตอนกินข้าวกล่อง เราขอให้เสนอชื่อวิทยากรด้วยความรวดเร็ว 3 ท่านนี้ปรากฏชื่อขึ้นมา เพราะนอกจากจะเป็นผู้นำทางความคิดแล้วยังเป็นผู้ปฏิบัติจริง เพราะฉะนั้นวันนี้ความตั้งใจคือเราอยากให้ท่านมีอิสระเต็มที่ในการมาบอกกับพรรคการเมืองว่า วันนี้ประเทศไทยต้องการอะไร วันนี้เราต้องการอะไรจากพรรคการเมือง เพื่อที่จะมาช่วยกันแก้ไขปัญหาของประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป

โดยวิทยากรทั้ง 2 ใน 3 คน บอกที่ผ่านมาเลือกพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด ยกเว้นครั้งล่าสุด ครั้งนี้หวังคงไม่ป็นอย่างงั้น

ขณะที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร ถามวิทยากรว่า จะทำอย่างไร ที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้ง เพราะ 33 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยชนะการเลือกตั้ง โดยนายบรรยง ไม่ขอตอบ เพราะตอบไม่ได้ ทำให้นายสุวิทย์ ตอบแทนว่า ในฐานะที่อยู่การเมืองมา จิตวิญญาณไม่เคยมอดไหม้ ก่อนชนะเลือกตั้ง ต้องชนะใจประชาชนก่อน ต้องทำให้ประชาชนคิดว่า เราอยู่แบบนี้ไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่วาทกรรม แต่คือความจริงที่ประชาชนไม่ได้เห็น ที่ต้องทำให้เขาคิดถึงลูกและหลานในอนาคต สิ่งแรกคือความตั้งใจ ในการนำเสนอพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ว่าจะทำอย่างไร จะมาบอกว่าชนะเลือกตั้ง มันเป็นไปไม่ได้

"เพราะโจทย์มี 2 เรื่อง คือ นอกจากรีเซตพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ต้องรีเซตประเทศไทยด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะฉะนั้น การชนะการเลือกตั้ง ไม่ได้หมายความว่าเราจะตอบโจทย์นี้ได้ เพราะเรากำลังเปลี่ยนพื้นฐานของประเทศ ดังนั้น ต้องใจเย็น และต้องมองไปไกลๆ ว่าจะต้องบาลานซ์กันอย่างไร" นายสุวิทย์ กล่าว

นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยน ผมเชื่อว่าจิตวิญญาณที่มีอยู่ ผสมผสานกับการยอมรับกับการเปลี่ยนแปลง และหากสเต็ปที่ 1 คือการเปลี่ยนพรรคไม่ผ่าน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนประเทศในสเต็ปที่ 2 ได้ ดังนั้น ถ้ามีการเลือกตั้งปีหน้า ผมคิดว่า จะทำอย่างไรให้ประชาชนเห็นในสิ่งที่เราเชื่อ โดยที่เรามีการปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม

ขณะเดียวกัน นายสุวิทย์ ยังกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมารัฐบาลง่วนอยู่กับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และทะเลาะกับเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ ที่ต้องให้เวทีเขา ไม่ใช่ปล่อยให้พรรคการเมืองไปกล่อมเกลา ดังนั้น พรรคต้องมีการผสมผสานระหว่างคนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่ เข้าด้วยกัน ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ ต้องคิดจริง ทำจริง อยู่ในทิศทางทีทถูกต้อง ถ้าไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง ใจร้อนไป คุณก็ตกเหว เหมือนงูในท่อ ประเทศไทยต้องมีท่อไม่เล็กเกินไป จนงูเลื้อยไม่ได้เคลื่อนหรือกว้างเกินไปจนไม่รู้ทิศทาง แต่ต้องวางทิศทางอย่างอิสระ งูจะเลื้อยไปเอง ตนจึงมองว่า พรรคประชาธิปัตย์ หากนายอภิสิทธิ์ยังอยู่ จะไม่มีก๊อกเดียว คงจะมีไปเรื่อยๆ แต่คงไม่ไกลถึงขั้นต้องร้องเพลง ขอเวลาอีกไม่นาน

นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังขอฝากการบ้านไว้ 3 ข้อ เริ่มจาก ช่วงก่อนการเลือกตั้งพรรคการเมืองใด ที่พูดนโยบายประชานิยมที่เกินความจริง ขอให้นักวิชาการออกมาตอบโต้ประเด็นเหล่านี้ด้วย ขณะในยุคปัจจุบันเกือบทุกเรื่องมีคำตอบไม่ขาวก็ดำเท่านั้นตนชอบ ที่นายบรรยง บอกว่ามันมีเรื่องของความพอดีในการผลักดันความเปลี่ยนแปลงแต่ในทางการเมืองขณะนี้ทั่วโลกพรรคการเมืองที่พยายามจะเสนออะไรที่อยู่บนความพอดี แทบจะยืนอยู่ไม่ได้ เพราะถูกความสุดโต่งของทั้ง 2 ข้างถล่ม ยังมีพลังมาก

"อยากจะรบกวนว่าผู้นำทางความคิดทั้งหลาย ต้องช่วยให้สติกับสังคม เวลาที่มีประเด็นเหล่านี้ สุดท้ายก็จะถูกถามกลับว่า วันนี้ท่านจะช่วยบ้านเมืองอย่างไร ดังนั้น ประการสุดท้าย เมื่อใจมาแล้ว ถึงจุดหนึ่งคงต้องขอตัวทั้ง 3 ท่านมาช่วยเต็มตัว" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ถามนายอภิสิทธิ์ว่า นายบรรยง เสนอให้เชิญ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ และ คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช กลับมาพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธ์ กล่าวว่า ตอนที่มีข่าวว่าตนจะกลับมามีโอกาสได้พบกับทั้ง 2 คน แต่คงจะไปไกลแล้ว

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top