วันพุธ ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2568
‘โฆษก กมธ.MOU43-44’เผยศึกษา MOU43 เสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปยกเลิกหรือไม่ ชี้ไม่มีระบุข้อมูลแผนที่ 1:200,000 มอง‘ยกเลิก’ได้ยาก ชี้ต้องสื่อสารกับประชาชนให้รอบด้าน แต่บางข้อยังเป็น‘ข้อมูลลับ’ ย้ำไทยต้องไม่เสียประโยชน์ คาดต้นเดือน ธ.ค.ได้ข้อสรุป
เมื่อเวลา 09.25 น.วันที่ 29 ต.ค.68 ที่รัฐสภา นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding : MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยความคืบหน้าการประชุม ว่า การหารือวันนี้จะเป็นกรอบแนวทางศึกษา MOU 44 ซึ่งในส่วนของ MOU 43 ได้พิจารณาจบไปแล้วในเบื้องต้น ซึ่งจะมีการสรุปออกมาอีกครั้งหนึ่ง โดย MOU 43 มีความเห็นแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายที่อยากให้มีการแก้ไข และฝ่ายที่อยากให้ยกเลิก จึงยังไม่มีความชัดเจนว่าจะแก้ไขได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นความเห็นทางกฎหมาย ส่วนการยกเลิกน่าจะเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะจะต้องนำเสนอต่อประชาชนเพราะข้อเท็จจริงบางข้อเป็นข้อมูลลับไม่สามารถเปิดเผยได้ต่อสาธารณะ
นายปิยรัฐ กล่าวต่อว่า ดังนั้นการให้ข้อมูลอย่างรอบด้านจึงไม่สามารถทำได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นความลำบากใจของกมธ.ฯ โดยบรรยากาศในห้องประชุมกมธ.ฯ ผู้ที่มาชี้แจงได้มีการขอไม่ให้มีการบันทึกหรือขอให้เป็นการประชุมลับ ส่วนการศึกษา MOU 44 นั้น ที่ประชุมวันนี้จะแบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายที่จะให้ยกเลิก และฝ่ายที่อยากให้คงไว้ คาดว่าวันนี้จะได้ข้อสรุปว่าจะไปทิศทางใด
เมื่อถามว่าจากการศึกษามีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การประชามติได้หรือไม่ นายปิยรัฐ กล่าวว่า น่าจะมีการพิจารณาเรื่องนี้หลังจากได้ข้อสรุป MOU 44 แล้ว ซึ่งต้องพิจารณากันว่าจะจัดทำเป็นข้อเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)หรือจะนำข้อเสนอนี้พิจารณาในที่ประชุมใหญ่ของสภาต่อไป
ส่วนเป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุง นายปิยรัฐ กล่าวว่า ตอนนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ต้องปิดห้องคุยกันอีกครั้ง เพราะมีข้อมูลในเชิงผลประโยชน์ของประเทศไทยพอสมควร ซึ่งเรื่องนี้หากนำเสนอสู่สาธารณะอาจเสียหายได้
ต่อข้อถามว่าในเรื่อง MOU บางอย่างเป็นความลับการทำความเข้าใจกับประชาชนเป็นเรื่องยาก อาจจะทำให้ครึ่งหนึ่งไม่ยกเลิก ส่วนอีกครึ่งหนึ่งสามารถใช้ได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ นายปิยรัฐ กล่าวว่า เป็นปัญหาใหญ่เมื่อจะทำประชามติต้องมีกลไกในการนำเสนอต่อประชาชนเพื่อให้มีข้อมูลที่รอบด้าน ซึ่งต้องเป็นข้อตกลงว่าจะทำอย่างไรในการสื่อสารกับประชาชน โดยไม่ให้ประเทศไทยเสียผลประโยชน์เป็นส่วนที่สำคัญ ทั้งนี้เห็นว่าหากกรอบนี้เป็นกรอบกว้างให้มีการตั้งโต๊ะเจรจาหารือก็ยังคงกรอบนี้ไว้ก่อน แต่หากเมื่อไหร่ที่มีกรอบชัดเจนกว่าดีกว่า ก็นำกรอบนั้นมาและขอยกเลิกตัวนี้ได้ เป็นการเปรียบเทียบให้ประชาชนเห็นว่ากรอบใหม่ดีกว่าอย่างไร นั่นคือสิ่งที่ต้องทำให้ได้
