‘พปชร.’ยื่น‘ปธ.สภาฯ’ บี้ตรวจสอบ‘ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์’โยงปม‘แรร์เอิร์ธ’

‘พปชร.’ยื่น‘ปธ.สภาฯ’ บี้ตรวจสอบ‘ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์’โยงปม‘แรร์เอิร์ธ’

วันพุธ ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 14.59 น.

"พปชร."ยื่น"ปธ.สภาฯ" บี้ตรวจสอบ"ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์"โยงปม"แรร์เอิร์ธ" หวั่นลาก"ไทย"ต้องเลือกข้าง เปิดช่องต่างชาติแทรกแซงกิจการในประเทศ ชี้อาจฝ่าฝืน"รธน.มาตรา 3"

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นหนังสือต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่าน นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาฯ เพื่อให้ตรวจสอบความเหมาะสมของท่าทีทางภูมิรัฐศาสตร์ของรัฐบาลต่อปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ และบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับแร่หายาก


นายธีระชัย กล่าวว่า ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ ที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ไปลงนามมีข้อวิจารณ์ว่าล้มเหลว มองใน 2 ประเด็นที่ล้มเหลว 1.ล้มเหลวเรื่องการปราบปรามสแกมเมอร์ 2.ล้มเหลวล้มเหลวการแก้ปัญหาบ้านหนองจาน และบ้านหนองแก้ว ซึ่งในเรื่องของสแกมเมอร์ อ่านเนื้อหาในตัวปฏิญญา ปรากฏว่าพูดถึงปัญหาสแกมเมอร์เบาบางมาก ไม่มีคำว่าสแกมเมอร์หรือคอลเซ็นเตอร์ชัดเจน ซึ่งขั้นตอนในการดำเนินการโยนไปอยู่ที่คณะกรรมการจีบีซี ซึ่ง พล.อ.ณัฐพงศ์ นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ได้ออกมาพูดถึงความคืบหน้าว่ามีการตั้งหน่วยงานตำรวจของทั้งสองฝ่าย ทำการกวาดล้าง แต่ตนเห็นว่าปฏิญญาดังกล่าวไม่มีการกำหนดกรอบแผนงาน ซึ่งลักษณะอย่างนี้จะลากไปได้ยาว และการให้องค์กรตำรวจของทั้งสองประเทศมาร่วมทำแผนปฏิบัติการยิ่งไม่น่าเชื่อถือ เพราะมีข่าวว่าวงการข้าราชการ และการเมืองของสองประเทศเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ ดังนั้น วิธีการที่จะจัดการสแกมเมอร์ได้อย่างแท้จริง ซึ่งคณะของตนเคยยื่นต่อประธานสภาฯ ไปแล้ว อาทิ การตัดเส้นทางการเงิน ตัดจ่ายไฟ จ่ายน้ำมัน ตัดเน็ต รวมถึงห้ามส่งออกทองคำไปกัมพูชา เป็นต้น

นายธีระชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับแร่แรร์เอิร์ธ ซึ่งเปิดช่องทางเฉพาะพิเศษให้สหรัฐฯ สามารถล่วงรู้ข้อมูลเกี่ยวกับแร่หายาก ล่วงรู้การจัดลำดับขั้นตอนดำเนินการของโครงการต่างๆ สามารถได้รับสิทธิการเข้ามาลงทุนเหมืองแร่ก่อนผู้อื่น รวมไปถึงโครงการเกี่ยวกับการถลุงและแต่งแร่ สามารถเข้ามาแทรกแซงในการยกร่างหรือแก้ไขทบทวนกฎระเบียบเกี่ยวกับแร่หายากเพื่อความมั่นคงของชาติไทย ได้รับสิทธิที่ไทยจะต้องแจ้งให้ทราบถึงการเปิดประมูลการทำแร่ในลำดับต้นเพื่อจะเตรียมการเข้าร่วมประมูลทันเวลา ซึ่งตนเห็นว่าเป็นการแสดงท่าทีที่รัฐบาลไทยเลือกข้างท่ามกลางความขัดแย้งครั้งใหญ่ระหว่างมหาอำนาจสองฝ่ายในเรื่องแร่หายากที่ตึงเครียดอยู่ในขณะนี้ และยังเป็นการเปิดให้สหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงล่วงรู้ข้อมูลลึกด้านทรัพยากรธรรมชาติ ได้รับสิทธิแทรกแซงในการตราข้อกำหนดในเรื่องความมั่นคงของไทย รวมทั้งได้รับสิทธิทางธุรกิจก่อนชาติอื่น ซึ่งอาจตีความได้ว่าเข้าลักษณะเป็นการแสวงหาอำนาจนอกอาณาเขตดังเช่นในสมัยการล่าอาณานิคมอย่างหนึ่ง

นายธีระชัย กล่าวต่อว่า ตนจึงมีความจำเป็นต้องขอให้ประธานสภาฯ ตรวจสอบเพื่อจะชี้แนะให้เป็นประโยชน์แก่รัฐบาล เกี่ยวกับการลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับแร่หายาก มีผลเป็นการเลือกข้างในด้านการเมืองระหว่างประเทศอันเป็นการฝ่าฝืนหลักการรักษาความเป็นกลางซึ่งเป็นหลักการที่สำคัญในด้านนโยบายการต่างประเทศที่ไทยยึดถือมาตลอด และเข้าข่ายเป็นการส่อเจตนาเปิดช่องทางให้สหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงการบริหารบ้านเมืองของไทย อาจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 3 ที่บัญญัติไว้ว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ซึ่งไม่สามารถเปิดให้บุคคลชาติอื่นใดแทรกแซงเข้ามามีอิทธิพลได้ และการเร่งรีบลงนามในปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ ทั้งที่ไทยได้เปรียบด้านสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การเผยแพร่ต่อประชาชนเรื่องแผนที่เกี่ยวข้องกับ MOU 2543 โดยอ้างว่าจะใช้เทคโนโลยี LiDAR แทน และต่อไปจะไม่มีแผนที่ 1:200,000 แล้ว ซึ่งเป็นข้อมูลไม่ถูกต้อง การยอมรับข้อความในปฏิญญาที่ไม่กำหนดแผนงานชัดเจนในการปราบปรามสแกมเมอร์ ซึ่งการกระทำเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดความเคลือบแคลงในใจประชาชนชาวไทยและสื่อมวลชนโลก

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top