'นายกฯ'ขอโทษ ปชช.ทำเข้าใจผิด ปมบอกไทยก็รุกล้ำพื้นที่เขมร แจงหมายถึงพื้นที่อ้างสิทธิ์

'นายกฯ'ขอโทษ ปชช.ทำเข้าใจผิด ปมบอกไทยก็รุกล้ำพื้นที่เขมร แจงหมายถึงพื้นที่อ้างสิทธิ์

วันอังคาร ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 16.52 น.

"นายกฯ"ขอโทษประชาชนทำเข้าใจผิด ปมบอกไทยก็รุกล้ำพื้นที่เขมร แจงหมายถึงพื้นที่อ้างสิทธิ์ รับเงื่อนไข 4 ข้อ ไม่น่าจบทัน 4 เดือน ฟื้นร่วมมือปราบสแกมเมอร์ บอกไม่รู้จักนักการเมือง ช. ท้า"โรม"ถ้ามั่นใจเปิดชื่อมาเลย เชื่อจะเป็นประโยชน์

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ระบุว่าไทยก็มีการรุกล้ำพื้นที่ของกัมพูชา โดยอยากให้นายกรัฐมนตรีช่วยสร้างความชัดเจนเรื่องดังกล่าวว่า เมื่อเช้า (28 ต.ค.) ตนให้สัมภาษณ์ไปแล้ว เราต้องบอกว่าต่างคนก็ต้องทำตามข้อตกลงที่ระบุไว้ และที่ตนพูดนั้น หมายถึงพื้นที่อ้างสิทธิ์ ต่างคนต่างอ้างสิทธิ์กันอยู่ เราก็ทำให้มันเคลียร์ไป


ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นพื้นที่ที่กำลังมีปัญหาข้อพิพาทอยู่ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พื้นที่ที่มีปัญหาอยู่ ซึ่งทั้งสองฝั่งต้องเจรจาต่อไปเพื่อให้เกิดความชัดเจน ไม่มีอะไรหรอก

เมื่อถามว่า จากการให้สัมภาษณ์มีประชาชนเกิดความสับสนในเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ขอขอโทษด้วยที่ทำให้เกิดความสับสน ตนต้องการจะบอกว่า ทุกอย่างทั้งสองฝ่ายต้องทำตาม

เมื่อถามว่า มีการเผยแพร่ภาพนายกรัฐมนตรี จับมือกับ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีความรู้สึกอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เราลงนามเรื่องของข้อตกลง และทางฝ่ายกัมพูชาก็ขอพบ พร้อมทั้งแจ้งให้เราได้ทราบว่าข้อตกลงต่างๆ จะดำเนินการไปด้วยความรวดเร็ว ซึ่งตนเรียน นายฮุน มาเนต ไปว่าประเทศไทยก็พร้อมดำเนินการในส่วนของเรา เมื่อทางกัมพูชาได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อแล้ว ซึ่งเขายืนยันว่าจะเร่งปฎิบัติ และพูดกับเราว่าในส่วนที่เราต้องดำเนินการ เช่น กรณีการคืนตัวทหารกัมพูชา 18 นาย เราก็บอกว่าถ้ามีการปฏิบัติตามข้อตกลง ไปถึงจุดที่ฝ่ายทหารของเรามีความแน่ใจแล้วว่าเราจะทำเรื่องนี้ได้จนจบ เราก็พร้อมที่จะคืนตัว ซึ่งขณะนี้เราเตรียมการเรื่องการตรวจสุขภาพของทหารฝ่ายเขา เพื่อให้มั่นใจว่า เมื่อเดินทางกลับไปแล้วจะได้ไม่มีข้อสงสัยว่าได้รับการปฏิบัติไม่ดีหรือถูกทารุณ

เมื่อถามว่า ทางกัมพูชามีการหยิบยกเรื่องการเปิดด่านขึ้นมาพูดด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี เขาคงทราบว่าเรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องท้ายๆ

เมื่อถามว่า ได้มีการหารือเรื่องการถอนอาวุธหนักหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการแจ้งว่าถอนไปแล้ว แต่ยังมีการซ่อนอยู่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer Team : AOT) ส่วนใหญ่เป็นผู้ช่วยทูตทหารอาเซียน

เมื่อถามว่า เงื่อนไขทั้ง 4 ข้อ คาดหวังว่าจะจบรัฐบาลนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น่าจะใช้เวลา 1 - 2 เดือน ในเรื่องการเก็บกู้วัตถุระเบิด

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หมายถึงการปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่น่าทัน อย่างเรื่องสแกมเมอร์ก็ต้องกลับมาทำงานร่วมกันใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายตำรวจ และฝ่ายความมั่นคงเคยทำงานร่วมกัน แต่พอมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ก็หยุดไป แต่ต้องกลับมาทำใหม่ เพราะเรื่องสแกมเมอร์ต้องปรับไปเรื่อยๆ

เมื่อถามว่า หากบรรลุข้อตกลง 4 ข้อแล้ว เรื่องการสร้างกำแพงต้องดำเนินการหรือไม่ต่อไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องว่ากันไป เป็นเรื่องของกองทัพที่ต้องเจรจา

เมื่อถามว่า มีการเผยชื่อนักการเมือง ช. ที่รับเงินสแกมเมอร์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ผมไม่รู้ว่า ช. ไหน"

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีข้อมูลว่าอยู่ในขั้วของรัฐบาลด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้ามีความชัดเจนแล้วก็น่าจะเปิดเผยชื่อ ถ้ามั่นใจว่าเขาทำผิด ก็จะช่วยได้มากถ้าเปิดเผยชื่อได้ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตำรวจที่รับผิดชอบก็ต้องดำเนินการอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ต้องประสาน นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ด้วยหรือไม่ เพราะ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) อ้างว่านายรังสิมันต์ มีข้อมูล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้ามีจังหวะก็คงต้องประสาน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลมอบหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเจ้าภาพหลักอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คนในพรรคก็มีคนที่มีชื่อ ช. ด้วยหลายคน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "พอแล้วนะ" ก่อนเดินออกจากการให้สัมภาษณ์

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top