'กลุ่มสว.สำรอง'ร้องศาลฎีกาฯ บี้ 136 สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่-กกต.ส่งสำนวนคดีฮั้ว

'กลุ่มสว.สำรอง'ร้องศาลฎีกาฯ บี้ 136 สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่-กกต.ส่งสำนวนคดีฮั้ว

วันพฤหัสบดี ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 12.49 น.

"กลุ่ม สว.สำรอง"ร้องศาลฎีกาคดีเลือกตั้งให้ สว.ชุดปัจจุบัน 136 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้ กกต.ส่งสำนวนคดีฮั้ว สว.มาที่ศาลภายใน 7 วัน พร้อมกำลังใจ"สว.นันทนา"ได้รับความเป็นธรรม ภายหลังจากโดนโหวตฝ่าฝืนจริยธรรม

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ที่ศาลฎีกา ถ.ราชดำเนินใน พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว พร้อมกลุ่มตัวแทน สว.สำรอง 10 คน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยและมีคำสั่งถอดถอนสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 136 คน รวมทั้งมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วย


พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า วันนี้ตนและตัวแทน สว.สำรองเดินทางเข้ามายื่นคำร้องต่อศาล เนื่องจากที่ผ่านมา กกต.ใช้เวลาค่อนข้างนานในการพิจารณาคดีการฮั้ว สว.เกินกว่าที่กำหนด จากการประกาศผลเลือกตั้งเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 หลังจากนั้นก็ร้องคัดค้านมาหลายครั้ง รวมถึง นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ก็แถลงในวันประกาศผลเลือกตั้งด้วยว่ามีการร้องคัดค้าน และการสอบสวนจำเป็นต้องมีการรวบรวมข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยจะมี ปปง.และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้ามารวบรวมหลักฐาน หลังจากนั้นก็มีการสอบสวนพยาน คือ กลุ่ม สว.สำรอง อย่างพวกตนเรื่อยมา แต่พอไปติดตามความคืบหน้าก็ไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษยื่นมือเข้ามาดำเนินการในเรื่องคดีอั้งยี่ ฟอกเงิน และการฮั้ว สว.เข้ามาให้กับทาง กกต.ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นจึงมีการตั้งคณะสอบสวนชุดที่ 26 เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม จนถึงวันที่ 17 กรกฎาคม กกต.ชุดสืบสวนชุดนี้จึงส่งหลักฐานให้กับ กกต.หลังจากนั้น กกต.ได้ดำเนินการตรวจสำนวนหลักฐานอีกประมาณ 60 วัน และส่งให้คณะกรรมการ กกต.ชุดใหญ่จนตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยขึ้นมาอีกชุดและดำเนินการเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ถ้าว่ากันตามระเบียบการไต่สวนของ กกต.ที่ออกไว้และระบุว่าการดำเนินการทั้งหมดจะต้องเสร็จสิ้นช้าที่สุดภายใน 1 ปี แต่ขณะนี้เรื่องผ่านมา 1 ปี กับอีก 4 เดือนแล้ว ทางคณะ สว.สำรอง ก็ได้มีการไปทวงถามความคืบหน้าเพื่อให้ทาง กกต.ได้ชี้แจงว่ามีส่วนไหนติดขัดหรือล่าช้า แต่ทาง กกต.ไม่ได้บอกอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่บอกแค่ว่ามีการดำเนินการ 4 ขั้นตอน ในกรอบเวลาของ กกต.ในส่วนนี้กลุ่ม สว.สำรอง จึงเห็นว่า กกต.มีการยื้อเวลาเรื่องนี้แม้กระทั่งการตั้งชุดวินิจฉัยที่ผ่านมาระยะเวลา 1 เดือนเศษ กลับไม่มีการประชุมหารือเรื่องนี้เลย ตนจึงสงสัยว่าจะตั้งชุดวินิจฉัยดังกล่าวเพื่อดึงเวลาหรือเร่งรัดอะไรหรือไม่ จึงมีคณะ สว.สำรอง อีกกลุ่มหนึ่งเดินทางไปฟ้อง กกต.ในคดีอาญามาตรา 157 และมาตรา 172 ไว้ส่วนหนึ่งแล้ว แต่ กกต.กลับไม่ได้มีท่าทีจะเร่งรัดคดีดังกล่าวแต่อย่างใด

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวอีกว่า ตนจึงมองว่า กกต.น่าจะกระทำผิดไม่ปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับที่ กกต.กำหนดไว้เอง และกลุ่ม สว.สำรอง ได้เห็นว่า กกต.ได้กระทำผิดจึงใช้สิทธิ์ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งภายใน 3 วัน และอยากเรียกร้องความเป็นธรรมและความยุติธรรมเพื่อให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิจารณาสั่งการไปยัง กกต.ว่าให้สรุปและนำสำนวนทั้งหมดส่งมายังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ภายใน 7 วัน

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวอีกว่า ในขณะนี้เจตนาของการยื้อเวลาเพื่อส่งให้ สว.ในสภาใช้สิทธิ์ในการเลือกหรือเห็นชอบองค์กรอิสระต่างๆ ตนและกลุ่ม สว.สำรอง จึงจะขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งขอให้ สว.กลุ่มนั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่ง

เมื่อถามว่า มีความเห็นอย่างไรกับการที่ รศ.นันทนา นันทวโรภาส สว.ถูกกลุ่ม สว.โหวตฝ่าฝืนจริยะธรรมและส่งเรื่องให้กับ ปปช. พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ในเรื่องจริยธรรมตนมองว่าเป็นเรื่องนามธรรม บางอย่างอาจจะเป็นสีดำมากกว่า แต่อาจจะมองว่าไม่ผิดจริยธรรม แต่กรณีของ รศ.นันทนา อาจจะมีสีดำจุดเล็กๆ ขึ้นบนสีขาว และทางกลุ่มของตนมองว่ากรณีนี้ รศ.นันทนา ได้พยายามต่อสู้และมีเจตนารมณ์หลายอย่างที่ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม ก่อนหน้านี้กลุ่มของตนจึงได้เข้าไปให้กำลังใจเจ้าตัว เพราะเชื่อว่า รศ.นันทนา มีความสุจริตใจและต้องการหาความจริง ตนจึงหวังว่าเจ้าตัวจะได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรมจาก ปปช.

- 006

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top