“ดังนั้นตอนนี้ยังตอบคำถามชัดเจนเกี่ยวกับตัวเลือกในการทำประชามติไม่ได้ยกตัวอย่างเรื่องการทำ แผนที่ 1:200,000 ที่เถียงว่าไม่ดี แล้วจะมีข้อเสนอใหม่อะไรที่ดีกว่า ซึ่งแผนที่ 1:200,000 ในMOU43 ระบุเฉพาะสัดส่วนดังกล่าวจริงหรือไม่ เมื่อมาพิจารณากันแล้วก็ไม่ใช่ ใน MOU ฉบับดังกล่าวไม่ได้ระบุเอาไว้ ยังมีออโต้แมพอีกมากมายที่สามารถใช้ได้ นั่นคือกรอบการเจรจาที่เปิดกว้าง”โฆษกกมธ.ฯ กล่าว
เมื่อถามว่ากมธ.ฯต้องรอข้อมูลนี้จากรัฐบาลที่มีการตั้งทหารให้ศึกษาข้อมูลนำมารวมกันหรือไม่ นายปิยรัฐ กล่าวว่า พร้อมนำข้อมูลจากทุกฝ่ายมาประกอบการพิจารณา เพราะในกมธ.ฯมีทั้งกรมสนธิสัญญาระหว่าง ,ทหาร ,กรมทหาร ,เจ้ากรมต่างๆ ร่วมในกมธ.ฯ ที่จะดึงข้อมูลจากทุกฝ่ายมาประกอบการตัดสินใจในเรื่องนี้ ซึ่งกมธ.ฯจะประชุมอีกไม่เกินสิ้นเดือนต.ค.นี้จะมีความชัดเจน คาดการณ์ว่าช่วงต้นเดือนธ.ค.จะมีผลแรงรายงานของกมธ.ฯออกมา
นายปิยรัฐ ยังกล่าวเกี่ยวกับความเห็นต่างของสังคมเกี่ยวกับการยกเลิกหรือไม่ยกเลิกจะนำไปสู่ความขัดแย้งของคนในสังคมหรือไม่ว่า จะต้องให้ได้ข้อสรุปว่าหากยกเลิก MOU จะเกิดความเสียหายอย่างไร หรือถ้าไม่ยกเลิกจะมีผลได้อย่างไร หลังจากนี้จะต้องคิดต่อว่าจะนำเสนอต่อประชาชนอย่างไร
“แน่นอนตอนนี้เรากังวลใจเรื่องเดียวคือการสื่อสารกับประชาชนต้องสื่อสารได้ข้อมูลที่ครบถ้วนรอบด้านที่สุด เราต้องกลั่นออกมาให้สามารถสื่อสารได้มากที่สุด แต่ตอนนี้ในกมธ.ฯยังมีหลายคนที่ไม่สามารถให้ข้อมูลที่เปิดเผยได้ ซึ่งเป็นข้อกังวลใจ แต่ก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เมื่อไปนั่งอยู่ตรงนั้นเราจะรู้เลยว่าเรื่องนี้หากพูดออกไปเราอาจจะเสียหายหรือเราอาจจะไม่ได้ประโยชน์ตามที่ต้องการจริงๆ เป็นความลำบากใจพอสมควร” นายปิยรัฐกล่าว
ต่อข้อถามว่าเรื่องการลงนามปฏิญญาสันติภาพจะทำให้การพิจารณาของกมธ.ฯถูกลดความตึงเครียดลงหรือไม่ เพราะเหมือนจะได้ข้อยุติแล้ว นายปิยรัฐ กล่าวว่าต้องยอมรับว่าเป็นทิศทางที่บวกขึ้นในเชิงของการตั้งโต๊ะเจรจาพูดคุยกัน ทำให้บรรยากาศอาจจะคลี่คลายในระดับหนึ่ง เช่นเดียวกับกรอบMOU43-MOU44 เป็นกรอบที่ทำให้ทุกคนทุกฝ่ายได้นั่งคุยกัน ก็เป็นข้อดีในส่วนที่ยังมีอยู่
นายปิยรัฐ กล่าวด้วยว่า ทุกคนต่างรอผลการศึกษาของกมธ.ฯชุดนี้ ซึ่งข้อมูลที่มีอยู่และข้อถกเถียงหลายข้อมาจากทุกฝ่าย ซึ่งในกมธ.ฯมีทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล เจ้าหน้าที่ประจำ รวมถึงข้าราชการที่ดำเนินการเรื่องนี้มากกว่า 30 ปี เช่นเจ้ากรมแผนที่ทหารเป็นข้อมูลที่สำคัญมาก จึงอยากให้ทุกฝ่ายรอผลการพิจารณาจากกมธ.ฯชุดนี้ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ และเป็นบันทึกที่เป็นทางการที่สุดในเวลานี้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี